“หมอธีระวัฒน์” แนะ ควรหยุดแก้ปวดไมเกรน-ยาแก้ไข้หวัด-ยาคุมกำเนิด ก่อนฉีดวัคซีนโควิด

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โพสต์ให้ข้อมูลเผยว่าก่อนฉีดวัคซีนโควิดควรละเว้นยาแก้ปวดไมเกรน ยาแก้ไข้หวัด มีฤทธิ์ทำให้กระทบต่อเส้นเลือดและหัวใจ พร้อมแนะสตรีหยุดใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดอย่างน้อย 14 วัน

จากกรณีพนักงานสาวคลินิกเสริมความงาม อายุ 32 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม จากอาการเลือดอุดตันในปอด โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผู้เสียชีวิตได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่จังหวัดสงขลา

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พ.ค. เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ให้ข้อมูลก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรละเว้นยาแก้ปวดไมเกรน และยาแก้ไข้หวัด คัดจมูก กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้กระทบต่อเส้นเลือดและหัวใจ โดยระบุข้อความว่า

“ผลข้างเคียงของวัคซีนแม้เกิดได้น้อยมากๆ ก็ตาม แต่ถ้าสามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด กลไกของผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดที่สำคัญประการหนึ่ง (นอกจากการแพ้เฉียบพลัน) คือการจุดให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง และมีผลต่อเนื่อง ทำให้เส้นเลือดหดตัว และลิ่มเลือด และเป็นเหตุผลที่ต้องละเว้นยาที่มีผลทำให้เส้นเลือดหดตัวอยู่แล้ว เช่น ยาแก้ปวดไมเกรน และยาแก้หวัด คัดจมูกกลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้กระทบต่อเส้นเลือดและหัวใจ

แต่สำหรับน้ำมันกัญชานั้น ผู้ป่วยที่ใช้อยู่แล้วเนื่องจากมีโรคประจำตัวซึ่งมีพื้นฐานจากการอักเสบ และประการสำคัญคือน้ำมันกัญชาสามารถลดการอักเสบได้ ดังนั้นผู้ที่ใช้น้ำมันกัญชาอยู่แล้วเช่นของอาจารย์เดชาของกรมการแพทย์แผนไทย เป็นสิ่งที่ควรใช้ต่อโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ และสำหรับสตรีที่ใช้ฮอร์โมนเพศหญิงสำหรับคุมกำเนิดหรือภาวะเกี่ยวข้องกับข้อมูลควรที่จะหยุดก่อนที่จะฉีดวัคซีน ทั้งนี้อย่างน้อย 14 วันถ้าทำได้ ทั้งนี้ ข้อแนะนำดังกล่าวควรจะใช้สำหรับวัคซีนอื่นด้วยเช่นกัน”