กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข จัดงานรณรงค์วันดื่มนมโลก (World Milk Day 2021) “ปันน้ำใจ ให้นมน้อง” ร่วมกับภาคีเครือข่ายมอบนมโครสจืดจำนวนกว่า 7,600 กล่อง ให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางอายุ 3-14 ปี จำนวน 1,270 คน โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสในมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมที่ไม่ได้สังกัดหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา (ไม่ได้เข้าโรงเรียน) ในชุมชนแออัด ทั้งที่ติดตามผู้ปกครองมาทำงานก่อสร้างในชุมชนเมือง ครอบครัวมีรายได้ต่ำ/ไม่มีรายได้
วันนี้ (27 พ.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก” หรือ “World Milk Day” เพื่อให้ประเทศและองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญและร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ดื่มนม ซึ่งแคมเปญในปี 2021 คือ “EnjoyDairy” สอดรับกับนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ดร.สาธิต ปิตุเตชะ) ที่ส่งเสริมและกระตุ้นให้ทุกกลุ่มวัยเห็นความสำคัญของการดื่มนม เนื่องจากในปัจจุบันพบว่าคนไทยดื่มนมน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยทั่วโลกมีอัตราค่าเฉลี่ยการดื่มนมอยู่ที่ 113 ลิตร/คน/ปี เอเชียมีการดื่มนม 66 ลิตร/คน/ปี ดังนั้น การจัดกิจกรรมรณรงค์วันดื่มนมโลกประจำปี 2564นี้ จึงเป็นการมุ่งเพิ่มเป้าหมายการดื่มนมของคนไทย จาก 18 ลิตร/คน/ปี ในปัจจุบัน เป็น25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2570
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2564 นี้ กรมอนามัยร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวันร่วม “ปันน้ำใจ ให้นมน้อง” มอบนมโครสจืดให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสในมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมที่ไม่ได้สังกัดหน่วยงานภาครัฐ จึงไม่เคยได้รับนมจากหน่วยงานใด ตลอดจนเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา (ไม่ได้เข้าโรงเรียน) ในชุมชนแออัด ทั้งที่ติดตามผู้ปกครองมาทำงานก่อสร้างในชุมชนเมือง ครอบครัวมีรายได้ต่ำ/ไม่มีรายได้ จำนวนกว่า 7,600 กล่อง ให้กับเด็กอายุ 3-14 ปี จำนวน 1,270 คน
“ทั้งนี้ นมนับเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 2 และวิตามินบี 12 โปรตีนในนมเป็นโปรตีนคุณภาพดี ช่วยในการเจริญเติบโตแคลเซียมในนมปริมาณมากและดูดซึมได้ดีที่สุดแคลเซียมและฟอสฟอรัสในนมมีความสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็ว จะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาก ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนี้ นมยังมีวิตามินเอช่วยในการมองเห็นและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายวิตามินบี 1 ช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะทำให้เกิดโรคเหน็บชา วิตามินบี 2 ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการเผาผลาญอาหาร ทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ป้องกันโรคปากนกกระจอก วิตามินบี 12 ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดแดง” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สิ่งที่กรมอนามัยดำเนินการมาโดยตลอด คือ การกระตุ้นให้คนไทยทุกคนทุกเพศ ทุกวัยหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศกันมากขึ้น เพื่อส่งเสริมโภชนาการให้เด็กไทยไม่อ้วน ผอม เตี้ย พร้อมทั้งกำหนดข้อปฏิบัติในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย ซึ่งหนึ่งในข้อปฏิบัติคือ การดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนวัยรุ่น ควรดื่มนมจืดวันละ 2 แก้ว ร่วมกับอาหารประเภทอื่นๆ ที่หลากหลายครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน ออกกำลังกายที่มีการกระแทกของข้อต่อเช่น การกระโดด วันละ 60 นาที รับแสงแดดทุกวัน และนอนให้เพียงพอ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้เด็กไทยเติบโตเต็มศักยภาพสมวัยสูงดีสมส่วน แข็งแรงและฉลาดโดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลความรู้เรื่องนมได้ที่สำนักโภชนาการและกรมอนามัยตลอดเดือนมิถุนายนนี้