xs
xsm
sm
md
lg

ว่อนสื่อหลายสำนัก เฟซบุ๊กชนาพรรณพี่สาวธนาธร แจงไม่ได้ประโยชน์โครงการรถคันแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข้อความที่อ้างว่าเป็นของ “ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” พี่สาวของ “ธนาธร” อ้างไม่ได้ประโยชน์จากโครงการรถคันแรก ชี้ถูกบิดเบือนคำสัมภาษณ์ในนิตยสารฟอร์บส์ ทำให้เสื่อมเสีย

วันนี้ (15 ก.ค.) สื่อมวลชนหลายสำนัก เช่น เดอะสแตนดาร์ด มติชนออนไลน์ สปริงนิวส์ เดลินิวส์ออนไลน์ ฯลฯ เผยแพร่ข่าวอ้างว่ามาจากเฟซบุ๊กของ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท พี่สาวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตพรรคอนาคตใหม่ ถึงกรณีเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Forbes เมื่อเดือน ก.ค. 2561 ซึ่งครบเป็นเวลา 3 ปีพอดี ใจความส่วนหนึ่งระบุว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มไทยซัมมิทต้องเผชิญความผันผวนในหลายด้านตั้งแต่ภัยน้ำท่วมปี 2554 นโยบายรถคันแรกหรือแม้แต่ช่วงราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จึงทำให้ตัวเลขรายได้รวมของกลุ่มไทยซัมมิทมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม รายได้ยังเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี และเติบโตสูงสุดที่ 7.5 หมื่นล้านบาทในปี 2555 จากนโยบายคืนภาษีรถคันแรก ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศสูงถึง 2.4 ล้านคัน และมียอดขายในประเทศถึง 1.4 ล้านคัน แม้หลังจากนั้นยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศจะไม่เคยแตะ 2 ล้านคันอีกเลย เช่นเดียวกับที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศก็ไม่เคยขึ้นไป 9 แสนคัน จึงตั้งเป้าต่อจากปีนี้ตั้งเป้าว่าหากมาตรการภาษีรถคันแรกจบ ยอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะขึ้นไปได้ถึง 8 แสนคันนั้น
จากบทสัมภาษณ์ดังกล่าว หากอ่านให้ครบถ้วนกระบวนความจะเข้าใจความหมายได้ว่าถ้อยคำได้มุ่งเน้นว่ายอดการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2555 สูงมากเนื่องจากมีนโยบายรถคันแรกเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมโดยรวม เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปีก่อนหน้า ซึ่งโรงงานส่วนใหญ่ที่โดนน้ำท่วมเป็นโรงงานผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน และหลายบริษัทเป็นบริษัทญี่ปุ่น จึงมีการทวงถามจากบริษัทต่างชาติและการทวงถามในเชิงรัฐต่อรัฐถึงการช่วยเหลืออย่างมาก รัฐบาลจึงออกหลักเกณฑ์รถคันแรกขึ้น ซึ่งเป็นธรรมดาว่าเมื่อยอดขายของลูกค้าคือผู้ผลิตรถยนต์มีมากขึ้น ในฐานะของผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ย่อมขายมากไปด้วย

คำสัมภาษณ์ดังกล่าวผ่านมา 3 ปี และเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาเกือบ 10 ปี แต่ก็ยังมีผู้ที่พยายามนำเรื่องนี้ไปโยงการเมืองว่ามีการออกนโยบายรถคันแรกเพื่อเอื้อไทยซัมมิท ทั้งๆ ที่ในช่วงเวลานั้นไม่มีบุคคลในครอบครัวคนใดข้องเกี่ยวกับทางการเมืองเลย และมีข่าวให้เห็นมากมายว่าผู้ที่เดือดร้อนและกดดันรัฐบาลคือนักลงทุนต่างชาติ จากที่มีผู้โจมตีบิดเบือนว่างบ 9.1 หมื่นล้านที่รัฐบาลในขณะนั้นออกมาเพื่อช่วยเหลือ ไทยซัมมิทกวาดงบรัฐไป 7.5 หมื่นล้าน ความเป็นจริงก็คือตัวเลขดังกล่าวคือยอดขายของไทยซัมมิททั้งหมดในปีนั้น แต่บริษัทก็มีฐานยอดขายของตัวเองเป็นจำนวนมากอยู่แล้วและไทยซัมมิทก็ไม่ได้เป็นผู้เรียกร้องวิ่งเต้นใดๆ ในเรื่องนโยบายนี้เลย

การขึ้นลงของรายได้เป็นไปตามปกติจากคำสั่งซื้อของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งเรื่องนโยบายรถคันแรกก็ไม่ได้ส่งผลกับผู้ประกอบการมากเท่ากับผู้ซื้อเองที่เป็นประชาชนคนไทยทั่วไป งบประมาณเหล่านี้ยังถูกนำไปช่วยสนับสนุนแก่ประชาชนผู้ถูกน้ำท่วมและประชาชนที่ซื้อรถเป็นนโยบายที่สร้างประโยชน์แก่ประชาชน ไม่ได้เป็นการสนับสนุนบริษัทใดๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนเป็นพิเศษ

เข้าใจได้ว่าการมีคนในครอบครัวเข้ามายุ่งการเมือง ทำให้ต้องถูกโจมตีบ้างเป็นธรรมดา แต่การบิดเบือนข้อมูลจากคำสัมภาษณ์มาตลอดแบบเดิมๆ เป็นระยะเวลา 3 ปี ทำให้ดิฉันและบริษัทได้รับความเสื่อมเสีย และข้อความนี้ก็ยังถูกนำมาใช้และใช้อย่างบิดเบือนอยู่ตลอดแม้จนถึงปัจจุบัน เมื่อต้องการโจมตีให้บริษัทเข้าไปพัวพันกับการเมือง ดังนั้นจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงแก่พี่น้องประชาชน เพื่อทำความเข้าใจและใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสาร และอยากขอความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ที่ประกอบกิจการด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใสตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาด้วย”

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวค้นหาเฟซบุ๊กของนางชนาพรรณเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กลับไม่พบเฟซบุ๊ก และไม่พบว่ามีการเผยแพร่ข้อความออกมาทางสาธารณะแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น