xs
xsm
sm
md
lg

หักหน้ากลางงานแต่ง! สาวบุกโชว์ทะเบียนสมรส “สิบตำรวจเอก” ก่อนจากลา “เขาไม่ต้อนรับเราแล้ว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาวชัยนาทใจเด็ด ถ่ายคลิปบุกงานแต่ง โชว์ทะเบียนสมรสกลางงานแต่งอดีตสามีกับสาวอีกคนหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ก่อนถูกฝ่ายชายเชิญออก ระบุ “คุณไม่ใช่แขกของบ้านนี้” พบกฎหมายจดทะเบียนสมรสซ้อนไม่ได้ คนมาที่หลังเป็นโมฆะ กางระเบียบข้าราชการตำรวจ ทำเสื่อมเสียกักขัง 30 วัน ไม่เลี้ยงดูลูกเมียกักขัง 30 วัน

วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวจังหวัดชัยนาท ได้โพสต์วิดีโอคลิปเหตุการณ์ขณะที่ตนเองบุกเข้าไปในงานมงคลสมรสงานหนึ่ง ซึ่งมี “สิบตำรวจเอก” นายหนึ่ง ที่เป็นอดีตสามีของตน กำลังทำพิธีผูกข้อมือกับเจ้าสาวอีกคนหนึ่ง
ก่อนที่จะแสดงใบทะเบียนสมรส ชื่อของเจ้าบ่าวกับตน จดทะเบียนกับสำนักทะเบียนอำเภอเมืองชัยนาท เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 มาแสดงในงาน พร้อมกับกล่าวว่า “แต่งได้ไงไม่รู้ ทะเบียนสมรสค้างอยู่ งงมาก” ซึ่งทั้งคู่กำลังถ่ายรูปอยู่ ไม่ได้มีท่าทีสนใจแต่อย่างใด ก่อนที่ผู้หญิงรายนี้กล่าวว่า “เราไปกันดีกว่า เขาไม่ต้อนรับเราแล้ว”

ชมคลิป คลิกที่นี่

ก่อนหน้านี้ ได้โพสต์ข้อความว่า “วันนี้จะมาเป็นสักขีพยานร่วมงานวิวาห์ของคุณผัวซะหน่อย ไม่เชิญก็จะไป” โดยพบว่า อีกคลิปหนึ่ง เป็นช่วงที่สิบตำรวจเอกหนุ่มรายนี้ทะเลาะกับฝ่ายอดีตภรรยาในงานแต่ง เพื่อตกลงกันว่าจะเอายังไงกับชีวิตคู่ที่ผ่านมา สิบตำรวจเอกรายนี้ กล่าวว่า “เชิญกลับครับ คุณไม่ใช่แขกของบ้านนี้ เชิญครับ” ซึ่งพ่อของอดีตภรรยาบอกว่า เอายังไงก็ได้ เอาให้มันจบก่อน กลับก่อนก็ได้ ภายหลังเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ตอนนี้ไม่มีความปลอดภัยในชีวิต มีผู้ไม่หวังดีตามข่มขู่ให้ลบคลิป” โดยมีชาวเน็ตแห่ไปให้กำลังใจจำนวนมาก

ชมคลิป คลิกที่นี่ (2)

ด้านเฟซบุ๊กฝ่ายชายโพสต์ข้อความระบุว่า “ขอโทษทุกคนด้วยครับ ผมผิดเองคนเดียวอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องบางเรื่องแค่รู้ยังไม่พอ หากมองเราเพียงเปลือก จะรู้จักเราแค่เปลือก หากมองเราจากปากคนอื่น คุณจะไม่รู้จักเราเลย” พร้อมแท็กไปยังเจ้าสาวคนล่าสุด

สำหรับสาวชัยนาทคนดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า มีบุตรด้วยกัน 1 คน ขณะที่โปรไฟล์พบภาพสีดำ ข้อความสีขาว ระบุคำว่า RIP เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา

ขณะที่เฟซบุ๊กฝ่ายชาย ตรวจสอบพบว่าขึ้นสเตตัส “แต่งงานแล้ว” กับเจ้าสาวคนล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2562 และมีข้อความบอกรักกับเจ้าสาวคนล่าสุดตามมามากมาย และพาดพิงคนรักเก่า เช่น ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ, ไม่ไหวก็ไปนอน, จะบอกอะไรผม ไม่ต้องฝากคนอื่นมา มาเจอได้เลยหรือถ้ากลัว เขียนจดหมายมาก็ได้นะ บอกผ่านมามันแปลกๆ #ยืนงงในดงผักบุ้ง, อารมณ์กู ก็ไม่ดีเป็นนะ, ที่กูไม่พูด ไม่ใช่กูไม่คิด #วิถีคนเย็นอย่าให้เดือด, วันนี้วันพระ ทำบุญให้แล้ว หวังว่าคงได้รับนะ อย่าตามมาหลอกหลอนกันอีกเลย

ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ฝ่ายชายได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ในชีวิตต้องเจอการเปลี่ยนแปลง จงอย่าไปยึดติด ทำในสิ่งที่คิด คิดในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ทำทุกๆ วันให้มันดี วันนี้แย่ พรุ่งนี้ต้องดี เหนื่อยได้ ท้อได้ แต่อย่าถอย ไม่มีใครยืนได้ตลอดหรอก แต่เหนื่อยต้องพอ แล้วค่อยสู้ใหม่ ล้มบ้างลุกบ้างเป็นธรรมดา มองคนข้างๆ เข้าไว้ กัดฟันไว้ ทำต่อไป ชะตาชีวิตไม่มีคำว่าแย่ แค่จะสู้หรือป่าวแค่นั้น #followmeมองให้ไกลเพราะกูสายตายาว”

อนึ่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1452 ระบุว่า ชายหรือหญิงจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ไม่ได้ ส่วนมาตรา 1495 ระบุว่า “การสมรสที่ฝ่าฝืนมาตรา 1449 มาตรา 1450 มาตรา 1452 และมาตรา 1458 เป็นโมฆะ”

นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยวิธีการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยและป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย พ.ศ. 2549 กำหนดบทลงโทษดังนี้ ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยา หรือมีสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย โดนกักขัง 30 วัน, ได้หญิง หรือชายเป็นภรรยา หรือสามีแล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย โดนกักขัง 30 วัน, จดทะเบียนสมรสซ้อน โดนกักขัง 30 วัน, ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป โดนกักขัง 30 วัน, ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในใบสำคัญการหย่าเกี่ยวกับการอุปการะบุตร ความผิดครั้งแรก ภาคทัณฑ์ ความผิดครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นการหย่ารายเดียวกันหรือไม่ก็ตาม กักยาม 3 วัน และความผิดครั้งที่สามและครั้งต่อไป กักยาม 3 วัน และพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนตามมาตรา 101*

นอกจากนี้ ยังได้มีหนังสือแก้ไขแนวทางการลงโทษทางวินัยร้ายแรง ในข้อ 10 เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ในข้อ 10.1 จากเดิมว่า “เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) เป็น “ชู้หรือมีชู้ หรือมีพฤติการณ์เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี)**

* อ่านประกอบ คลิกที่นี่ (1)
** อ่านประกอบ คลิกที่นี่ (2)


















กำลังโหลดความคิดเห็น