เผยข้อมูลก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ “วัคซีนโมเดอร์นา” ที่ รพ.วิภาวดี ถอนตัวไม่ร่วมซื้อ พบ มีประสิทธิภาพ 94.1% ในการป้องกัน โควิด-19 หากได้รับครบ 2 โดส
จากกรณีโรงพยาบาลวิภาวดี ประกาศยกเลิกจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา พบสาเหตุมาจากถอนตัวไม่ร่วมซื้อวัคซีนทางเลือกกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพราะไม่ได้คำตอบระยะเวลาที่จะได้รับวัคซีนแน่ชัดจากผู้จำหน่าย และองค์การเภสัชฯ หวั่นลูกค้ารอไม่ได้ ถ้าได้ฉีดช้ากว่าวัคซีนรัฐจะเสียชื่อ
ก่อนหน้านี้ นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ในฐานะนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ยืนยันว่า สมาคมฯ จะสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา (Moderna) ในนามสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่จะเป็นผู้ที่สั่งซื้อจาก บริษัท ซิลลิคฟาร์มา จำกัด ผู้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 เมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยต้นทุนวัคซีนของโมเดอร์นาที่นำเข้ามาผ่านองค์การเภสัชกรรม อยู่ที่ 37-38 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ขณะที่ราคาให้บริการของสมาชิกโรงพยาบาลเอกชนตกลงกันคิดเท่ากันทุกโรงพยาบาลไม่เกิน 2,000 บาทต่อเข็ม ประกอบด้วย ค่าวัคซีน ค่าบริการของโรงพยาบาล และค่าประกันวัคซีนโควิด-19 เพื่อคุ้มครองผู้ไดรับวัคซีนหากเกิดผลข้างเคียงขึ้น โดยค่าประกันจะเก็บเพียงครั้งเดียวในเข็มแรก ดังนั้น คาดว่า ราคาค่าบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้ง 2 เข็มของสมาชิกโรงพยาบาลเอกชนจะอยู่ที่กว่า 3,000 บาท
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 โรงพยาบาลวิภาวดี เคยจัดโปรแกรมเปิดจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา เพื่อสำรวจความสนใจแก่ลูกค้าโรงพยาบาล แต่ถูกกระทรวงสาธารณสุขสั่งให้ระงับ เนื่องจาก อย. ยังไม่ได้รับรองการใช้วัคซีน แม้ว่าจะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ไปแล้วก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์ คืนเงินจองแก่ลูกค้าทั้งหมด และถูกดำเนินคดี เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนหลักหมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับ “วัคซีนโมเดอร์นา” เว็บไซต์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ได้เปิดเผยรายงานข้อมูลและความปลอดภัยของวัคซีนตัวนี้ไว้ดังนี้
- ชื่อ : mRNA-1273
- บริษัทผู้ผลิต : ModernaTX, Inc.
- ประเภทวัคซีน : mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีวัคซีนรูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ
- จำนวนโดส : 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน (28 วัน)
วัคซีนโมเดอร์นา ถูกแนะนำไว้สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่ไม่สมควรฉีดวัคซีนชนิดนี้นั้นคือ ผู้มีโรคภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) เป็นอาการแพ้ที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยหลังจากการฉีดวัคซีน หรือผู้มีอาการภูมิแพ้ที่มีปฏิกิริยารุนแรงเมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้น เช่น ยา หรืออาหารบางอย่าง และ ผู้มีอาการแพ้หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก ไม่ควรฉีดเข็มที่ 2 โดยอาการสามารถเกิดขึ้นทันที หรือภายใน 4 ชั่วโมง หลังจากได้รับวัคซีน
สำหรับผลข้างเคียงของวัคซีน “โมเดอร์นา” อาจส่งผลให้เกิดอาการปวด มีรอยแดง บวม ขึ้นบริเวณแขนที่ถูกฉีดวัคซีนได้ ร่างกายอาจมีอาการเหนื่อย ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนาวสั่น มีไข้ วิงเวียน คลื่นไส้ โดยปกติผลข้างเคียงดังกล่าวจะเกิดขึ้นใน 1-2 วัน หลังจากฉีดวัคซีน แต่ควรจะต้องดีขึ้นหลังจากนั้นในระยะเวลา 2-3 วัน
ทั้งนี้ พบว่า วัคซีนก่อให้เกิดผลข้างเคียง โดยพบได้บ่อย แต่ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงถึงปานกลาง ผลข้างเคียงทั่วร่างกาย ประเภทไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ พบได้บ่อย หลังจากได้รับวัคซีนครั้งที่ 2
และหลังจากได้รับครบทั้ง 2 โดส และวัคซีนจะมีประสิทธิภาพมากถึง 94.1% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยได้รับการยืนยันในการทดลองทางคลินิก มีประสิทธิผลสูงในกลุ่มคนหลากหลาย ทั้งอายุ เพศ เชื้อชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงในกลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว จากการทดสอบล่าสุด พบว่า การให้วัคซีนกระตุ้น booster dose ปริมาณ 50 ไมโครกรัม กับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไปแล้ว ช่วยเพิ่มแอนติบอดีที่ตอบสนองต่อไวรัสสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.351 จากแอฟริกาใต้ และ P.1 จากบราซิล