พบภาพหนึ่งในเจ้าของบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ ที่อ้างว่านำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม 20 ล้านโดสแก่รัฐบาล ถ่ายรูปร่วมกับ “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกชื่อดัง ขณะที่เจ้าตัวเคยโพสต์ไปเมื่อ 3 พ.ค. บอกเป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน
วันนี้ (27 พ.ค.) จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯ เผยแพร่จดหมายจาก บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ในฐานะพันธมิตรผู้เดียวในประเทศไทยของบริษัท TELLUS AGROTECH PTE. LTD. ผู้จัดจำหน่ายวัคซีนซิโนฟาร์มในภูมิภาคเอเชีย ที่ส่งถึง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ระบุว่า ได้จัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 20 ล้านโดสให้แก่รัฐบาลไทยโดยไม่ผ่านตัวแทน หรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายอื่นใด โดยสามารถส่งถึงมือประเทศไทยให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ แต่ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถเข้าถึงหรือเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปนำเสนอวัคซีนได้ ภายหลังพบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีนายกรกฤษณ์ กิติสิน และ นายศวิษฐ์ อุทัยเฉลิม เป็นกรรมการบริษัท
ล่าสุดในโลกโซเชียลฯ เฟซบุ๊ก “วันนี้ยุวชนคิดอะไรบ้าง” เผยแพร่ภาพที่ระบุว่าเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด มีการไปพบกับนายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง และแกนนำกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ระบุว่า “พอพี่ด้วงบอกว่ามี Concept ใหม่ เลยต้องรีบแว้บไปหา” นอกจากนี้ยังปรากฏในคลับเฮาส์ของ FUTURETHAI.COM กลุ่มอนาคตไทย ปรากฏหัวข้อ “เปิดใจ ACCAP” ตัวแทน Sinopharm กับ 20 ล้านโดสที่รอคอย โดยหนึ่งในนั้นมีกรรมการบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ อยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ @DuangritBunnag โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2564 ระบุว่า “รุ่นน้องที่รู้จักกันพยายามนำวัคซีน Sinopham เข้ามา 20 ล้านโดสให้รัฐบาล นำเข้าได้ภายใน 2 สัปดาห์ ติดต่อใครดีครับ #ศบค.ตอนนี้ประสานไปที่คนของรัฐบาลทุกช่องทางแล้ว มันถามหาผลประโยชน์ตอบแทนกันก่อนหมดเลย” และอีกข้อความหนึ่งระบุว่า “วัคซีน Sinopharm นี่มีการเอามานำเสนอขายเป็น lot ที่ถูกตัดมาจาก agent ที่สิงคโปร์ ซึ่งต้องส่งไปที่มาเลเซีย แต่มาเลเซียยกเลิก (สงสัยว่าอาจจะได้ตัวอื่นมาเกิน) ก็เลยสามารถส่งมาที่ไทยได้ทันทีภายใน 2 สัปดาห์ ที่ 20 ล้านโดส น่าจะแก้วิกฤตได้ทันทีนะครับ โดสละ 40 USD บอกใครดีฮะ #ศบค.”
อนึ่ง สำหรับนายดวงฤทธิ์ บุนนาค เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Care คิด เคลื่อน ไทย ร่วมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายพริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล บุตรชายของนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ทั้งหมดเป็นผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอาญาในต่างประเทศ และเป็นสถาปนิกที่เคยชนะการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วถูกวิจารณ์ต่างๆ นานา ทั้งเรื่องการออกแบบ และที่ตั้งไม่สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานของสนามบินที่มีอยู่เดิม กระทั่งในที่สุดคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยกเลิกประมูลแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ดังกล่าวไปเมื่อปี 2562