ถ้าพูดถึงอดีตไอดอลสาวที่กำลังไปได้สวยในวงการบันเทิง ชื่อของ "แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย" คงเป็นอีกคนที่ถูกนึกถึงอย่างแน่นอน แม้จะเป็นที่รู้จักของคอฟุตบอลในฉายา "ธิดาชาวสวน" จากผู้ที่ทายทีมไหนชนะสุดท้ายมักพลิกเป็นผลตรงข้ามเสมอ และมาวันนี้เธอได้กลับมาทำงานเพลงของตัวเองชิ้นแรกในชีวิต "จีบก่อนผิดไหม" ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ฟังทะลุมากกว่า 11 ล้านวิวในยูทูป นั่นทำให้ "ผู้จัดการออนไลน์" ได้ชวนเธอมาพูดคุยถึงอีกหนึ่งความฝันขณะนี้ที่ไปไกลกว่าที่คิด
"ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ก็จะรู้สึกว่าชอบการร้องเพลงมากๆ ปกติก็จะร้องเพลงกับคุณพ่ออยู่บนรถ เวลานั่งรถกันไปหลายๆ คนก็จะชอบร้องเพลงให้คนบนรถฟัง โดยเฉพาะเวลาเราไปเจอเวที สมมติเป็นงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทที่บ้านเราทำ หนูก็จะเป็นคนที่ขอขึ้นไปร้องคาราโอเกะแล้วก็ทำตัวเหมือนยึดคาราโอเกะเลยค่ะ (หัวเราะ) ร้องไม่หยุดเลยค่ะ ร้องหลายเพลงมากจนคนอื่นไม่ได้ร้องเลย ก็รู้สึกว่ามันเป็นความฝันเราตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่คิดเลยว่าวันนึงมันจะได้ไกลขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าเราจะมีเพลงเป็นของตัวเองสักทีรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ดีใจมากๆ จริงๆ"
"แนทเธอรีน ดุสิตา" เล่าถึงความทรงจำในวัยเยาว์ซึ่งเสมอเป็นเส้นทางสู่การฝันที่จะเป็นนักร้อง เธอบอกว่า ตอนเด็กๆ ชอบร้องเพลงของ "ลานนา คัมมินส์" มาก ร้องได้ทุกเพลงเลยตอนนั้น รวมทั้ง เพลงตาแดงๆ ของ "พั้นช์-วรกาญจน์ โรจนวัชร" เธอชอบนักร้องที่เป็นยุคเก่าๆ ตอนสมัยเด็กๆ โดยมี "คุณพ่อดุสิต กิติสาระกุลชัย" จะเป็นคนบอกว่านักร้องคนนี้ร้องเพราะให้ลองเปิดฟัง จะเป็นคนคอยแนะนำตลอด ดังนั้นเธอจึงรู้เพลงเก่าๆ เยอะมาก แต่ในมุมกลับ เพลงใหม่ๆ เธอก็ไม่ค่อยได้ฟัง
"จริงๆ คุณพ่อไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจในการร้องเพลงนะคะ คุณพ่อคือแรงบันดาลใจในทุกๆ เรื่องของการใช้ชีวิต"
จนวันนึง "แนทเธอรีน ดุสิตา" ได้ก้าวมาสมัครในวงไอดอลที่โด่งดังขั้นสุดในปี 2561 อย่าง "บีเอ็นเคโฟร์ตี้เอจ" (BNK48) และเธอก็ได้ถูกคัดเลือกเป็น 1 ในสมาชิกรุ่นที่ 2 ของวง เธอยอมรับว่า ตอนนั้นก็คาดหวังว่าจะได้มีความสุขกับการโชว์ กับการอยู่ในวง แล้วก็จะได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองในด้านการเต้น การร้องเพลง
"แล้วก็มันมีความสุขมากๆ จริงๆ นะ ทุกครั้งที่ได้ขึ้นแสดง เหมือนเรามีพลังงานอะไรบางอย่างที่มันไหลออกมาแล้วมันรู้สึกว่า มันมีความสุขจริงๆ เหมือนตอนนั้นหนูก็คิดว่า อยากให้คนเห็นเรามากกว่านี้ อยากให้คนรู้จักเรามากขึ้นอย่างเนี่ย"
และเมื่อก้าวออกมาจากวง เธอก็พยายามหาหนทางให้ตัวเองได้ยืนอยู่ในวงการและทำให้ไม่หายไปจากแฟนคลับ เริ่มจากการเป็น ”นักเล่นเกมแบบถ่ายทอดสด” (เกม สตรีมเมอร์) ที่จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังทำอยู่ แม้จะเล่นแต่ทุกเกมที่จ้าง แต่เธอก็ยอมรับว่า สตรีมเมอร์ ไม่ใช่อาชีพที่ทำเป็นหลัก แต่แค่ทำเพราะว่ามีความสุข
"เหมือนเราทำในเวลาที่แบบเราอยากเล่นเกมแล้วก็เหมือนเล่นให้คนอื่นดู มันไม่เหมือนกับการเล่นคนเดียว เพราะว่าการเล่นคนเดียวมันไม่มีคนมานั่งคุยด้วยเวลาเราอ่านความเห็นที่คนเข้ามาดูเราเยอะๆ เราก็จะรู้สึกสนุกมากกว่า อันนี้สำหรับตัวหนูเองนะ ซึ่งแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกัน มันก็เลยเหมือนเป็นเหตุผลว่าแบบทำไมเราถึงชอบสตรีม แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้ยึดอาชีพสตรีมเมอร์เป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว มันแค่เป็นอีกกิจกรรมนึงที่เราชอบเท่านั้นเอง"
ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นจุดที่ทำให้เธอได้ทำตามความฝันกับการมีซิงเกิ้ลแรกในชีวิต ตั้งแต่เธอได้เข้ามาเป็นสตรีมเมอร์ในสังกัดของ "แฮชแท็ก" (Hashtag E-Sports เอเจนซี่เกมเมอร์ ที่ปัจจุบันได้ยุติบทบาทแล้ว) และทางต้นสังกัดใหม่ซึ่งสนิทกับ "แทน-ธารณ ลิปตพัลลภ" และ "คัตโตะ-อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล" คู่หูดูโอวง "ลิปตา" ได้ติดต่อให้ช่วยทำเพลงให้
"ตอนแรกพี่คัตโตะ เรียกเข้าไปคุยก่อน ก็มีการนั่งคุย สัมภาษณ์ ดูว่าเราเป็นคนยังไง เป็นคนมีลักษณะนิสัย บุคลิกเหมาะกับเพลงแนวไหน เขาก็เรียกเข้าไปคุย ร้องเพลงให้ฟัง เข้าไปดูแล้วก็พบว่า (คัตโตะ) เป็นคน (หัวเราะ) เป็นคนน่ารัก ก็เลยทำเพลงน่ารักๆ แบบจีบก่อนผิดไหมนี่ออกมาไง"
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะง่าย เพราะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน ในการทำเพลงชิ้นนี้ เธอถูก "แทน ลิปตา" ส่งไปเรียนร้องเพลงกับ "ครูก้อย-สุภาพรรณ ผลากรกุล" ครูสอนร้องเพลง ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกว่า เวลาเข้าห้องอัดมันง่ายขึ้น ส่วนในเรื่องของการเรียบเรียงทำนองเพลงนี้ ก็ยังได้ "เอฟู–ณรงค์ศักดิ์ ศรีบรรฎาศักดิ์วัชรากรณ์" ผู้บริหารค่ายเดโมแลบ (DEMOLAB) มาทำให้
"พี่เอฟู ทำเพลงรักติดไซเรน ซึ่งมียอดวิวหลายร้อยล้าน เราก็ได้แค่หวังว่าอุ้ย ขอให้เราสุดปังตามรักติดไซเรนเลยแล้วกัน (หัวเราะ)"
จนถึงวันที่ "แนทเธอรีน" ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก เธอรู้สึกว่า ชอบเลย จนต้องแบ่งปันในเพื่อนฟัง และพอเพื่อนชมว่าเพลงดี ก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขไปทั้งวัน
"วันนั้นคือไม่ทำอะไรเลยฟังแต่ดนตรี แล้วประเด็นคือเนื้อเพลงตอนนั้นยังไม่ได้ใส่มา ยังไม่มีคนร้องไกด์ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ดนตรีเปล่าๆ แต่คือนั่งฟังแต่ดนตรีทั้งวันเลย จนตอนนี้เพลงเสร็จก็เปิดฟังทุกวันเลยในห้องน้ำมีความสุขมาก (หัวเราะ) เพราะว่าเวลาอาบน้ำหนูรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แล้วรู้สึกเหมือนแบบเราอยู่คนเดียว มันไม่มีเพื่อนอยู่กับเรา แล้วเราก็ต้องการเพื่อนสักคน ซึ่งสิ่งนั้นคือเพลงของเราไง แล้วเวลาเราฟังผลงานที่เราทำออกมามันรู้สึกแบบ อาบน้ำแล้วมีความสุขอะ รู้สึกดี"
ในส่วนของเนื้อเพลงนั้นก็ได้วงลิปตามาช่วยแต่ง จนกลายเป็น "จีบก่อนผิดไหม" "แนทเธอรีน" บอกว่า เป็นการแต่งตามคาแรคเตอร์ของเธอ ที่เวลาทำอะไรมักจะแสดงออก แบบทำก่อน
"อย่างเช่น ถ้าอนาคตจะต้องจีบผู้ชายสักคนก็คงจะจีบก่อน คงไม่ได้รอให้เขามาจีบเพราะเราก็คงเลือกจีบคนที่เราสนใจ"
ซึ่งในเพลงนี้ก็มีท่อนแร๊ปสั้นๆ เพิ่มอารมณ์เพลงด้วย แต่ "แนทเธอรีน" กลับบอกว่า เป็นส่วนที่ง่ายที่สุดเลย อัดแบบเทคเดียวผ่าน จน "แทน ลิปตา" ต้องบอกว่าแร๊ปได้ดีกว่าร้อง เพราะจังหวะดี ในขณะที่เวลาร้องเพลงอาจจะมีบางอย่างที่ต้องไปเรียนเพิ่มมาจาก "ครูก้อย" ก่อนถึงจะค่อยกลับมาอัด จน "แทน" ถึงกับพูดว่า เพลงหน้าจะทำให้แร๊ปเยอะๆ
"หนูฟังแล้วภูมิใจนะเนี่ย เพราะหนูชอบเพลงแร๊ปมากๆ เป็นคนที่แบบไม่เคยบอกใคร เวลาฟังเพลงแล้วมีเพลงแร๊ปหนูจะพยายามแร๊ปตามตลอด ชอบจริงๆ แต่ตอนนี้คิดว่าเพลงหน้าคงไม่ถึงขนาดแบบแร๊ปทั้งเพลง แต่คงจะมีเยอะขึ้น"
นอกจากนี้เธอยังได้เล่นเป็นนางเอกมิวสิควิดีโอครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย "แนทเธอรีน" บอกว่า ไม่ยากลำบากเพราะว่าตอนที่ไปถ่ายเหมือนเป็นตัวเอง ทั้งบทเปิ่นๆ บทตลกๆ อย่างบทร้องไห้ มันก็เป็นการร้องไห้ที่เหมือนเล่นใหญ่แอคติ้ง ซึ่งปกติเธอก็ใช้ชีวิตประจำวันแบบนี้อยู่แล้ว มันก็เลยเป็นความแบบเล่นง่ายเลย จนรู้สึกเอนจอยสุดๆ และรู้สึกว่าเพลงแรกมันเป็นตัวของตัวเองมากจริงๆ ส่วนความคาดหวังในเพลงนี้ เธอยอมรับว่า ก็มีบ้าง
"เอาจริงๆ ทุกคนก็คงคาดหวังว่าจะให้มันดัง นักร้องทุกคนแหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่บุญวาสนาและก็แล้วแต่มูเตลูอะค่ะ (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ ไม่ได้ทำนะคะ"
และล่าสุดผลงานของเธอก็ดูจะเกินกว่าที่คาดไว้ หลังจากเปิดตัวเมื่อ 23 พ.ย.63 ผ่านไป 2 เดือนมีผู้ชมมิวสิควิดีโอ "จีบก่อนผิดไหม" ไปแล้วมากกว่า 11 ล้านวิว จนทำให้ "แนทเธอรีน ดุสิตา" กลายเป็นอดีตสมาชิกวงไอดอลที่ออกมาแล้วมีผลงานได้รับความนิยมมากที่สุด และนั่นก็ทำให้เธอเตรียมจะออกเพลงที่ 2 ตามมาในเร็วๆ นี้