“โชติศักดิ์ ไม่ยืนฯ” เอือม! ม็อบฝ่อลงทุกวัน จากหลักแสนเหลือหลักร้อย เหตุเอาแต่เที่ยวไล่คนอื่น

“โชติศักดิ์ อ่อนสูง” นักเคลื่อนไหวการเมืองชี้ชัด ม็อบฝ่อลงทุกวันจากเหยียบแสนเหลือไม่ถึงร้อย แต่ยังมีคนไล่แขกอยู่ทุกวัน ถามอยากให้หายเพิ่มด้วยการเที่ยวไล่คนอีกเหรอ? พบก่อนหน้านี้ทวงถามความโปร่งใสเงินบริจาค

วันนี้ (13 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chotisak Onsoong ของ นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เจ้าของวลี “ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร เห็นต่างไม่ใช่อาชญากรรม” โพสต์ข้อความระบุว่า “ม็อบฝ่อลงทุกวัน จากเหยียบแสน บางคนว่าเกินแสน กลายเป็นหลักหมื่น จนมาเหลือหลักพัน และล่าสุดคือ หลักร้อย บางคนบอกไม่ถึงร้อย แต่ก็อุตส่าห์ยังมีคนไล่แขกอยู่ทุกวัน “ไม่พอใจก็ไปทำม็อบเอง” บ้างล่ะ “เรื่องม็อบไม่ใช่ธุระกงการของคุณ” บ้างล่ะ

ไอ้เรื่องเห็นไม่ตรงกัน เถียงกันนั่นก็เรื่องนึงนะ แต่ประเภทไล่แขกอย่างที่ยกตัวอย่างไปนั่นมันอีกเรื่อง ถ้าม็อบยังเป็นหลักหมื่นหลักแสนแล้วกล้ากร่างแบบนี้ ก็ยังพอเข้าใจได้นะ แต่นี่เปล่าเลย เหลือหลักร้อยแล้ว แน่นอน คนที่หายไปก็ด้วยหลายสาเหตุ ไม่ใช่ว่าเพราะถูกไล่อย่างเดียว แต่พอมันเป็นแบบนี้แล้วยังอยากให้หายเพิ่มด้วยการเที่ยวไล่คนอีกเหรอ? คนพวกนี้มันคิดอะไรกัน? แล้วก็น่าสนใจว่าบรรดาแกนนำไม่เคยสื่อสารกับคนเหล่านี้เลยนะ อาจจะคิดว่าไม่ใช่ปัญหา หรืออาจจะนึกชอบใจอยู่ อันนี้ไม่แน่ใจ

ผมไม่คิดว่าจะสามารถกำจัดพฤติกรรมแบบนี้ออกไปได้ 100% หรอกนะ แต่ถ้าแกนนำออกมาพูดสื่อสารให้มันชัดเจน ก็น่าจะช่วยได้เยอะอยู่ เหมือนที่พยายามย้ำเรื่องสันติวิธีนั่นแหละ แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านๆมาแกนนำไม่เห็นว่าเป็นปัญหา หรือเห็นว่าเป็นปัญหาแต่ไม่ยอมพูด หรืออะไร หรือเอาเข้าจริงก็ชอบใจ เห็นดีเห็นงาม อยู่เงียบๆ?”

ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ถ้าบอกว่าเงินเรื่องเงินม็อบไม่ใช่ธุระกงการของเรา งั้นการไปม็อบก็ไม่ควรเป็นธุระกงการขอเราด้วยเหมือนกันนะ"

อีกข้อความหนึ่ง ระบุว่า “เพิ่งไปส่องเฟซ คุณวีรพร (นิติประภา นักเขียนและแกนนำกลุ่มแคร์ ผู้สนับสนุนนายทักษิณ ชินวัตร) มา คุณวีรพร ที่พูดทำนองว่า คุณตูน (บอดี้สแลม หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย) รับบริจาคโปร่งใสน้อยกว่าคุณพิมรี่พาย (น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์และเน็ตไอดอลชื่อดัง) นั่นแหละครับ ปรากฏว่า คุณวีรพร โพสต์และแชร์เกี่ยวกับคุณทราย (น.ส.อินทิรา เจริญปุระ แม่ยกม็อบราษฎร) เยอะมากเลยนะ แน่นอนว่า เต็มไปด้วpคำยกยอชื่นชม ซึ่งก็แปลก ที่ไม่เห็นคุณวีรพร พูดเรื่องความโปร่งใสของคุณทรายเลยแม้แต่โพสต์เดียว เอ๊ะ หรือว่ามีอยู่แต่ว่าผมไม่เห็น? ออ โพสต์ที่พูดเรื่องความโปร่งใสของคุณตูนนั่น ผมก็หาไม่เจอแล้วนะ เจอแต่ที่เป็นรายงานข่าวอย่างเดียว ไม่รู้ลบไปแล้วหรือว่าอะไร ก็นี่แหละครับ ฝ่ายประชาธิปไตยล่ะ

อีกข้อความหนึ่งระบุว่า "เฮ้ย กล้าพูดเรื่องความโปร่งใสด้วยเหรอ? ทั้งๆที่ไอ้ฝ่ายประชาธิปไตยกำลังพากันดีเฟนด์แทบตาย ว่ารับบริจาคโดยไม่ต้องแจกแจงรายรับรายจ่ายก็ได้ จะเอาเงินไปทำผม ไปเที่ยวบาร์ ก็ไม่ผิด เนี่ยนะ"

ก่อนหน้านั้นไปอีก นายโชติศักดิ์ โพสต์ข้อความระบุว่า “เอาเข้าจริงม็อบมันก็เหมือนสินค้านั่นแหละ คือ ถึงที่สุดมันขึ้นอยู่กับว่าคนจะซื้อหรือเปล่า ตัวสินค้าอาจจะดี แต่ถ้าบริการเฮงซวย พนักงานเฮงซวย ติชมนิดหน่อย เสนอแนะอะไรนิดหน่อย ก็ไล่ให้ไปทำเอง ลูกค้าก็คงไม่สบอารมณ์ และอาจจะหยุดซื้อหรือเลิกซื้อเอาได้ง่ายๆ ส่วนไอ้ลูกค้าที่คอยตามอวย คอยปกป้องคอยเถียงแทนทุกคำติชม ทุกข้อเสนอ และที่สำคัญ เที่ยวไล่ลูกค้าอื่นที่เขาติ ที่เขาเสนอ บางทีก็ควรจะเช็กดูบ้างว่าเอาเข้าจริงแล้วพวกนี้ซื้อสินค้าของคุณบ่อยแค่ไหน ซื้อบ่อยพอ ซื้อมากพอ ที่จะยึดเอาความเห็นพวกเป็นหลักหรือเปล่า ซื้อบ่อยกว่า ซื้อมากกว่า ลูกค้าที่พวกมันคอยไล่ หรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละครับ ถึงที่สุดใครจะคิดผิดใครจะคิดถูก เดี๋ยวผลประกอบการออกมาก็รู้กันเอง”

นอกจากนี้ นายโชติศักดิ์ โพสต์ข้อความระบุว่า “เวลาคุณไปม็อบเนี่ย ด้านนึงคุณอาจจะไปเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ในอีกด้าน คุณกำลังไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ถูกเอาไปอ้างเพื่อรับบริจาค เขาอ้างว่ารับบริจาคเพื่อมาสนับสนุนพวกคุณ แต่ก็ไม่ยอมแจกแจงบัญชี ในขณะเดียวกัน ก็มีคนเสนอว่า คนรับบริจาคจะเอาเงินไปทำอะไรก็ได้ จะไปใช้ส่วนตัว ไปทำผม ไปเที่ยวบาร์ ยังไงก็ได้ แม้ว่าจะอ้างว่าเอามาใช้เพื่อสนับสนุนพวกคุณก็เถอะ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คุณอาจจะไม่ใช่คนควักเงินบริจาค แต่ทุกครั้งที่คุณไปม็อบ คุณกำลังร่วมสร้างกิจกรรม ซึ่งถูกนำไปใช้เพื่อขอรับบริจาค ซึ่งคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเอามาใช้อย่างที่อ้างจริงหรือเปล่า หรือจริงๆ แล้วเอาไปใช้ส่วนตัวอย่างที่หลายๆ คนออกใบอนุญาตล่วงหน้าไว้ให้แล้ว ถ้าจะออกไปม็อบอีกก็ลองคิดดูกันให้ดี”

ที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้านี้ นายโชติศักดิ์ โพสต์ข้อความระบุว่า “มันจะมีอยู่ตรรกะนึงประมาณว่า ถ้าคุณไม่ได้บริจาคคุณจะเดือดร้อนอะไร คนที่คิดทำนองนี้อาจจะลืมไปว่า ต่อให้เราไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินบริจาค แต่คนที่รับบริจาคเขาเอาเรา (คนไปม็อบ) ไปอ้างเพื่อรับบริจาคนะ เหมือนมีคนอ้างว่ารับบริจาคช่วยหมู่บ้านคุณหน่ะ, คุณไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบเหรอว่าที่เอากูไปอ้าง มึงได้เงินมาเท่าไหร่ แล้วเอามาใช้จ่ายเพื่อกูและคนในหมู่บ้านกูจริงมั้ย เท่าไหร่

กรณีคนบริจาค ถ้าผมจำไม่ผิดก็เหมือนจะเคยมีคนขอเงินคืนอยู่นะ หลังจากที่มารู้ทีหลังว่าไม่มีการชี้แจงบัญชี ส่วนกรณีคนที่ถูกอ้างถึง ผมก็เหมือนจะจำได้ว่ามีคนที่อ้างว่าเป็นการ์ดแนวหน้าเคยโพสต์ตัดพ้อเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

แล้วก็อย่าลืมว่า องค์ประกอบของม็อบมันไม่ได้มีแต่แกนนำกับการ์ดนะ มันมีคนที่ไปร่วมม็อบด้วย เหมือนกับที่ประเทศมีประชาชน ไม่ได้มีแค่...กับทหารนั่นแหละ เวลาคุณอ้างว่าคุณช่วยม็อบ รับบริจาคเพื่อเอาเงินมาทำม็อบ มันคืออ้างถึงคนทั้งหมดนะ แล้วทำไมคนที่ถูกอ้างถึงถึงไม่มีสิทธิรับรู้อะไรเลย

ตามที่ผมเข้าใจ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการจะรู้รายละเอียดทุกเม็ดหรอก เขาอยากรู้คร่าวๆ แค่นั้นแหละ ว่ารับมาเท่าไหร่ จ่ายอะไรเท่าไหร่ แบบคร่าวๆ ซื้อหมวกก็ลงแค่ว่าซื้อหมวก ซื้อกี่ใบ ราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าจะต้องบอกว่าซื้อจากร้านไหน โรงงานไหน บางคนอ้างอีกว่า ก็ make เอาได้อยู่ดี ก็ใช่ครับ ทำได้ make ได้ แต่มันไม่ 100% แน่ๆ เช่น ถ้าคุณบอกว่าซื้อหมวก 100 ใบ แต่ซื้อจริงแค่ 70-80 อันนี้อาจจะจับได้ยาก แต่ถ้าบอกซื้อ 100 ใบ แล้วในความเป็นจริงไม่มีหมวกมาแจกเลย หรือมีมาน้อยจนเห็นได้ชัด ดูด้วยตาไม่น่าจะเกิน 20 ใบ อันนี้ก็โป๊ะแตก แต่ถ้าไม่แจกแจงอะไรเลย เขาเอาไปทำอะไรบ้างเราไม่มีสิทธิ์รู้เลยนะ ต่อให้ “อม” ทั้ง 100 เราก็ไม่สามารถรู้ได้เลย

แล้วถ้าใครยังจำได้ กรณีคุณบิณฑ์ที่รับบริจาคช่วยน้ำท่วม ผมก็เห็นฝ่ายประชาธิปไตยด่าคุณบิณฑ์แทบตาย ไม่เห็นใครใช้ตรรกะ “ไม่ได้เป็นคนบริจาคแล้วจะเดือดร้อนอะไร” บ้างเลย อันนี้ไม่ใช่แค่ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินบริจาคด้วยนะ แต่หลายๆ ที่ไปรุมด่าคุณบิณฑ์นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย คือ ไม่ได้ถูกเอาไปอ้างเพือรับบริจาคด้วยซ้ำ แต่ก็เห็นด่ากันเป็นคุ้งเป็นแคว เรียกร้องให้แสดงรายรับรายจ่าย หรือยังไง? ถ้าเป็นพวกกูก็มาตรฐานนึง ฝ่ายตรงข้ามก็อีกมาตรฐาน อะไรยังงั้นใช่มั้ย?”

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิก