อุทาหรณ์หลานสาวตั้งใจย้ายเข้าโรงเรียนใหม่ แต่วันไปรับอุปกรณ์การเรียนติดต่อครูประจำชั้นไม่ได้ สุดท้ายถูกครูแคปฯ แชตหลานไปนินทาในกลุ่มไลน์ หาว่าเยาะเย้ย แถมพูดจาข่มขู่ ทำเอาหลานสาวไม่กล้าไปเรียน และขอย้ายกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิม
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เฟซบุ๊ก “Komgrid Nasomjai” ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของหลานสาวที่ถูกบูลลี่ในโรงเรียนใหม่ซึ่งอยากแชร์เป็นอุทาหรณ์ โดยเผยว่าหลานสาวตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งต่อมาพบว่ามีการตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา และมีการพูดคุยถึงหลานสาวและขำขัน หนึ่งในกลุ่มของการสนทนามีอาจารย์ประจำชั้นด้วย ทำให้ตัวหลานสาวพอทราบเรื่องดังกล่าวรู้สึกไม่สบายใจ และมองว่าเป็นการถูกพูดให้ร้ายลับหลังและถูกบูลลี่ จึงไม่อยากเข้าศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนดังกล่าว และต่อมาพบว่าครูไม่รู้สึกว่าการกระทำของตนเองเป็นเรื่องที่ผิด และทำให้เด็กเสียใจ ยังมีการแคปฯ ภาพโพสต์ของตนไปพูดคุยกันต่อในกรุ๊ปไลน์
โดยผู้โพสต์ระบุเนื้อหาว่า “โพสต์นี้จะยาวหน่อยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า หลานสาวผมกำลังจะเข้าเรียนที่โรงเรียนเก่าผม (ไม่ขอเอ่ยชื่อ) ม.4 ห้องพิเศษ EC แล้วครูที่ปรึกษานัดไปรับอุปกรณ์การเรียน แต่หลานผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์ เลยไม่ทราบเรื่อง พอหลานผมรู้ว่ามีนัดไปรับอุปกรณ์การเรียน จึงทักไปหาครูที่ปรึกษา แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตามรูปภาพเลยครับ เพื่อนในกลุ่มไลน์ที่รู้จักหลานแคปฯ มาให้หลานสาวดู ตอนนี้หลานผมจิตใจย่ำแย่ ไม่กล้าที่จะไปเรียน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ ที่ครูที่ปรึกษาและนักเรียนบางส่วนเอาไปคุยกันนินทาหลานผมในกลุ่มไลน์เก่าตอน ม.3
ตอนนี้หลานผมไม่อยากจะไปเรียน อยากย้ายกลับไปเรียนโรงเรียนเดิมแล้ว ผมในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังจะมีสังคมแบบนี้ในโรงเรียนเก่าผม ครูที่ปรึกษาไม่ควรจะพูดแบบนั้น เพราะหลานไม่มีเพื่อนที่นี่เลย เพราะย้ายจากจังหวัดหนึ่งมาอีกจังหวัดหนึ่งจึงทำให้ไม่มีเพื่อน มีแค่ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนคนละชั้นกัน ล่าสุดหลานขอแม่กลับไปเรียนที่เดิมแล้วครับ ขอแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกหลานใครที่เคยโดนบูลลี่แบบนี้ตั้งแต่ครูที่ปรึกษายันนักเรียนร่วมห้องบางคน”
ทั้งนี้ หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจในโพสต์ดังกล่าว และมองว่าครูที่เป็นตัวต้นเรื่องไม่ควรมีพฤติกรรมดังกล่าว และควรออกมาขอโทษเด็กหญิงที่ถูกพูดจาลับหลัง เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจของตัวบุคคลต่างกัน บางคนอาจรับได้ และอาจมีเด็กหลายคนรับไม่ได้ และควรนำตัวนักเรียนที่พูดจาในลักษณะข่มขู่ออกมาขอโทษเพื่อนด้วย โดยโพสต์มียอดกดไลก์ถึง 9,000 ครั้งด้วยกัน