เชียงใหม่ - เชียงใหม่ฝุ่นควันคลุมทึบทั้งเมือง เว็บไซต์ airvisual ชี้ค่ามลพิษพุ่งอันดับ 8 ของโลก แต่แอปพลิเคชัน AirCMI ที่จังหวัดเชียงใหม่แนะนำให้ใช้งานเพื่อรับข้อมูลทางการกลับแจ้งบอกว่าอากาศดี ขณะที่ชาวบ้านระบุชักหมดความเชื่อถือแล้ว หลังเข้าใช้งานทุกวัน วันละ 3 เวลาตลอดสัปดาห์ เจอผลตรวจวัด PM 2.5 คงที่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่าเดิมตลอด สวนทางสภาพความเป็นจริง จี้ตรวจสอบด่วน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (24 ก.พ. 64) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบจนมองไม่เห็นยอดดอยสุเทพ ขณะที่รายงานผลการตรวจคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษพบว่าที่สถานีตรวจวัดตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ และมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 126, 100 และ 114 ตามลำดับ ซึ่งภาพรวมถือว่าอยู่ระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ airvisual ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีค่ามลพิษรุนแรงเป็นอันดับ 8 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 167 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 85.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนแอปพลิเคชัน AirCMI ที่เป็นความร่วมมือของจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการตรวจวัดค่า PM 2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันอยู่ที่ 26 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 80 พร้อมระบุว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีด้วย ซึ่งค่อนข้างขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงที่ปรากฏ
ทั้งนี้ ในประเด็นข้อสงสัยความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชัน AirCMI นั้น ผู้ใช้แอปพลิเคชัน AirCMI รายหนึ่งเปิดเผยว่า รู้สึกสงสัยและไม่เชื่อมั่นการรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของแอปพลิเคชันนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะมีการระบุว่าเป็นการรายงานผลจากเครื่องตรวจวัดที่มีการติดตั้งกระจายอยู่ครอบคลุมเกือบทุกตำบลของจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ดูเหมือนน่าเชื่อถือและมีความเที่ยงตรง อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเองที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย เริ่มสังเกตว่าแถวบ้านมีการเผาตามบ้านเรือน กลิ่นควันเหม็นคลุ้ง จนเพื่อนบ้านหลายรายทนไม่ไหวและมีการโทร.แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ส่วนตัวเองได้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน AirCMI เพื่อตรวจสอบรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของเครื่องตรวจวัดที่ติดตั้งอยู่ในตำบลหนองจ๊อม พบว่าค่า PM 2.5 อยู่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น พร้อมระบุว่าคุณภาพอากาศดีด้วย ซึ่งทำให้รู้สึกเริ่มสงสัยแล้ว แต่ยังมองแง่ดีว่าอาจเป็นเพราะจุดที่ตัวเองอยู่กับจุดติดตั้งเครื่องตรวจวัดอาจอยู่ห่างกันทำให้ผลการตรวจวัดคลาดเคลื่อน จากนั้นผ่านไปถึงเช้าอีกวันหนึ่งได้ลองเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน AirCMI อีกพบว่า ผลการตรวจวัดค่า PM 2.5 ตำบลหนองจ๊อมยังคงอยู่ที่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเช่นเดิม ต่อมาวันเดียวกันนั้นในช่วงกลางวันและกลางคืน ได้ลองเข้าใช้งานอีกพบว่าผลการตรวจวัดค่า PM 2.5 ตำบลหนองจ๊อม ยังคงอยู่ที่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเหมือนเดิม และได้ทดลองทำเช่นเดียวกันนี้ต่อเนื่องทุกวันตลอดสัปดาห์ ก็พบว่าค่า PM 2.5 อยู่ที่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตลอด
นอกจากนี้ ตลอดช่วงสัปดาห์ดังกล่าวที่เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน AirCMI นั้นยังได้ลองเข้าใช้งานฟังก์ชันตรวจสอบพื้นที่อากาศดีของแอปพลิเคชัน AirCMI ด้วย และทำให้พบว่าไม่ใช่แค่เพียงรายงานผลตรวจวัดค่า PM 2.5 ของตำบลหนองจ๊อมเท่านั้น ที่มีค่าเท่าเดิมทุกวันและทุกครั้งที่เข้าใช้งาน แต่อีกหลายตำบลของจังหวัดเชียงใหม่ก็มีการรายงานผลการตรวจวัด PM 2.5 ด้วยค่าเดิมเหมือนกัน เช่น ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง 16 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว 16 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ตำบลเวียง อำเภอฝาง 16 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า 17 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นต้น
ล่าสุดได้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน AirCMI อีกครั้ง พบว่าผลการตรวจวัดค่า PM 2.5 ตำบลหนองจ๊อม ยังคงอยู่ที่ 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่เมื่อใช้เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบพกพาตรวจวัดเปรียบเทียบกันพบว่าค่า PM 2.5 อยู่ที่ 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้ทางจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบอย่างเร่งด่วนว่ามีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ และแอปพลิเคชัน AirCMI ยังเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวใช้งานแอปพลิเคชันนี้เพื่อติดตามสถานการณ์และข่าวสารแจ้งเตือนเกี่ยวกับคุณภาพอากาศมาตลอด แต่หากข้อมูลในแอปพลิเคชันที่ควรจะเที่ยงตรงน่าเชื่อถือกลับคลาดเคลื่อนเสียเอง แล้วประชาชนควรจะเชื่อถืออะไรดี