กรณีมีสื่อมวลชนท้องถิ่นนำเสนอข้อมูลเรื่องศูนย์ OTOP มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 ที่ปัจจุบันได้ถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลา 10 ปี โดยมุ่งประเด็นไปที่ผู้บริหารชุดใหม่ อบจ.นครพนม อีกทั้งอ้างว่ามีชาวบ้านร้องเรียนให้ อบจ.นครพนม เข้ามาดูแลนั้น
วันนี้ (1 ก.ค.) น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือ นายกขวัญ นายก อบจ.นครพนม กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เป็นเวลา 4 เดือน โดยนโยบายเร่งด่วนในตอนนี้ คือ การช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวบ้าน เน้นปัญหาปากท้อง และความเดือดร้อนที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น โควิค-19 และโรคลัมปีสกีนในวัว ทุกวันตนพร้อมทีมผู้บริหารได้ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้เกิดผลงานเป็นที่ประจักษ์ ส่วนกรณีเรื่องศูนย์ OTOP ที่เป็นประเด็นนั้น มีการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 ผ่านระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว ไม่มีการทำประโยชน์อะไร และก็ไม่มีใครให้ความสนใจ
ตนมองว่า การมารับตำแหน่งแค่ 4 เดือน ควรให้เวลาตนและทีมผู้บริหารได้ทำงานอย่างเต็มที่ก่อน จึงจำเป็นต้องลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชนชาวนครพนมอีกกว่า 7 แสนคน แต่เหตุใดจึงมีการลงข่าวจากสื่อท้องถิ่นสร้างกระแสว่า ผู้บริหารชุดใหม่ละเลยเพิกเฉยต่อหนังสือร้องเรียนชาวบ้าน ต.หนองญาติ ที่ต้องการให้ อบจ.เข้าไปบริหารศูนย์ OTOP ที่ถูกทิ้งร้างมานับ 10 ปี
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงหนังสือร้องเรียน พบว่า ไม่เคยมีการยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีดังกล่าว ตนสงสัยว่าสื่อท้องถิ่นนำข้อมูลจากแหล่งข่าวใดมา ถือว่าเป็นเนื้อข่าวที่สร้างความเสียหายให้กับองค์กร ตนในฐานะผู้นำจำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี จึงได้สั่งการให้ฝ่ายนิติการประมวลเรื่องและแสวงหาหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินการคดีกับสื่อดังกล่าว ในฐานะที่ไม่เคารพจรรยาบรรณอันเป็นคุณธรรมสำคัญ ของอาชีพสื่อสารมวลชน และสร้างความแตกแยกให้กับสังคม
น.ส.ศุภพานี กล่าวด้วยว่า อบจ.นครพนม พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของพ่อแม่พี่น้องชาวนครพนม และตั้งใจที่จะทำงานอย่างสุดความสามารถ ให้สมกับที่ชาวนครพนมให้ความไว้วางใจ หากแต่ขอเพียงเวลาได้พิสูจน์ผลงานก่อน ในส่วนของศูนย์ OTOP นั้น ทางผู้บริหารได้ทำหนังสือหารือ สตง.ในกรณีการใช้เงินก่อสร้างของผู้บริหารในขณะนั้น ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด
