xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา”เสนอนายกฯ สนับสนุนฟ้าทะลายโจรทั้งผงและสารสกัดในโดสที่เหมาะสมร่วมรักษาโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากแฟ้ม
“รสนา” ชี้เป็นนิมิตหมายที่ดี นายกฯ หนุนใช้ฟ้าทะลายโจร ควบคู่ยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาผู้ป่วยโควิด แนะแก้ไขไกด์ไลน์เวชปฏิบัติเพื่อเปิดทางให้แพทย์แผนปัจจุบันสามารถสั่งจ่ายได้ ค้านกรมการแพทย์แผนไทยฯ รีบร้อนนำเข้าบัญชียาหลัก โดยระบุใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ถึง 180 มก./วัน ห่วงปริมาณสูงเกินจำเป็น ควรวิจัยหาปริมาณที่เหมาะสมก่อน เผยที่ผ่านมาใช้ “ผงฟ้าทะลายโจร” ไม่ใช่เฉพาะ “สารสกัด” ก็ได้ผลดีแล้ว

วันนี้ (26 พ.ค. 2564) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีข่าวดีที่นายกฯ ลุงตู่ ยอมประกาศสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภาวะอักเสบ และยังระบุว่า “ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรมีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งเป็นสารสำคัญมีฤทธิ์ต้านไวรัส และในการวิจัยพบว่า สามารถฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวในหลอดทดลองได้ด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ บรรเทาอาการหวัดที่ดี และลดการอักเสบ โดยได้ใช้เป็นยาในบัญชียาหลักในการรักษาโรคหวัดตั้งแต่ปี 2559 และสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภาวะอักเสบ ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติมการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด-19 อีกด้วย”

ในบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับ พ.ศ. 2556 ยาฟ้าทะลายโจร ถูกจัดอยู่ในบัญชียาจากสมุนไพร บัญชีที่ 2 คือ ยาพัฒนาจากสมุนไพร ซึ่งเป็นบัญชียาสมุนไพรตัวเดียวโดยระบุให้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยารักษาได้ 2 กลุ่มอาการ คือ (1) ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร ที่ใช้บรรเทาอาการท้องเสีย และ (2) ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมียาฟ้าทะลายโจรโดดเด่นอยู่ในบัญชีนี้เพียงตำรับเดียว (First Line Drug) ที่ใช้บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ โดยปกติ ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ยาพัฒนาจากสมุนไพรตัวเดียว อย่างเช่น ยาฟ้าทะลายโจร ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ เช่นเดียวกับยาแผนไทยที่เป็นตำรับยาสมุนไพรหลายตัว จึงทำให้ยาฟ้าทะลายโจรไม่ได้รับการยอมรับจากแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ ทั้งที่แพทย์และเภสัชกรแผนปัจจุบันสามารถสั่งจ่ายยาแผนไทยได้

ในวิกฤตโควิด-19 ในขณะนี้ที่เกิดการระบาดระลอก 3 ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นมา ระบบสาธารณสุขไม่สามารถแบกรับการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ทำให้มีการใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างแพร่หลายในหมู่ประชาชนเพื่อบรรเทาอาการ ไข้ ครั่นเนื้อครั้นตัว หวัด เจ็บคอ ในคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีรพ.รับ ต้องกักตัวดูแลรักษาตัวเองอยู่ในบ้าน

ดิฉันได้กระจายยาแคปซูลผงฟ้าทะลายโจรผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขในกรุงเทพมหานคร (อสส.กทม.) รวม 65 ศูนย์ วัดสะพาน และเครือข่ายอาสาสมัครชุมชนในคลองเตย รวมทั้งพระสงฆ์ใน กทม.และต่างจังหวัด เรือนจำใน กทม.และต่างจังหวัด ประชาชนรายเล็กรายน้อยที่ติดต่อเข้ามา เป็นต้น พบว่า ทั้งหมดมีอาการดีขึ้นโดยยาแคปซูลผงฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่น้อยกว่า 180 มก./วัน

ในขณะนี้ทราบว่ากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกำลังนำเสนอสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ขนาด 180 มก./วัน เพื่อใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อโควิดระยะเริ่มต้น เเละปานกลาง โดยจะนำเข้าบัญชียาหลักอีกครั้ง เพื่อระบุจะใช้ฟ้าทะลายโจรจาก “สารสกัด” 180 มก./วันในการรักษาโควิด-19 เท่านั้น ทั้งที่ในการทดลองมีการใช้ทั้งผงฟ้าทะลายโจร และสารสกัดเทียบเท่ากันเพียง 60 มก./วัน เท่านั้น แต่เหตุใดกรมการแพทย์แผนไทยจึงเสนอให้ใช้แต่ “สารสกัด” ฟ้าทะลายโจร และสูงกว่าที่ทดลองถึง 3 เท่า คือ180 มก./วัน

ดิฉันเห็นว่า ในการศึกษาทางคลินิกแบบ R2R (Routine to Research) ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เก็บข้อมูลในส่วนของผงยาฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลที่มีการใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเริ่มต้นที่ตกหล่นจากระบบการรักษาทางการของภาครัฐ แต่กักตัวรักษาในบ้านด้วยฟ้าทะลายโจร และเท่าที่ทราบข่าว ก็ยังมีสถานบริการสาธารสุขบางแห่ง เช่น รพ.เรือนจำในหลายจังหวัด และรพ.ในส่วนภูมิภาค ที่ได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรที่มีการขึ้นทะเบียน อย.ตามปกติ โดยใช้ตามขนาดและวิธีในฉลากยาของแต่ละยี่ห้อ และพบว่าใช้แล้วได้ผลดี

ดิฉันได้กระจายยาฟ้าทะลายโจรเป็นแคปซูลผงฟ้าทะลายโจร ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. เป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ตามประกาศบัญชียาหลักที่มีโททอลแลคโตน โดยคำนวณเป็นแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 โดยน้ำหนัก (ww/ww) และมีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก (ww/ww) ซึ่งได้มีข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการเจ็บคอ แก้ไข้ บรรเทาอาการโรคหวัด (common cold) เช่นเจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อกินครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง

ดิฉันเห็นว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯไม่ควรรีบร้อนระบุขนาดยาฟ้าทะลายโจร ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์เป็นมาร์กเกอร์สูงถึง 180 มก./วัน โดยเป็น “สารสกัด” เท่านั้น ที่จะสามารถใช้กับคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเป็นปริมาณที่อาจจะสูงเกินความจำเป็นหรือไม่ สมควรมีการศึกษาว่าฟ้าทะลายโจรชนิดผงบรรจุแคปซูลที่มีการขึ้นทะเบียน อย.อยู่แล้ว ที่ประชาชนใช้กันมาอย่างยาวนาน ในระดับแอนโดรกราโฟไลด์ที่ระบุก็น่าจะสามารถใช้รักษาอาการเริ่มต้นของการติดเชื้อโควิด-19 ได้แล้ว และสามารถสกัดกั้นไม่ให้เชื้อลุกลามลงปอดได้เช่นกัน ซึ่งดิฉันมีรายงานของคนไข้ติดเชื้อโควิดรายงานมาว่าใช้ได้ผลดี

ดังนั้น จึงควรตั้งโจทย์วิจัยใหม่ว่า ปริมาณการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในขนาดที่น้อยที่สุด และได้ผลดีที่สุดสำหรับการใช้กับโควิด ควรเป็นเท่าไหร่ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญให้ผู้ป่วยได้รับยาเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ เพื่อตัดปัญหาผลไม่พึงประสงค์ของยาหากใช้ในขนาดที่สูงเกินความจำเป็น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิตที่มีอยู่แล้วโดยประชาชนเข้าถึงยาได้ง่าย และมีราคาย่อมเยา

การที่นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศยอมรับฟ้าทะลายโจรในการรักษาควบคู่ไปกับยาฟาวิพิราเวียร์นั้น เป็นนิมิตหมายอันดีที่จะช่วยให้หมอแผนปัจจุบันยอมรับการใช้ฟ้าทะลายโจร การที่หมอแผนปัจจุบันไม่ยอมสั่งจ่ายฟ้าทะลายโจรนั้นน่าจะมาจากแนวทางเอกสารเวชปฏิบัติการรักษาของแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขฉบับปรับปรุง วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ได้ระบุแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่กำหนดให้ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ และไม่สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจร ดังปรากฏในไกด์ไลน์ข้อที่ 11 ระบุว่า

“ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนถึงผลของการรักษาอื่นๆ เช่น การใช้ฟ้าทะลายโจร ....... ยังไม่เป็นแนวทางมาตรฐาน การใช้ให้เป็นตามวิจารณญาณของแพทย์” (ดูเอกสารประกอบ)

หากท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีดำริและสนับสนุนให้ใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษาโควิด-19 ย่อมสามารถมอบหมายอธิบดีกรมการแพทย์ให้แก้ไขเพิ่มเติมไกด์ไลน์เวชปฏิบัติข้างต้นได้ และให้แพทย์แผนปัจจุบันสามารถสั่งจ่ายฟ้าทะลายโจร ทั้งยาผงฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลใช้ได้ทันที โดยสามารถเบิกจ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้อยู่แล้วเพราะฟ้าทะลายโจรเป็นยาในบัญชียาหลักมาตั้งแต่ปี 2542

ไม่มีความจำเป็นที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ ต้องรีบร้อนเอาฟ้าทะลายโจรเข้าบัญชียาหลักเพื่อที่จะให้ใช้แต่สารสกัดฟ้าทะลายโจร 180 มก./วัน กับโควิดเท่านั้น

ส่วนการที่เสนอเข้าบัญชียาหลักกำหนดขนาดยาที่เป็นสารสกัดมีสารแอนโดรกราโฟไลด์เป็นตัวมาร์กเกอร์ถึง 180 มก./วัน ว่าสามารถใช้ร่วมรักษาโควิด-19 ก็ไม่ใช่เหตุผลที่หมอแผนปัจจุบันจะสั่งใช้ เพราะขนาดยาฟาวิพิราเวียร์ ไม่มีรายงานผลการทดลองว่าสามารถรักษาโควิดได้ และยังไม่ได้อยู่ในบัญชียาหลักของยาแผนปัจจุบันแต่แพทย์แผนปัจจุบันก็ยังสั่งใช้กันได้ตามไกด์ไลน์ ทั้งที่มีราคาแพงมากกว่าฟ้าทะลายโจรไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ยาฟาวิพิราเวียร์นำเข้าปัจจุบันราคาเม็ดละ 120-150 บาท ในขณะที่ผงฟ้าทะลายโจรแคปซูลละ 1-2 บาทเท่านั้น และยังเป็นของผลิตได้เองในประเทศ เป็นความมั่นคงทางยาเเละทางเศรษฐกิจของประเทศ และหากแพทย์แผนปัจจุบันยอมใช้ฟ้าทะลายโจรก็จะเป็นการช่วยให้ชาวบ้านได้ปลูกฟ้าทะลายโจรเป็นทางออกของวิกฤตเศรษฐกิจในยุคโควิด-19 ได้บ้าง

จึงขอกราบเรียนมายังนายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โปรดสนับสนุนให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมไกด์ไลน์เวชปฏิบัติให้แพทย์แผนปัจจุบันใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาในการร่วมรักษาโควิด-19 และท่านนายกรัฐมนตรีไม่ควรสนับสนุนให้มีการบรรจุฟ้าทะลายโจรที่มีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณสูงเกินจำเป็นเข้าบัญชียาหลักที่ระบุให้ใช้แต่สารสกัด หรือแม้แต่ใช้ผงฟ้าทะลายโจรแคปซูลที่ต้องมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ถึง180 มก./วัน และขอให้ท่านนายกฯโปรดสนับสนุนให้มีการศึกษาต่อเนื่องในการใช้ผงฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลในปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการร่วมรักษาโควิด-19 ซึ่งจะเป็นส่งเสริมการพึ่งตัวเองภายในประเทศต่อไป

รสนา โตสิตระกูล
26 พ.ค 2564




กำลังโหลดความคิดเห็น