นักข่าวกีฬาดังดูซีอีโอไฟเซอร์ออกข่าว อวยจนคมกริบ ขายคนรวยแพง ขายคนจนราคาทุน รู้แหละว่าแซะ เจอชาวเน็ตถาม น่าจะรู้เงื่อนไขและต้องขนส่งยังไง เลยโต้กลับ “ผมอ่านมากกว่าคุณ” พอพูดถึงโรงงานวัคซีนที่ผลิตเอง กลับถามว่า “ประชาชนได้ฉีดปีไหน” พบเดือนหน้าจะฉีดแล้ว วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในไทย รับรองในแล็บยุโรปและอเมริกาแล้ว
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @jackie14AP ของนายอดิสรณ์ พึ่งยา คอลัมนิสต์และพิธีกรกีฬาชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า “ซีอีโอ Pfizer สัมภาษณ์ CNBC ขายวัคซีนแบบ pandemic price ประเทศรวย ขายราคาเอากำไร (ปรบมือ) (2 โดส 39 เหรียญสหรัฐฯ) ประเทศยากจนขายถูก ขายราคาทุน” แสดงความชื่นชมถึงผู้บริหารบริษัท ไฟเซอร์ ที่กล่าวว่า ได้ขายวัคซีนแบบตามสถานการณ์การระบาด ทำให้ผู้ติดตามที่เป็นผู้สนับสนุนม็อบสามนิ้วเปรียบเทียบกับรัฐบาลไทย จัดซื้อวัคซีนที่เชื่อว่าราคาแพงและคุณภาพต่ำกว่า
เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ระบุว่า “เป็นผู้สื่อข่าว น่าจะรู้ condition (เงื่อนไข) ในการจัดเก็บและขนส่งของ วัคซีน mRNA นะครับ อีกอย่าง มันมีเงื่อนไขตามมา แต่ไฟเซอร์ไม่ได้พูดออกไป” ปรากฏว่า นายอดิสรณ์ กล่าวว่า “อ่านมากกว่าคุณครับ ถ้าไม่เคยทำธุรกิจ คุณไม่เข้าใจสัญญา เพราะมันคือลิขสิทธิ์ทางปัญญา หากคุณไม่มีสมองคิดเอง เขาคิดได้ คุณต้องจ่ายราคาความคิด” กระทั่งผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวระบุว่า “เราจึงเลือกตั้งโรงงานผลิตเองได้ไงครับ ในระยะยาวเราจ่ายน้อยกว่า แล้วรู้ใช่มั้ยครับในเม็กซิโกสั่งไฟเซอร์ไปหลายสิบล้านโดสได้มาแสนโดส เม็กซิโกต้องนำเข้าวัคซีนจากจีนมาแทน เพราะรับมือไม่ไหว”
ปรากฏว่า นายอดิสรณ์ กล่าวว่า “ผลิตเองนี่ ประชาชนได้ฉีดปีไหนครับ ตอนนี้อะไรควรทำก่อน ซื้อวัคซีนเข้ามาฉีดเพื่อประชาชนเพื่อให้สร้างภูมิหมู่ เพื่อประชาชนทำมาหากิน?”
อนึ่ง แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ในเดือน มี.ค. ถึง พ.ค. 2564 จะนำวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดส โดยฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดที่มีความเสี่ยงก่อน ส่วนระยะที่ 2 ในเดือน มิ.ย. ถึง ธ.ค. 2564 จะนำวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 61 ล้านโดส ฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายในทุกจังหวัด โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา กับผู้สูงอายุและโรคประจำตัว ก่อนที่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทะเบียน 1 ก.ค. 2564
สำหรับวัคซีนที่จะนำมาผลิตในประเทศไทย เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่เลือกบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นสถานที่ผลิต ซึ่งตัวอย่างวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของแอสตร้าเซนเนก้าทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดแรกให้แก่รัฐบาลไทยเร็วๆ นี้ ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าที่จะเริ่มฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ให้กับประชาชนกลุ่มแรก วันที่ 7 มิ.ย. 2564
นอกจากนี้ รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนซิโนแวคมาเพิ่มเติมจากแผนอีก 3.5 ล้านโดส เพื่อระดมฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าและผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้มากที่สุด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม คือ วัคซีนไฟเซอร์ ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า จัดหามาได้ 10-20 ล้านโดส วัคซีนสปุตนิก วี วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และวัคซีนซิโนแวค บริษัทละ 5-10 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต
