ฉันยอมรับผิดทุกคำกล่าวหา ที่ฉันนั้นทิ้งเธอไป... “สิบตำรวจเอก” หนุ่มนักรักขออยู่ตรงกลาง อย่าไปโทษเจ้าสาว ส่วนจะกลับไปคืนดีไม่ทีทาง ไม่อยู่กับใครทั้งนั้น ขอเลี้ยงลูกสาวทั้งสองคนอย่างสุดกำลัง ด้านห้างทองที่ทำงานเจ้าสาวป้ายแดง ประกาศพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ส่วนโรงเรียนลูกสาวภรรยาหลวงหวั่นกระทบจิตใจเด็ก พมจ.ชัยนาทลงพื้นที่ช่วยเหลือจันทร์นี้
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาหลวง อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท พร้อมกับแม่สามี บุกเข้าไปในงานมงคลสมรสงานหนึ่งที่มี “สิบตำรวจเอก” นายหนึ่ง อายุ 34 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท เป็นสามีของตน กำลังทำพิธีผูกข้อมือกับเจ้าสาวอีกคนหนึ่ง ก่อนที่จะแสดงใบทะเบียนสมรสชื่อของเจ้าบ่าวกับตนมาแสดงในงาน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลท่าชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดชัยนาท โดยเรื่องนี้ภรรยาหลวงได้ฟ้องเรียกค่าทดแทนต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาทแล้ว ขณะที่ พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด บริษัท วายเอสจี กรุ๊ป จำกัด เจ้าของห้างทองเยาวราชสินทวี ได้ออกประกาศลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง แจ้งบุคคลพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ระบุว่า “ตามที่ห้างทองเยาวราชสินทวี ได้รับนางสาว ... เข้าทำงานที่ห้างทองเยาวราชสินทวี สาขาโลตัสชัยนาทนั้น บัดนี้ นางสาว ... ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของห้างทองเยาวราช สินทวี สาขาโลตัสชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ทางห้างทองเยาวราชสินทวี จะไม่ขอรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ ทั้งสิ้นของนางสาว... นับจากวันที่พ้นสภาพความเป็นพนักงานของห้าง ทั้งนี้ ชื่อที่ปรากฏในประกาศฉบับดังกล่าว คือเจ้าสาวป้ายแดงที่เป็นคู่กรณีกับภรรยาหลวง และก่อนหน้านี้ทางห้างทองเยาวราชสินทวี ได้ให้พนักงานคนดังกล่าวพักงาน ก่อนที่จะไล่ออกจากกระแสสังคม”
ด้านสิบตำรวจเอกหนุ่มรายดังกล่าว พบว่าที่ผ่านมาได้ปฏิเสธที่จะให้ข่าวต่อสื่อมวลชน กระทั่งได้กล่าวกับสื่อมวลชนสำนักหนึ่งว่า กราบขอโทษทุกคน ขอโทษสังคม ขอโทษทางครอบครัวและฝ่ายหญิง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตนคนเดียว ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ถ้าจะโทษใครหรืออะไรให้มาโทษที่ตนคนเดียว จริงๆ แล้วเรื่องทั้งหมดมันเกิดเพราะตนคนเดียว อยากให้มองมาพุ่งเป้ามาหาตนคนเดียว เพราะตนเป็นคนผิดตั้งแต่เริ่ม ทางฝ่ายอื่นเขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวข้องด้วย มาถึงจุดนี้ขออยู่ตรงกลางดีกว่า ส่วนลูกสาวทั้งสองตน อายุ 15 ปี และอายุ 5 ขวบ ที่เกิดกับภรรยาหลวงนั้น ยืนยันว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีตามหน้าที่ของพ่ออย่างสุดกำลัง
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานข่าวจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยนาท ที่เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ซึ่งเกิดกับภรรยาหลวงกำลังศึกษาอยู่ ระบุว่า ทางโรงเรียนยังไม่ได้พูดคุยกับเด็ก เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการตอกย้ำให้เด็กรู้สึกเสียใจไปมากกว่านี้ ขณะที่ น.ส.ดรุณี มนัสวานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท และศูนย์จัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อเข้าพูดคุยตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าเด็กจะได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ แต่เนื่องจากภรรยาหลวงเดินทางไปออกรายการโทรทัศน์ที่กรุงเทพมหานคร ทาง พมจ.ชัยนาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมที่จะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. 2564
