ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ดรามา “ใส่ชุดไทยไถสเกต” “เดียร์-ดาวฤกษ์” เล่นไม่ดูฤกษ์ หวังกระชากเรตติ้ง แต่กลับเรียกทัวร์ลง งานนี้ “ลุงป้อม” จะเคลียร์อีกมั้ย ?
ดรามา “ใส่ชุดไทยไถสเกต”
เกิดจากเมื่อวันก่อน (28 มี.ค.) หลังจาก “เดียร์” น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.ในกลุ่มดาวฤกษ์ “วัน ภาดาท์ วรกานนท์” ได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “#รัตนโก Surf #ใส่ชุดไทยไถสเก็ต” ร่วมกับ “โจอี้ บอย” นักร้องเพลงแรปชื่อดัง กลุ่มล้มไม่เลิก กลุ่ม URFACE และ พันธมิตรอื่นๆ เปิดพื้นที่บนถนน ทำกิจกรรมฮิตของคนรุ่นใหม่ #Surfskate มาใส่ชุดไทยสร้างเสริมวัฒนธรรมที่สวยงามของเรา โดยว่ากันว่า มีผู้ร่วมงานกว่า 300 คน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง กับระยะทาง 4 กิโลเมตร
วันที่ “เดียร์ -ดาวฤกษ์” ทำกิจกรรมนี้ บังเอิญเป็นวันเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายม็อบทวงคืนพื้นที่ “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ที่หน้าทำเนียบฯ ซึ่งก็รู้กันว่า เป็นม็อบฝั่งตรงข้ามรัฐบาลที่เรียกร้องให้ปล่อยแกนนำม็อบคณะราษฎร และให้ “นายกฯ ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก
ชาวโซเชียลฯโดยเฉพาะ “ติ่ง 3 นิ้ว” จึงโยงทั้งสองเหตุการณ์มาเปรียบเทียบกันว่า รัฐบาล “สองมาตรฐาน” โดยมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติ
กิจกรรม #ใส่ชุดไทยไถสเก็ต ของ “เดียร์” ถูกทัวร์ลงอย่างหนักว่า เส้นใหญ่ ปิดถนน อีกทั้งไม่สวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการป้องกันโควิด
หลังทัวร์ลง “เดียร์-วทันยา” ออกมาเคลียร์ว่า เรื่องการไม่ใส่มาสก์ว่า ก่อนที่จะเริ่มมาที่จุดสตาร์ท ผู้ร่วมกิจกรรมสวมมาสก์ตามปกติ แต่ภาพที่เห็นกันเป็นการถอดมาสก์ มาเพื่อถ่ายภาพที่ระลึก และถอดออกเพื่อให้หายใจได้สะดวกระหว่างไถสเกต เพราะอากาศร้อน เมื่อกลับถึงเส้นชัยทุกคนก็กลับมาใส่มาสก์กันตามปกติ ส่วนเรื่องจำนวนคน และความปลอดภัยปฏิบัติตามกฎของ ศบค. และขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องปลอดการเมือง
แม้ว่าเดียร์จะยกเหตุผลมาอ้าง แต่โลกออนไลน์ก็ยังเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์สองกรณี #ใส่ชุดไทยไถสเก็ต และ สลายการชุมนุม “ม็อบทะลุฟ้า” ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้ แฮชแท็ก #ใส่ชุดไทยไถสเก็ต ติดอันดับยอดนิยมอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์
ขณะที่ “โจอี้ บอย” ออกมาโพสต์ขอโทษ ที่การจัดงานถูกโยงไปเรื่องการเมือง
แว่วว่า เรื่องนี้ “เดียร์” และ กลุ่มดาวฤกษ์ ซึ่งเพิ่งจะถูกพรรคมีมติลงดาบโทษฐานที่ “กลุ่มดาวฤกษ์” ก่อเรื่องงดลงคะแนนให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา... อยากได้กระแสคนรุ่นใหม่ ที่กำลังฮิตไถสเกต หวังกระชากเรตติ้ง สร้างฐานเสียงระหว่างที่โดนพรรคลงโทษไปพลางๆ โดยที่ไม่นึกว่าจะเจอปฏิกิริยารุนแรง กระแสตีกลับ กลายเป็นเรียกทัวร์มาลงซะงั้น
เรียกว่า ทุกอย่างพร้อม ลีลาพลิ้วไหว ขาดแต่เพียงดูฤกษ์ดูยาม มาเล่นเอาวันที่สลายการชุมนุมม็อบ ผลที่ได้จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่คาดคิดไป
ก็ไม่รู้ว่า ดาวฤกษ์ก่อเรื่องคราวนี้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ซึ่งพักหลัง “วีน” บ่อย จะปวดเฮดละเหี่ยใจกับกลุ่มนี้ มีเรียกไปเคลียร์อีกมั้ย ? ก็ต้องโปรดติดตามกันต่อไป
** ศาลระบุชัดคดีขายข้าวจีทูจีเก๊ แบ่งหน้าที่กันทุจริต ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องชดใช้ค่าเสียหาย... แล้ว “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะเจ้าของนโยบายผู้สั่งการล่ะ ต้องชดใช้มั้ย ?
คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีเก๊ ในยุครัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ริเริ่มโครงการรับจำนำข้าว แล้วนำข้าวออกระบาย โดยอ้างว่า มีการทำสัญญาขายข้าวให้กับประเทศจีน เป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” ทำสัญญา 4 ฉบับ เป็นเงิน 2 หมื่นล้าน แต่ความจริงเป็นการหมุนเวียนขายข้าวแก่พ่อค้าข้าวในประเทศ เป็น “จีทูจีเก๊”
คดีนี้เป็นคดีแพ่งและอาญา ที่อัยการสูงสุดฟ้อง “ภูมิ สาระผล” อดีต รมช.พาณิชย์ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลย และพวกรวม 28 คน ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ต่อมาศาลได้พิพากษา จำคุก “บุญทรง” 42 ปี “ภูมิ” 36 ปี “เสี่ยเปี๋ยง” อภิชาติ จันทร์สกุลพร 48 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือก็ถูกจำคุกลดหลั่นกันไปตามพฤติกรรม ความร้ายแรงของความผิด และยกฟ้องอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงสี และให้จำเลยบางส่วนชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ คดีนี้นำมาสู่คำพิพากษาจำคุก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา เพราะไม่ระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหาย เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
แต่ “ยิ่งลักษณ์” เผ่นหนีออกนอกประเทศไปก่อน ขณะที่ “บุญทรง” กับพวกไม่หนี จึงถูกจำคุกมากว่า 3 ปีแล้ว!!
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีแพ่งด้วย จึงต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย โดยกระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งให้ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ชดใช้ 1,768ล้านบาท “ภูมิ สาระผล” 2,242 ล้านบาท ส่วน “มนัส สร้อยพลอย” อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ “ทิฆัมพร นาทวรทัต” อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ “อัฐฐิติพงศ์ ช่วยเกลี้ยง” อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ ชดใช้คนละ 4,011 ล้านบาท
ทั้ง 5 คนนี้ จึงนำเรื่องร้องต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนคำสั่งใช้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ซึ่งศาลปกครองกลางได้อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) โดยเห็นว่าผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 คน ปฏิบัติหน้าที่ในการระบายข้าวโดยการแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะจงใจทุจริตต่อกระทรวงพาณิชย์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. เป็นเหตุให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อคำนึงถึงระดับความร้ายแรงแห่งการกระทำ และความเป็นธรรมในแต่ละกรณีแล้ว มีเหตุให้ทั้ง 5 คน ไม่ต้องใช้เต็มจำนวนความเสียหาย จึงมีคำสั่งให้ นายมนัส นายทิฆัมพร นายภูมิ และ นายบุญทรง รับผิดในอัตรา ร้อยละ 20 ของความเสียหายในแต่ละสัญญา ที่แต่ละคนมีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วน “นายอัฐฐิติพงศ์” ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ ทำหน้าที่ล่ามในการเจรจาซื้อขายข้าว ไม่เคยแสดงความเห็นใดๆ ในการทำสัญญา ฉบับที่ 1 และที่ 2 เพิ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในสัญญา ฉบับที่ 3 และที่ 4 จึงไม่ต้องชดใช้เต็มจำนวน
สรุปว่าศาลปกครองกลางยกคำร้องที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งชดใช้ค่าเสียหาย โดยให้ “บุญทรง” ชดใช้ 1,768 ล้านบาท “ภูมิ” 2,242 ล้านบาท “มนัส” 4,011ล้านบาท “ทิฆัมพร” 4,011 ล้านบาท และ “อัฐฐิติพงศ์” 2,694 ล้านบาท
ส่วน “ยิ่งลักษณ์” นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่เป็นเจ้าของนโยบาย และยังเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งถูกศาลสั่งจำคุก 5 ปี และชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาทนั้น ... รัฐบาลจะมีแนวทางดำเนินการนำตัวมารับโทษ และชดใช้ค่าเสียหายมั้ย !!
หรือจะเลยตามเลย..ปล่อยให้เธอลอยนวลอยู่อย่างนี้