xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กอู๊ด” นำแถลงนครบาลจับกุม 4 คดีสำคัญ ยาเสพติด-ชิงทรัพย์เด็กปั๊ม-แก๊งลักรถ จยย.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - นครบาลแถลง 191 จับสองผู้ต้องหาลักลอบส่งยาทางพัสดุ ยึดยาบ้า 4 แสนกว่าเม็ด และกัญชา 100 กว่าโล กองสืบรวบเครือข่ายยา ขนจากอีสานเข้ากรุงได้ 8 ล้านกว่าเม็ด สน.บางบอน ตามหิ้วหนุ่มวัย 20 ปี ขับเวฟก่อเหตุชิงทรัพย์เด็กปั๊ม แฉเพื่อนร่วมงานอีกคนรวมหัวก่อเหตุ อีกคดี ศปจร.น.ล่าแก๊งลัก จยย.ดี๋ดี๋ ท่ามะกา”

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 แถลงข่าวตำรวจนครบาลจับกุมคดีสำคัญรวม 4 คดี

พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น.
คดีที่ 1 พล.ต.ต.สำราญ กล่าวว่า บก.สปพ.จับกุม นายสุธินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และ นายธีรภัทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 450,000 เม็ด และกัญชา 146 กก. สืบเนืองจากติดตามเครือข่ายยาเสพติดในกรุงเทพฯ พื้นที่ สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าว ทราบว่า มีการรับส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ จึงลงพื้นที่เฝ้าติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้ที่ลานจอดรถลูคัสคอนโด ซอยนาคนิวาส 7 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จากนั้นเข้าตรวจค้นที่ห้อง 10/10 ชั้น 3 ของคอนโด พบของกลาง ยาบ้า 160,000 เม็ด, กัญชาอัดแท่ง 106 กก., ต้นกัญชา 4 ต้น, อาวุธปืนสั้น 2 กระบอก, กระสุนปืน 50 นัด, อุปกรณ์ปลูกกัญชา 1 ชุด, สมุดบัญชีธนาคาร 14 เล่ม, บัตรกดเงินสด 4 ใบ, เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง, รถยนต์ 1 คัน, รถจักรยานยนต์ 1 คัน และกล่องพัสดุ 23 กล่อง

ก่อนขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/107 ซอยนาคนิวาส 57 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพาว กรุงเทพฯ พบของกลาง ยาบ้า 290,000 เม็ด, กัญชาอัดแท่ง 40 กก., เครื่องซีน 1 เครื่อง, เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง, รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน รวมของกลาง ยาบ้า 450,000 เม็ด และกัญชา 146 กก. โดยรับสารภาพว่า รับยาเสพติดทางพัสดุ และส่งให้ลูกค้าที่ติดต่อผ่านกลุ่มไลน์ ทางระบบขนส่งโลจิสติกส์ ตำรวจมีข้อมูลของผู้รับสินค้า (ผู้เสพ) ประมาณ 3,000 ราย แนะนำให้เข้าสู่กระบวนการบำบัด

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบดรองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบดรองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”โดยแจ้งข้อหา นายธีรภัทร์ เพิ่มว่า “มีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.
คดีที่ 2 พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า บก.สส.บช.น.จับกุม นายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี น.ส.ภนิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี และ นายพีรพล (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 8,410,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สืบเนื่องจากขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในกรุงเทพฯ ทราบว่า นายวิทยา พร้อมพวกพักอาศัยใน จ.สมุทรปราการ

มีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสาน มาส่งให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีเทาดำ ทะเบียน 7 กฆ 7011 กรุงเทพฯ และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ สีดำ บย 6294 ประจวบคีรีขันธ์ จึงสะกดรอยติดตาม กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. สามารถจับกุมกลุ่มของ นายวิทยา ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนสระบุรี-หล่มสัก ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมยึดของกลางทั้งหมด

จากการสอบสวนทราบว่า รับงานมาจากผู้ว่าจ้างให้ขับรถขึ้นไปรับยาเสพติดที่ภาคอีสาน แล้วขับลงมาเก็บไว้ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนจะกระจายจำหน่ายให้ลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ ตรวจสอบประวัติพบว่า นายวิทยา เคยกระทำความผิดครอบครองกัญชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9
คดีที่ 3 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า สน.บางบอน จับกุม นายธนากร หรือ เจมส์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 1 คัน และชุดที่สวมใช้ก่อเหตุ สืบเนื่องจากมีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน ษรง 817 กรุงเทพฯ เข้ามาภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนเอกชัย แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ ทำทีจะมาเติมน้ำมัน

จากนั้นลงจากรถแล้วถือมีดสปาต้าทำท่าทางจะทำร้าย และข่มขู่ให้พนักงานส่งกระเป๋าเงินที่เก็บเงินค่าน้ำมันมา ด้วยความความกลัวจึงยื่นไปให้มีเงินสด 7,000 บาท ก่อนที่คนร้ายนำกระเป๋าใส่ตะกร้าหน้ารถ แล้วขับหลบหนีไปทางถนนบางบอน 3 ต่อมาทำการสืบสวนติดตามจนทราบเส้นทางหลบหนี และตำหนิรูปพรรณ ทราบว่าหนึ่งในพนักงานปั๊ม คือ นายดนิรุจน์ หรือ เติ้ล (สงวนนามสกุล) เป็นเพื่อนของ นายธนากร ได้ร่วมกันวางแผนก่อเหตุ

โดยให้พนักงานปั้มอีกคนซึ่งเข้าเวรกะดึกกับ นายดนิรุจน์ เป็นคนถือกระเป๋าเงินสดของปั๊ม จากนั้นให้ นายธนากร ขับรถเข้ามาใช้มีดชิงทรัพย์ขณะที่ นายดนิรุจน์ จะคอยเกลี้ยกล่อมให้พนักงานที่ถือกระเป๋ายอมยื่นให้ นายธนากร ภายหลังสามารถติดตามจับกุมตัวได้ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธ, ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางบอน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วน นายดนิรุจน์ หลบหนีอยู่ระหว่างติดตามจับกุม

พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น.
คดีที่ 4 พล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวว่า ศปจร.น.จับกุม นายประทีป หรือ ดี๋ดี๋ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี นายสรายุทธ หรือ หมู (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี น.ส.สุธารัตน์ หรือเจน (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี และ นายวิชัย หรือหนู (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี แก๊งลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ “ดี๋ดี๋ ท่ามะกา” พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ทะเบียน 3กย 1610 กรุงเทพฯ, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า 3 คัน, ประแจตัวทีพร้อมด้วยเหล็กลักษณะแบน-ยาว 1 ชุด และขยายผลตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน

สืบเนื่องจาก ศปจร.น.ติดตามจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์โดยชุดสืบสวน สน.คลองตัน และ สน.ทุ่งสองห้อง ลงพื้นที่ติดตามจับกุมหลังจาก นายประทีป หรือ “ดี๋ดี๋ ท่ามะกา” พ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อเดือน ม.ค. 64 ก่อเหตุลักรถในกรุงเทพฯ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง สน.ดินแดง สน.บางเขน สน.พหลโยธิน สน.บางซื่อ สน.สุทธิสาร สน.ทุ่งสองห้อง สน.หัวหมาก สน.ลาดพร้าว สน.วังทองหลาง สน.คลองตัน และ สน.ตลิ่งชัน

ได้เดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรี เข้ากรุงเทพฯก่อเหตุลักรถคันแรกก่อน จากนั้นใช้เป็นยานพาหนะตระเวนก่อเหตุอย่างน้อยคืนละ 2 คัน มากสุด 4 คัน แล้วทิ้งรถคันแรกเอาไว้เพื่ออำพรางคดี แต่คนร้ายได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ก่อนทำการติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ จากการสอบสวนรับสารภาพว่า นำรถที่ลักมาได้กลับไปที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จากนั้นส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่งเป็นคันไม่แยกเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ ราคาคันละประมาณ 7,000 บาท

ก่อเหตุ 2-3 วันต่อครั้ง ใช้รถ 2 คันเป็นยานพาหนะก่อเหตุ เน้นลานจอดรถในคอนโดเป็นหลัก เคยพักอาศัยอยู่ในย่านรามคำแหง จึงทราบว่าผู้เสียหายจอดรถในลักษณะใด ก่อเหตุลักรถไม่น้อย 60 คัน ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 คน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น