ดรามารับเดือนมีนาคม ยูทูปเบอร์ชื่อดัง “พิมรี่พาย” ควักเงินติดไฟชุมชนคลองเตย ด้วยโซลาร์เซลล์ 100 ดวง ให้มีแสงสว่างยามค่ำคืน ส่งผลให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมและวิจารณ์การทำงานของภาครัฐกันยกใหญ่ ก่อนพบข้อมูลเพิ่ม ที่ดินดังกล่าวชุมชนคลองเตยบุกรุกเข้าไปในที่ดินส่วนบุคคล ทำให้ภาครัฐไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้
จากกรณี “พิมรี่พาย” ยูทูปเบอร์ดัง ขน “โซลาร์เซลล์” เกือบ 200 ดวง ติดทั่วชุมชนคลองเตย โดยมีการโพสต์ภารกิจดังกล่าวลงในเพจ “Pimrypie-พิมรี่พาย” ในวันนี้ (1 มี.ค.) และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้รับชมแล้วกว่า 3 ล้านครั้ง และแชร์ออกสู่โลกโซเชียลอีกกว่า 8 หมื่นครั้ง โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“ความมืดมิดใจกลางเมืองหลวง เพราะพิมเชื่อว่า...ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงแสงสว่าง”
โดยภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นการทำงานของยูทูปเบอร์ดัง ลงสำรวจชุมชนคลองเตย ที่มีประชากรอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งระหว่างเดินสำรวจนั้น พบว่า ตลอดทางเข้าไปในชุมชมนั้นมืดมิดมาก ไม่มีแสงไฟ ในขณะที่สนามเด็กเล่นก็มีเด็กๆ ออกมาวิ่งเล่นกันด้วยความมืดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ พิมรี่พายยังได้ให้กำลังใจเด็กๆ ในชุมชนคลองเตย โดยพูดว่า “โอกาสของชุมชน เดี๋ยวพี่พิมจัดให้ ส่วนโอกาสของชีวิต เอ็งต้องเดินไปหาเอง”
สำหรับภารกิจดังกล่าว “พิมรี่พาย” ได้นำ “โซลาร์เซลล์” เกือบ 200 ดวง ไปติดบริเวณทางเดินชุมชนคลองเตย และสนามฟุตบอลเด็กเล่น ซึ่งประเด็นดังกล่าวมิวายมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงการทำงานของภาครัฐ ที่ปล่อยให้ “พิมรี่พาย” ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือสังคม แทนที่จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม เกิดประเด็นดรามาขึ้น เมื่อเพจ “เรื่องเล่าของ ๒๗๗” นำข้อมูลอีกด้านมาเผยแพร่สู่โลกโซเชียล ถึงสาเหตุที่ฝ่ายภาครัฐไม่สามารถเข้าไปพัฒนาชุมชนคลองเตยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั้นคือ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล โดยมีการอ้างอิงจากเว็บไซต์ “พันทิป” ที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อ “สมาชิกหมายเลข 1924153” ได้ออกมาโพสต์ในหัวข้อ “สลัมบุกรุกที่ดิน กลุ้มใจไม่มีใครช่วย วอนขอความคิดเห็นสังคม” โดยในพื้นที่ดังกล่าวที่ถูกบุกรุกนั้น ใกล้กับสลัมคลองเตย โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“ที่ดินของคุณแม่ แกซื้อมาตั้งแต่สาวๆ เนื้อที่ประมาณสามไร่ ใกล้สลัมคลองเตย คุณแม่เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนตอนซื้อมาใหม่ๆเป็นที่ดินเป็นบ่อ ที่ต่ำน้ำท่วมทั้งปี แกจึงทำการถมดิน แล้วให้บริษัทป้ายโฆษณาเช่าตั้งป้าย มาหลายปี ซึ่งก็มีชาวบ้านที่เป็นสลัมใกล้เคียงกับที่ดิน (เป็นที่ดินเขตของการท่าเรือ) สมัยแรกๆ ก็มีคนยากคนจนมาขออยู่อาศัยตรงส่วนพื้นที่ว่างบางส่วน คุณแม่ก็ถือว่าช่วยเหลือผู้ยากไร้ ให้ตั้งที่อยู่ชั่วคราว แต่นานๆ เข้า ก็เริ่มปลูกรุกล้ำเข้ามา แต่คุณแม่แกก็มีเก็บค่าเช่าบ้าง ตามแล้วแต่จะให้กัน จนปัจจุบันสภาพเป็นแบบในภาพนี้
โดยคุณแม่ก็พยายามเข้าไปพูดคุยกับชุมชนโดยตลอดว่า อย่ารุกเข้ามา สมัยแรกๆ ก็คุยรู้เรื่อง มีเตือนมาตลอดว่าถ้าเราจะใช้ที่ดินก็ให้ย้ายออกไป เวลาผ่านไปหลายปี ด้วยความที่ผมยังเล็กจึงไม่ได้เข้าไปดู ปัจจุบันก็เลยโดนบุกรุกจนกินเข้ามาเกือบ 1 ใน 4 ของที่ดิน
ปลูกอมขาป้ายเลยที่เดียว ปัจจุบันคุณแม่แกอายุก็ปาไป 70 ปีแล้ว ดูเหมือนในชุมชนจะมีสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่ดีกับคุณแม่มาตลอด จ่ายค่าเช่าไม่ปลูกสร้างเพิ่มเติม กับอีกกลุ่มที่สร้างบ้านใหม่ จนเป็นโครงสร้างถาวรและดื้อแพ่งไม่ยอมฟัง แม้จะเข้าไปห้ามแล้วก็ตาม แต่กลุ่มชุมชนก็ไม่ฟังก่อสร้างบ้านรุกล้ำไปเรื่อยๆ เปรียบเหมือนเป็นที่ดินของตัวเองไปแล้ว
พอเข้าไปห้ามสร้างดีๆ ก็พูดจาท้าทาย ให้ไปฟ้อง จนว่าจะมีหมายศาลมา พูดว่าทำอะไรพวกเค้าไม่ได้หรอก “อยู่กันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องให้พวกเค้าอยู่กันต่อไป” (ดูเหมือนจะไม่มีความเกรงใจ เจ้าของที่อย่างเราไปแล้ว เพราะเป็นลูกหลานของรุ่นแรกๆ) ทางกระผมได้เคยไปร้องเรียนที่เขตแล้ว แต่ก็ดูเหมือนเขตก็ไม่กล้าทำอะไร จนปัจจุบันเริ่มจะก่อสร้างเพิ่มเป็นบ้านสองชั้น สามชั้นกันแล้ว โดยไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างใดๆ เลย อัปเกรดบ้านกันสวยงามเลย (เพราะเริ่มรวยมีตังค์แล้ว)
ที่ดินแปลงนี้ทางคุณแม่ก็แสดงสิทธิความเป็นเจ้าของมาโดยตลอด แต่ก็ดูเหมือนชุมชนรุ่นใหม่ๆ จะไม่ฟังเหตุและผลแล้วครับ ตอนนี้ผมและคุณแม่อึดอัดมาก
ไปแจ้งความทาง สน. ก็ให้ไปรังวัดก่อน พอไปขอกรมที่ดิน รังวัด พอเจ้าหน้าที่เข้ามารังวัด ก็แจ้งว่า รังวัดไม่ได้ เพราะโดนสลัมสร้างบ้านทับหลักหมุด จนหาหลักหมุดไม่เจอแล้ว ถ้าจะไปฟ้องขับไล่ ผมจะเอาแนวรังวัดที่ไหนไปฟ้อง ในเมื่อรังวัดไม่ได้ ปัญหาก็เลยวนอยู่อย่างนี้
ตอนนี้ผมและคุณแม่จึงไม่รู้จะไปร้องเรียนหน่วยงานใด จึงอยากปรึกษา ขอความเป็นธรรม ว่า พอจะแนะนำทางออกใดได้บ้างมั้ยครับ?? ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนแออัดในเมือง การบุกรุกที่ดินจากชุมชนแออัดทั้งภาคเอกชน และที่ดินของรัฐวิสาหกิจ
ถึงเวลาหรือยัง? ที่ต้องปฏิรูป วอนสื่อตีแผ่ วอนสังคมและหน่วยใดที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยให้ความเป็นธรรมให้ด้วยครับ”
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลอีกด้านในทวิตเตอร์ว่า ที่ดินดังกล่าวที่ “พิมรี่พาย” เข้าไปติดโซลาร์เซลล์ทั่วชุมชนคลองเตยนั้น มีเอกสารสิทธิ น.ส.4 ไม่ใช่ที่ดินที่โพสต์ลงในเว็บไซต์พันทิป ซึ่งทางเพจ “เรื่องเล่าของ ๒๗๗” ได้ยืนยันว่า ถึงจะเป็นคนละแปลงกันก็ยังถือว่าเป็นการบุกรุกที่ดินอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกันต่อไปว่า ประเด็นดรามาของยูทูปเบอร์ชื่อดังรายนี้ จะจบอย่างไร หลังจากเพิ่งผ่านประเด็นดรามาไฟฟ้าบนดอยบ้านแม่เกิบมาไม่นาน
สำหรับ เอกสารสิทธิ น.ส.4 (ตราครุฑสีแดง) น.ส.4 เป็นโฉนดที่ดินที่พบเห็นได้ทั่วไป สามารถซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยความเก่าใหม่ของโฉนดที่ดินสามารถดูได้จากอักษรท้ายของรหัสเอกสาร เช่น น.ส.4 จ. คือรหัสเอกสารที่ใช้ในปัจจุบัน ส่วน น.ส.4 ก. ก็เป็นโฉนดที่ดินรุ่นเก่าที่สุด
อ่านประกอบข่าว - สลัมบุกรุกที่ดิน กลุ้มใจไม่มีใครช่วย วอนขอความคิดเห็นสังคม