xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวรงค์” ข้องใจศาลปกครองถอนคำสั่ง “ยิ่งลักษณ์” จ่ายชดเชยจำนำข้าว ทั้งที่ศาลฎีกาตัดสินความผิดไว้แล้ว แนะรัฐบาลรีบยื่นอุทธรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอวรงค์” แปลกใจ ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ “ยิ่งลักษณ์” จ่ายเงิน 3.5 หมื่นล้าน ชดเชยความเสียหายจำนำข้าว ทั้งที่ศาลฎีกาตัดสินความผิดไว้แล้ว แนะรัฐบาลรีบยื่นอุทรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และนำคลิปวิดีโอยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์เรื่องสัญญาระบายข้าวให้ศาลพิจารณาอีกด้วย

จากกรณี วันนี้ (2 เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 59 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 3.5 หมื่นล้าน จากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นทำให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย โดยศาลเห็นว่า เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการทุจริตเกิดขึ้นในเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายคนเกี่ยวข้อง แต่การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด กลับมิได้มีการดำเนินสอบสวนให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่คนใดควรต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใดจากการทุจริต อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับรู้เกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ในส่วนการทำสัญญาระบายข้าวไม่ได้เกี่ยวข้อง อีกทั้งกระทรวงการคลังก็รับว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายและขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้อง ตามที่กฎหมายกำหนด

ในวันเดียวกันนี้ (2 เม.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าวว่า

“#ด่วนคดีปกครองของยิ่งลักษณ์

วันนี้หลายคนคงแปลกใจ ต่อคำพิพากษาศาลปกครองกลาง กรณียกเลิกคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งๆ ที่คดีนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง มีคำพิพากษาความผิดของนางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานไม่ระงับยับยั้งและปล่อยให้มีการทุจริตในคดีการระบายข้าวแบยจีทูจี

สิ่งที่น่าพิจารณาคือ ในคำพิพากษาศาลปกครองกลาง มีประเด็นที่น่าสนใจคือ

“น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีรับรู้เกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนการทำเอ็มโอยู เพื่อให้มีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ แต่ในส่วนการทำสัญญาระบายข้าวไม่ได้เกี่ยวข้อง”

ซึ่งข้อความดังกล่าว ผมเคารพคำตัดสินของศาลปกครองกลาง แต่เมื่อมาเทียบกับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองในเรื่องนี้กลับระบุดังนี้

“สำหรับประเด็นระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐนั้น วินิจฉัยว่า ตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า จำเลย (หมายถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์) ทราบว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสาหกิจจีนต่อไปอีก อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น การกระทำของ “ยิ่งลักษณ์” จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ (เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๒๓/๑ ลงโทษจำคุก ๕ ปี”

ที่น่าสนใจนั่นคือ คลิปหลักฐานที่นางสาวยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบ เรื่องการระบายข้าวดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2555 หรือหลังดำเนินโครงการมาแล้ว 1 ปี โดยวันนั้นเธอยืนยันว่า เห็นสัญญาซื้อขาย และตอบผิดๆ ถูกๆ จนลิ่วล้อ ซึ่งก็คือ นายบุญทรง ต้องพูดแทรกกลางคัน....ว่า สัญญานั่นไม่ใช่ MOU ดังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบนักข่าว แต่เป็น Sale Contract ไปเสียอีก..

ซึ่งคำพูดของนางสาวยิ่งลักษณ์ น่าจะมีนัยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เห็นหรือรับรู้ แต่พูดผิดๆ ถูกๆ ที่ซ้ำร้าย กว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะปรับนายบุญทรงออกจากรัฐมนตรีพาณิชย์ ต้องใช้เวลานานถึง 7 เดือน นำไปสู่การระบายข้าวจีทูจีภาคสองอีก 14 ล้านตัน ซึ่งรอ ป.ป.ช.ชี้มูล

ทางที่ดีรัฐบาลต้องรีบอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและนำคลิปนี้ไปหักล้างด้วยครับ”

อ่านโพสต์ต้นฉบับ




กำลังโหลดความคิดเห็น