xs
xsm
sm
md
lg

“ปลัดจอมแฉ” เผยคืบคดีฌอนรับบริจาคไฟป่า หลังล่าสุดไลฟ์โค้ชคนดังคัมแบ็กแนะวิธีเผชิญปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชคนดังกลับมาแล้วหลังหายเข้ากลีบเมฆ พร้อมแนะวิธีเผชิญปัญหาทางเพจ แถมปักหมุดแจงปมเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ ด้าน “ปลัดจอมแฉ” เดินหน้าเกาะติดคดีที่แจ้งความไว้ต่อเนื่อง ล่าสุดพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแล้ว เผยตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยได้พบหรือพูดคุยกับไลฟ์โค้ชคนดังเลย


จากกรณีที่เน็ตไอดอลและไลฟ์โค้ชชื่อดัง “ฌอน บูรณะหิรัญ” เงียบหายไปนานเนื่องจากถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบเกี่ยวกับความโปร่งใสการใช้เงินรับบริจาคที่อ้างว่านำไปช่วยดับไฟป่าเชียงใหม่ กระทั่งล่าสุด “ฌอน บูรณะหิรัญ” ได้โพสต์คลิป หัวข้อ “Life Changing Story Of The Carrot, Egg&Coffee Bean” ที่พูดถึงการแก้ไขปัญหาของสิ่งต่างๆ เมื่อเด็กคนหนึ่งถามว่า “หนูกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต หนูจะทำอย่างไรดี” โดยยกตัวอย่างเรื่องเล่าของแครอท ไข่ และเมล็ดกาแฟเข้ามาเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้รับความสนใจในโพสต์ดังกล่าวกลับเป็นเรื่องของการปักหมุดในคลิปดังกล่าวที่มีการชี้แจงเรื่องการบริจาคเงินดับไฟป่าที่เป็นประเด็นมานาน โดยแอดมินระบุว่า "#แอดมิน ขอขอบพระคุณในความคิดเห็นของคุณทุกท่านค่ะ เนื่องจากมีคำถามจากหลายท่านเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินบริจาค ทางแอดมินขออนุญาตนำข้อมูลแนบมาดังนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านที่สนใจนะคะ 1. คุณฌอนได้เข้าพบเจ้าหน้าที่เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา และให้การปฏิเสธทุกข้อหา 2. ในเพจ รักษ์ไม่มีเงื่อนไข จะมีความคืบหน้ากิจกรรม ประกาศรับสมัครอาสาร่วมทำกิจกรรม และรายงานงบประมาณบริหารงานโดยทีมคณะกรรมการ และที่ปรึกษา หากมีข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคที่คุณต้องการทราบเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ทาง Inbox ได้เสมอค่ะ ขอบพระคุณนะคะ ด้วยรัก ทีมงานฌอน บูรณะหิรัญ"


นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแม่ริม เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 63 ให้ดำเนินคดี “ฌอน บูรณะหิรัญ” เน็ตไอดอลและไลฟ์โค้ชชื่อดัง พร้อมพวกกรณีเปิดรับบริจาคเงินอ้างจะนำไปช่วยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการดับไฟป่าดอยสุเทพ ล่าสุดได้พูดคุยสอบถามความคืบหน้ากับทางพนักงานสอบสวนทราบว่าได้ทำการสอบสวนและสรุปสำนวนส่งผู้บังคับบัญชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาและความชัดเจนจากผู้บังคับบัญชาหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะดำเนินคดีในพื้นที่ใด

ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์มองว่าน่าจะเป็นการดีหากดำเนินคดีในพื้นที่อำเภอแม่ริม และจังหวัดเชียงใหม่ เพราะบัญชีธนาคารที่ใช้ในการเปิดรับบริจาคนั้นมีการเปิดบัญชีที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันในพื้นที่อำเภอแม่ริมถือว่าพบความเสียหายชัดเจนและการรับบริจาคดังกล่าวส่อพฤติกรรมไม่สุจริตชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ตามที่มีการกล่าวอ้างในการเปิดรับบริจาค ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นและมีการร้องเรียนให้ตนตรวจสอบ ตนยังไม่เคยได้พบหรือได้พูดคุยกับนายฌอนโดยตรงเลย ทั้งๆ ที่อยากให้มาพบพูดคุยกันเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนให้สังคมและหาทางออกร่วมกัน เพราะน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เนื่องจากการละเมิดกฎหมายนั้นเป็นเรื่องที่ปล่อยผ่านไม่ได้แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

แฟ้มภาพ
นอกจากนี้ นายบุญญฤทธิ์แสดงความเห็นกรณีมูลนิธิเกี่ยวกับการคุ้มครองดูแลสวัสดิภาพสัตว์แห่งหนึ่งที่ถูกตั้งข้อสังเกตประเด็นความโปร่งใสการใช้จ่ายเงินที่รับบริจาคว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามักจะหยิบยกกรณีต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์ที่ถูกทำร้ายมาสร้างกระแสเปิดรับบริจาคอยู่เป็นประจำทางโซเชียลมีเดียว่า การเปิดรับบริจาคและขอเรี่ยไรทุกกรณีไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม ตามกฎหมายแล้วต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิด และหากตรวจสอบพบว่ามีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ตามที่แจ้งไว้ยังเข้าข่ายความผิดฉ้อโกงและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในกรณีการรับบริจาคเข้าบัญชีธนาคารของมูลนิธิถือว่าได้รับความคุ้มครองส่วนหนึ่ง เพราะปกติแล้วจะต้องตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเปิดรับบริจาคระบุว่านำเงินไปช่วยชีวิตสัตว์ตัวหนึ่ง หากผู้บริจาคสงสัยหรือมีข้อมูลว่าไม่ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ย่อมสามารถร้องขอให้ตรวจสอบได้ ซึ่งกรณีที่มีผู้เสียหายสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือที่ตนได้

แฟ้มภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น