xs
xsm
sm
md
lg

ลาวเอาจริง! รับตัว “เอื้อยฮัก” ดำเนินคดีสถานหนัก หลังนำ 2 หนุ่มไทยเที่ยวสงกรานต์แพร่เชื้อโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทางการลาวรับตัว “เอื้อยฮัก” หญิงวัย 25 ปี พี่สาวคนสนิทของนักศึกษาและนางแบบดัง ผู้ป่วยรายที่ 59 ไปดำเนินคดีอย่างน้อย 3 ข้อหาหนัก หลังลักลอบข้ามแดนที่หนองคายและป่วยเป็นโควิด-19 และทางการลาวเชื่อว่าเป็นต้นตอของการระบาดหนักในประเทศ ขณะที่ 2 หนุ่มไทยถูกตำรวจหนองคายดำเนินคดีก่อนหน้านี้

วันนี้ (2 พ.ค.) รายงานข่าวจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย (ตม.หนองคาย) ได้ส่งตัว น.ส.พาวะดี วิพากอน หรือตุ๊กติ๊ก อายุ 25 ปี ชาวเมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง พร้อมกับนายชิตพล จันทร์ขาว อายุ 30 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด มาดำเนินคดีที่ สปป.ลาว หลังทางการลาวประสานขอให้ส่งตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากลักลอบเข้าออกประเทศ และร่วมมือกับผู้ป่วยรายที่ 59 เดินทางไปสถานที่ชุมชนต่างๆ ใน สปป.ลาว และยังพบว่าเป็นผู้ชักชวนหนุ่มไทย 2 คน ลักลอบข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาที่แขวงสะหวันนะเขต (ฝั่งตรงข้าม จ.มุกดาหาร) ก่อนจะพากันเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุในการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่ระบาดใน สปป.ลาว

ในคำแถลงของ พ.อ.สายสะหมิง สีวิไล หัวหน้ากรมตำรวจตรวจคนเข้าออกเมือง กรมใหญ่สันติบาล กระทรวงป้องกันความสงบ ระบุว่า จากการสอบสวนของตำรวจลาว ทราบว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา นางพาวะดี พร้อมกับหนุ่มชาวไทยอีก 2 คน ลักลอบเดินทางออกจาก สปป.ลาว ที่บ้านหมากนาว เมืองปากงึ่ม นครหลวงเวียงจันทน์ ไปยังบ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. น.ส.พาวะดี รู้สึกไม่สบาย จึงได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลหนองคาย ผลปรากฏว่า น.ส.พาวะดีติดเชื้อโควิด-19 และได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว ตม.ลาวจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย เพื่อนำส่งตัว น.ส.พาวะดี กลับมา สปป.ลาว ภายหลังอาการป่วยหายดีแล้ว ทั้งนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใน สปป.ลาว ในข้อหาละเมิดกฎหมายว่าด้วยการเข้าออก และการคุ้มครองคนต่างประเทศอยู่ สปป.ลาว, กฎหมายอาญา, กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคของ สปป.ลาว และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับผู้ป่วยรายที่ 59 ของ สปป.ลาว คือ น.ส.มอนมีนา สุดทิดา หรือตี๊นา สุดทิดา อายุ 25 ปี นักแสดง นางแบบที่มีชื่อเสียง และนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการตลาด คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติ (ดงโดก) พักอาศัยอยู่ที่บ้านโพนสะหว่าง เมืองจันทะบุลี นครหลวงเวียงจันทน์ ตามไทม์ไลน์พบว่าได้สัมผัสใกล้ชิดกับชาวไทย 2 คนที่ลักลอบข้ามแม่น้ำโขงเข้าไปเที่ยวที่ สปป.ลาว เมื่อกลับถึงเมืองไทยแล้ว จึงทราบข่าวว่าพวกเขาติดเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงหมอ ปรากฏว่าผลตรวจเป็นบวก จึงเข้ารักษาอาการป่วยที่โรงหมอมิดตะพาบ กระทั่งใช้เฟซบุ๊กไลฟ์ชี้แจงว่าถูกเอื้อยฮัก หรือพี่สาวคนสนิท ไหว้วานพาหนุ่มคนไทยเที่ยว และเอื้อยฮักยืนยันว่าคนไทยได้มีผลตรวจโควิดรับรอง ปลอดภัย แต่มีชาวลาวแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นโจมตีมากมาย จนทนกระแสสังคมไม่ไหวต้องปิดเฟซบุ๊กหนี ปัจจุบันยังคงรักษาตัวที่โรงหมอมิดตะพาบ และจะถูกทางการ สปป.ลาวดำเนินคดี

จากไทม์ไลน์พบว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ชายไทย 2 คนที่เป็นเพื่อนของ น.ส.พาวะดี ลักลอบนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงด้านจังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย และเข้ามาพักอยู่โรงแรมสายแพไหม 2 แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ต่อมาได้พาชายไทยทั้งสองคนไปร้องเพลงคาราโอเกะ กระทั่งเวลา 20.00 น.ได้นั่งรถโดยสารประจำทางจากแขวงสะหวันนะเขต มายังนครหลวงเวียงจันทน์ ต่อมาวันที่ 7 เม.ย. น.ส.พาวะดี และชายไทย 2 คน ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เข้าพักที่โรงแรมเจือง 2 เมืองจันทะบุลี โดยมี น.ส.มอนมีนา ได้ไปต้อนรับ จากนั้นระหว่างวันที่ 8-12 เม.ย. น.ส.มอนมีนา ได้พา น.ส.พาวะดี และชายไทยทั้งสองคนไปไหว้พระที่วัดสีเมือง และกินเที่ยว ทั้งร้านอาหาร คลับบาร์ คาราโอเกะ และร้านนวด กระทั่งวันที่ 13 เม.ย. ชายไทยทั้งสองคนมีอาการไข้ ปวดเนื้อปวดตัว แต่ไม่ได้พบกับ น.ส.มอนมีนา ต่อมาวันที่ 16 เม.ย. น.ส.พาวะดีพาชายไทยทั้งสองออกจากโรงแรม เดินทางกลับประเทศไทย โดยว่าจ้างเรือหาปลาลำเล็ก ลักลอบข้ามแม่น้ำโขงไปขึ้นฝั่งที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

จากนั้นวันที่ 17 เม.ย. น.ส.มอนมีนาได้รับโทรศัพท์จาก น.ส.พาวะดีว่า ทั้งสามคนติดโควิด-19 หนึ่งในนั้นมีอาการหนัก กระทั่งวันที่ 19 เม.ย. น.ส.มอนมีนารู้สึกไม่สบาย จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงหมอมิดตะพาบ 150 เตียง พบผลเป็นบวก จึงถูกแยกตัวออกมารักษาอาการป่วย กระทั่งวันที่ 20 เม.ย. คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติ (ดงโดก) ได้ออกหนังสือด่วนเรื่องรายงานผลตรวจเชื้อโควิดของนักศึกษา โดยระบุว่า น.ส.มอนมีนา สุดทิดา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการตลาด ติดเชื้อโควิดจากผู้หญิงที่มาจากแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งมีสามีเป็นคนไทย ขณะที่ทางการ สปป.ลาวออกคำสั่งลงวันที่ 20 เม.ย. ปิดร้านฟันนี่ 89 บ้านท่าสว่าง เมืองชัยธานี และร้านนวด 1111 บ้านหนองบอน เมืองไชยเชษฐา พร้อมกับสั่งปิดชั่วคราวบางกิจการ และบางสถานที่ รวม 8 แห่ง พร้อมกำชับให้ร้านอาหาร กิจการ และสถานที่ต่างๆ ต่องเข้มงวดมาตรการป้องกันของคณะเฉพาะกิจฯ ของ สปป.ลาว

สำหรับชายไทยอีก 2 คน คือ นายชิตพล จันทร์ขาว อายุ 30 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด และนายธนกฤต อินทริง อายุ 31 ปี ชาว อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ถูกตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ในข้อหาเป็นบุคคลสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านเขตท่า หรือสถานี ตามประกาศในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำเส้นทางนั้น และ ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือให้ความช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมายให้พ้นการถูกจับกุม โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ตำรวจอายัดตัวนายชิตพลและ น.ส.พาวะดี ที่โรงพยาบาลหนองคาย เพื่อดำเนินคดีหลังจากที่ทั้งสองคนรักษาโรคโควิด-19 หายดีแล้ว สารภาพว่าลักลอบเข้าเมืองจริง แต่ไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน


อ่านประกอบ : อายัดตัวหนุ่มไทยสาวลาวรักษาโควิดหายแล้วดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมือง

--- (แปล) บทแถลงข่าว ---

การรับตัวนางพาวะดี วิพากอน หรือตุ๊กติ๊ก (พี่สาวกรณีผู้ติดเชื้อ 59) กลับคืน สปป.ลาว หลังสิ้นสุดการรักษา

โดย พันเอกสายสะหมิง สีวิไล หัวหน้ากรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมือง กรมใหญ่สันติบาล กระทรวงป้องกันความสงบ

1. สาเหตุที่ต้องรับตัวนางพาวะดี วิพากอน กลับคืน สปป. ลาว

- ภายใต้การอำนวยการของคณะนำกระทรวงป้องกันความสงบ ได้แก่กรมใหญ่สันติบาล และคณะเฉพาะกิจเพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นศูนย์กลาง เกี่ยวกับการนำตัวนางพาวะดี วิพากอน หรือ ตุ๊กติ๊ก (พี่สาวกรณีผู้ติดเชื้อ 59) กลับคืน สปป. ลาว ดังที่พวกเราทราบ บุคคลดังกล่าวได้ลักลอบเดินทางเข้า-ออก สปป.ลาว และร่วมมือกับกรณีที่ 59 เดินทางไปสถานที่ชุมชนต่างๆ ในลาว ซึ่งอาจเป็นหนึ่งสาเหตุในการนำเอาเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดอยู่ใน สปป. ลาว ดังในสภาพปัจจุบัน

2. การดำเนินการสืบสวน รวบรวมข้อมูล เพื่อสืบหานางพาวะดี วิพากอน

- กรมตำรวจตรวจคนเข้าออกเมือง ได้ประสานสมทบกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง สืบค้นติดตามตัวนางพาวะดี วิพากอน จึงได้รู้ว่า ในวันที่ 15 เมษายน 2021 บุคคลดังกล่าวลักลอบเดินทางออกจาก สป.ลาว อยู่เขตบริเวณบ้านหมากนาว เมืองปากงึม นะครหลวงเวียงจันทน์ ไปบ้านเดื่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ราชอาณาจักรไทย ถึงวันที่ 16 เมษายน 2021 นางพาวะดี วิพากอน รู้สึกไม่สบาย จึงได้ไปตรวจสุขภาพอยู่โรงพยาบาลหนองคาย ผลการตรวจพบว่า บุคคลดังกล่าวติดเชื้อโรคโควิด-19 และได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว

3. การประสานสมทบกับ ตม.ไทย เพื่อนำเอาบุคคลดังกล่าวกลับมาลาว

- กรม ตม.สปป.ลาว ได้ประสานตามกลไลความร่วมมือทวิภาคี ระหว่าง ตม.ลาว และ ตม.ไทย ที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านการตรวจคนเข้าเมือง ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2018 เมื่อได้รับข้อมูลดังที่กล่าวมานั้น กรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมืองจึงได้ประสานสมทบกับเจ้าหน้าที่ ตม. ราชอาณาจักรไทย เพื่อนำส่งตัวนางพาวะดี วิพากอน กลับมา สปป.ลาว ภายหลังรับการรักษาโรคจนหายดีแล้ว

4. ภายหลังรับเอานางพาวะดี วิพากอน แล้ว จะนำตัวบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใน สปป.ลาว

- จนมาถึงวันนี้ วันที่ 30 เมษายน 2021 ภายหลังบุคคลดังกล่าวรักษาตัวจนหายดี และเจ้าหน้าที่ไทยดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว จึงได้ส่งนางพาวะดี วิพากอน ตำคำร้องขอของรัฐบาล สปป.ลาว สำหรับนางพาวะดี วิพากอน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายระเบียบการ ได้แก่กลไกกระบวนการยุติธรรมของ สปป.ลาว ซึ่งการกระทำของบุคคลดังกล่าว ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการเข้า-ออกและการคุ้มครองคนต่างประเทศอยู่ สปป.ลาว, ประมวลกฎหมายอาญา, กฎหมายว่าด้วยการป้องกันแลัความคุมโรคติดต่อ และกฎหมายระเบียบการอื่นที่เกี่ยวข้อง ภายส่วนที่ได้รับการมอบหมาย จะเร่งดำเนินการต่างๆ ต่อบุคคลดังกล่าวตามความเหมาะสม และจะแจ้งให้สังคมรับทราบตามเวลาอันควร

ข้าพเจ้า ในนามหัวหน้าหัวหน้ากรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมือง ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนฝ่ายลาว รับเอานางพาวะดี วิพากอน จากเจ้าหน้าที่ ตม. ไทย ขอแสดงความขอบคุณอย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย ซึ่งเป็นเพื่อมิตรบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดีมาโดยตลอด ได้ให้ความร่วมมือในการส่งตัวผู้ที่รัฐบาลและสังคมลาวต้องการที่สุดในระยะนี้ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีแบบนี้ตลอดไป

ขอขอบใจ












กำลังโหลดความคิดเห็น