xs
xsm
sm
md
lg

“หมอยง” เผย ความแตกต่างระหว่างภูมิต้านทานที่ได้รับจากวัคซีนและที่เกิดจากการติดเชื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีนและภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อ ผลวิจัยเผย ผู้ที่เคยติดเชื้อและมาฉีดวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันดีกว่า

วันนี้ (12 ก.พ.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเผยถึงความแตกต่างระหว่างภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน แยกจากกัน กับภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” โดยได้ระบุข้อความว่า

“ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน แยกจากกันกับภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อวัคซีนที่ผลิตจาก mRNA และไวรัส vector เช่น วัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca จะกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานตอนนั้นแหลม spike เท่านั้น ถ้ามีการติดเชื้อ จะตรวจพบภูมิต้านทานต่อเปลือกผิวไวรัส nucleocapsid ที่ศูนย์ ได้มีโอกาสตรวจคนไทย 2 คนที่กลับจากอเมริกา โดยที่ทั้งสองคนได้รับการฉีดวัคซีนของ Pfizer มาแล้ว 2 เข็ม และมีคนหนึ่งติดเชื้อมาก่อนฉีดวัคซีน เมื่อตรวจวัดภูมิต้านทานต้องยอมรับว่า ปริมาณที่ตรวจวัดได้จากการกระตุ้นภูมิต้านทานของวัคซีน Pfizer มี anti-spike ขึ้นสูงมากจริงๆ

ในขณะเดียวกัน คนที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ตรวจไม่พบภูมิต้านทานต่อ nucleocapsid ในคนที่ติดเชื้อมาแล้ว จะตรวจพบ anti-nuclocapsid ภูมิต่อเปลือกนอกของไวรัส ดังแสดงในรูปทั้งสอง ขณะนี้ที่ศูนย์ที่ทำวิจัยอยู่สามารถตรวจภูมิต้านทาน และวัดเชิงปริมาณได้เป็นอย่างดี และจะใช้ในการประเมินผลของวัคซีนได้ด้วย ว่าสามารถกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานได้มากน้อยแค่ไหน

สิ่งที่อยากรู้ขณะนี้วัคซีนเชื้อตายของจีน ใช้ไวรัสทั้งตัว วัคซีนของจีนจึงน่าจะตรวจพบ ภูมิต้านทานต่อ เปลือกนอกของไวรัสด้วย (anti nucleocapsid) ขณะนี้กำลังรอผู้ที่ได้รับวัคซีนของจีน ไม่ว่าจะมาจากตะวันออกกลาง หรือประเทศจีน หรือจะมีการฉีดในประเทศไทย เพื่อทำการตรวจเลือดดูระดับภูมิต้านทานทั้ง 2 ชนิด”





กำลังโหลดความคิดเห็น