ม็อบหน้าสภาเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย “เบนจา” อ่านแถลงการณ์สิ้นหวังกับระบบรัฐสภา หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง ขอพี่น้องประชาชนออกมาร่วมต่อสู้กันให้มากเพื่อชัยชนะ ก่อนประกาศยุติชุมนุมเมื่อเวลา 3 ทุ่ม
วันนี้ (20 ก.พ. 2564) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ที่หน้ารัฐสภา น.ส.เบนจา อะปัญ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ว่า เป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่การต่อสู้ของพวกเราได้เริ่มขึ้น ณ ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 22 ก.พ. ปีที่แล้ว ในวันนั้นเราต่างเห็นถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับระบบการเมืองของประเทศนี้ ระบบที่ไม่เคารพเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง พวกเราจึงออกมารวมตัวกันในที่ต่างๆ มากขึ้น
แต่ในขณะที่เราต่อสู้เรียกร้อง เสียงของเรากลับถูกเพิกเฉยโดยรัฐบาล ในตอนที่เราเสนอรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งเข้าสภาด้วยเสียงของเรา ก็ถูกปัดตกด้วยสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงในวันนี้ ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้เราต่างรู้ว่า ประยุทธ์ และองคาพยพ ต่างกัดกินและสร้างความเลวร้ายให้กับประเทศนี้ตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหลาย กลับเลือกที่จะยืนอยู่ข้างเผด็จการ และกดขี่พวกเราต่อ มิหนำซ้ำ เรายังถูกผลักไสให้กลายเป็นศัตรูโดยรัฐ เราถูกคุกคาม ถูกปราบปราม ถูกจับกุม ถูกคุมขัง ด้วยเหตุเพียงว่า พวกเราฝันใฝ่ในสิทธิและเสรีภาพ และสังคมในอุดมคติ
ปัจจุบันก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ว่าด้วยกลไกทางการเมือง นับตั้งแต่กติกาทางการเมืองที่ถูกออกแบบมาให้เข้าข้างรัฐบาลเผด็จการ ในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ได้มีการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาอย่างเห็นได้ชัด เพียงเพื่อสืบทอดอำนาจและซักฟอกตัวเองของรัฐบาลประยุทธ์ แต่ถึงกระนั้นแล้ว พวกเราหลายคนยังเชื่อด้วยความหวังเสี้ยวหนึ่ง ว่าด้วยกลไกระบบรัฐสภาจะแก้ไขปัญหาของประเทศนี้ได้ จนกระทั่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ได้จบลง ในวันนี้เป็นที่กระจ่างชัดแล้ว ว่าเราไม่สามารถพึ่งหวังกับการเมืองในระบบรัฐสภาได้อีกต่อไป
แม้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงความเน่าเฟะของการเมืองไทย มีการชี้ให้เห็นเชื่อมโยงของระบบศักดินา และเหลือบไรกลุ่มผลประโยชน์ด้วยหลักฐานอันแน่นหนาเพียงใด แต่กระนั้นยังมิวาย เราไม่สามารถเอาพวกเหลือบไรเหล่านั้นออกจากรัฐสภาได้ เนื่องจากระบบอันบิดเบี้ยว และกติกาที่ถูกบิดเบือน
ด้วยสิ่งนี้ทำให้เรายังคงยืนยันในข้อเรียกร้อง ที่เราเรียกร้องไป 3 ข้อ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก 2. รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย
หนทางข้างหน้าของเราอาจไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ อาจเป็นก้อนหิน เศษแก้ว หรือแม้แต่เลือดของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ การที่เราจะมุ่งสู่เป้าหมายได้นั้น ย่อมต้องพึ่งพลัง มานะ และความอดทนของเพื่อนพี่น้องประชาชนทุกคน ขอให้ทุกคนยึดมั่นในสันติวิธี ยึดมั่นถึงสังคมที่เท่าเทียม ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย และรัฐสวัสดิการที่มนุษย์ทุกคนพึงต้องได้รับ
เราจะยืนเคียงข้างไปด้วยกัน ต่อให้วันใดที่ฟ้ามืดที่สุด เราทุกคนจะเป็นเตาไฟแห่งแสง คอยส่องให้ประเทศนี้กลับมาสดใสและสว่างอีกครั้ง จนกว่าเราจะเดินไปถึงวันแห่งชัยชนะนั้นด้วยกัน ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์ จงเจริญ
หลังจากนั้น น.ส.เบนจา ได้กล่าวว่า หลังการชุมนุมวันนี้ ไม่ได้จะหยุดนิ่ง ขอให้ประชาชนทุกคนออกมาเคลื่อนไหวกัน ออกมาร่วมกันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะทุกคนคือพลังสำคัญ ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุมสำหรับวันนี้ (เมื่อเวลา 21.00 น.)