ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ลุงพล-ป้าแต๋น พร้อมทนายตั้มและคณะ 16 คน โผล่เที่ยวชิลพักค้างคืนที่ อ.วังน้ำเขียว สสจ.ส่ง จนท.รุดสอบสวนโรค ผู้ว่าฯ กำชับคุมเข้มปิดตาย 2 หมู่บ้านติดโควิด 3 รายล่าสุดห้ามเข้าออกเด็ดขาดถึง 2 มี.ค. พบไปร่วมงานศพกับผู้คนจำนวนมากสั่งตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัตช์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) นครราชสีมา และนายวิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา และแถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ โดยสถานการณ์ล่าสุดจังหวัดนครราชสีมา วันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ มียอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ จำนวน 13 ราย รักษาหายแล้ว 10 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายอาการทั่วไป หายใจเองได้ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใช้ชีวิตปกติอยู่ในห้องพัก
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการหารือพูดคุยถึงกรณีที่กลุ่มของนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล, นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้เดินทางมาท่องเที่ยวค้างคืนที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เรื่องนี้ นพ.นิรินทร์รัตช์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องจริง คณะนายไชย์พล หรือลุงพล และนายษิทรา หรือทนายตั้ม ได้เดินทางมาพักค้างคืนที่ อ.วังน้ำเขียว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา รวมจำนวน 16 คน ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาได้ส่งทีมปกครอง สาธารณสุข อสม.เข้าไปทำการสอบสวนประวัติของนายษิทรา พร้อมตรวจวัดไข้ผู้ร่วมเดินทางทุกราย จากผลตรวจทุกคนปกติไม่พบไข้สูง ส่วนนายษิทรา หรือทนายตั้ม จากการสอบประวัติพบว่าไม่ได้เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เกินระยะเวลา 14 วัน ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ใช้ชีวิตที่ กทม.อย่างเดียว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเช่น กทม.ให้กับนายษิทรา หรือทนายตั้มทราบ ไม่ว่าจะเป็นการรายงานตัวทั้งเข้าและออกจากจังหวัด การวัดไข้จากเจ้าหน้าที่ทุกวันที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคณะทนายตั้มพร้อมจะปฏิบัติตาม ส่วนการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมานั้นสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่ในมาตรการควบคุมโรคที่ทางจังหวัดกำหนด อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ (19 ก.พ.) คณะของลุงพล ป้าแต๋น และทนายตั้ม ได้เดินทางออกจากจังหวัดนครราชสีมา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่างถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ที่ ต.กุดโบสภ์ อ.เสิงสาง จากการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่จะต้องมีการยกระดับในการควบคุมดูแล เนื่องจากทั้ง 2 หมู่บ้านเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่และผู้ป่วยที่เป็นพ่อที่ติดเชื้อหลังจากเดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี ได้ไปร่วมงานศพและพบปะญาติพี่น้องชาวบ้านเป็นจำนวนมาก รวมทั้งให้มีการสอบสวนว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในงานศพด้วยหรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถระบุได้ว่า รายใดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือเสี่ยงต่ำ จึงจำเป็นต้องสั่งให้ปิดหมู่บ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 14 วัน จนถึงวันที่ 2 มีนาคม 2564
พร้อมทั้งสั่งการให้ทางสาธารณสุขเข้าไปตรวจหาเชื้อเชิงรุกกับประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้านเป็นระยะ เพื่อควบคุมโรค และไม่ให้มีการเข้าออกหมู่บ้านโดยเด็ดขาด ทุกวันเรายังคงมีการส่งอาหาร ข้าว น้ำให้ราษฎรทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่กักตัวประมาณ 1,600 คน 451 หลังคาเรือน ถ้าประกอบอาหารต้องขนาดใหญ่มาก แต่เราส่งถุงยังชีพนำไปให้ทุก 3-4 วันทุกครัวเรือน เราจำเป็นต้องยกระดับการเข้มงวดขึ้นอีก
สำหรับมาตรการในการป้องกันโรคทั้งจังหวัด ได้กำชับให้ทั้ง 32 อำเภอเข้มงวดให้การป้องกันโรค โดยเฉพาะการจัดงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มีนาคม - 3 เม.ย. 2564 นี้ ทางจังหวัดได้สั่งให้มีการงดการจัดทุกพื้นที่ คงไว้เพียงพิธีรำบวงสรวงของสตรีเท่านั้น และจะต้องมีผู้รำไม่เกิน 600 คนต่อรอบรำ เพื่อป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะระบาดขึ้นอีก
อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงในการลงทะเบียนโครงการเราชนะของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เข้าไปดูแลจัดระบบการคัดกรองประชาชนที่จะเดินทางมาขอรับสิทธิโครงการเราชนะ ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เนื่องจากผู้ที่ไปขอรับสิทธิส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ จึงได้ให้นายอำเภอ สาธารณสุข อสม. เข้าไปดูแลเรื่องจากจัดระบบการคัดกรองและการเว้นระยะห่างทางสังคม
ส่วนเรื่องผลผลิตของเกษตรกรที่กำลังได้รับความเดือดร้อนขายไม่ได้เลยนั้น ต้องเรียนว่าในเรื่องจิตวิทยาก็อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่าสินค้าทางการเกษตรของทั้ง 2 หมู่บ้านนี้มีความปลอดภัย สามารถนำมาประกอบอาหารรับประทานได้ เราก็ช่วยกันซื้อ ส่วนกรณีที่พี่น้องไม่สามารถนำสินค้าการเกษตรไปจำหน่ายได้ทางอำเภอฯ รับที่จะนำผลผลิตออกไปจำหน่ายให้ โดยผู้ที่เคยซื้อเป็นประจำทางอำเภอจะแจ้งให้มารับบริเวณจุดตรวจเพื่อนำไปจำหน่าย และตนจะหารืออีกทีอาจจะให้ท่างอำเภอรับแล้วรวบรวมผลผลิตมาจำหน่ายหน้าศาลากลางจังหวัดให้
ส่วนการคัดกรองผู้ที่มาจากจังหวัดเสี่ยง โดยเฉพาะล่าสุด จ.มหาสารคาม มีผู้เสียชีวิตเป็นแพทย์นั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ มีการพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดมากเพิ่มเติม เช่น จ.ปทุมธานี, จ.มหาสารคาม เราจะต้องเข้มงวดกับคนที่มาจากจังหวัดต่างๆ เหล่านี้ และพื้นที่อื่นๆ ก็เข้มงวดอยู่เหมือนเดิม
