พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 20.12 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปด้วยเครื่องบินพระที่นั่งไปยัง ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่โอกาสนี้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 , ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, ผู้บังคับการกองบิน 41, ข้าราชการและประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
โอกาสนี้พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 1 กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินออกจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 ไปยังกองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในการไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยตลอดสองข้างทางมีประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างเนืองแน่น
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยเจ้าคุณพระสินีนาฏพิลาสกัลยาณีถึงยังกองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7, ข้าราชการและประชาชนที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
การนี้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 , ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองพลทหารราบที่ 7และรองประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองพลทหารราบที่ 7 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึก,
จากนั้นทรงเปิดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายคำจารึกพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นพระบรมรูปทรงสะพายพระแสงดาบด้านพระปฤษฎางค์ (พระ-ปีส-สะ-ดาง) ทรงม้าศึกประจำ
พระองค์ตรวจตราที่ตั้งค่ายทหารทัพหลวง ณ ทุ่งยั้งทัพ ในพื้นที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทำด้วยโลหะบรอนซ์สัมฤทธิ์ ขนาดความกว้าง 2.1เมตร ยาว 5.35 เมตร สูง 7.35เมตร น้ำหนัก 10 ตัน มี นายธวัชชัย ศรีสมเชร เป็นช่างผู้หล่อปั่น
โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงมีความสัมพันธ์ กับพื้นที่ตั้งหน่วย ที่ได้กำหนดฉายาพื้นที่ตั้งกองบัญชาการ กองพลทหารราบที่ 7 ให้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ ว่า "ทุ่งยั้งทัพ"(KING NARESUAN'S STAGING AREA) และ เทิดพระเกียรติ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่เคารพสักการะของกำลังพล ประชาชนทั่วไปตลอดจนเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อันมีคุณค่ายิ่งต่อไป
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกองพลทหารราบที่ 7 (ทุ่งยั้งทัพ) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ มีราษฎรมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตลอดสองฝั่งถนนที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทุกคนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง โบกธงพระปรมาภิไธย “วปร.” และธงพระนามาภิไธย “สท” พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆ
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงสำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างหาที่สุดมิได้