ศ.นพ.มานพ ชี้ “สยามไบโอไซเอนซ์” ผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นโอกาสดีหาได้ยาก ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแทบจะเป็นสูตรสำเร็จ แนะไม่ต้องกังวล “วัคซีนซิโนแวค” เพราะทุกตัวที่ผ่านเฟส 1 มาได้ถึงเฟส 3 ปลอดภัยสูงอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายถึงไร้ผลข้างเคียง ยันฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ดีที่สุดที่จะสามารถหยุดโควิดระบาดได้
วันที่ 19 ม.ค. 2564 ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “เคลียร์ข้อสงสัย วัคซีนโควิด-19”
โดย นพ.มานพกล่าวว่า วัคซีนความปลอดภัยสำคัญที่สุดต้องปลอดภัยก่อน ซึ่งเราทดสอบความปลอดภัยในเฟส 1 ฉะนั้นวัคซีนที่ผ่านเฟส 1 มาได้จนถึงเฟส 3 ต้องยอมรับว่าความปลอดภัยสูง แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีผลข้างเคียง อันดับสองคือประสิทธิภาพ วัดกันที่การใช้จริงก็คือเฟส 3 เกณฑ์ขั้นต่ำของ WHO ต้องการวัคซีนมีประสิทธิภาพเกิน 50 เปอร์เซ็นต์จึงจะยอมรับได้ บางคนบอกทำไมต่ำจัง ตัวเลขนี้เพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน ถ้าเราฉีดในวงกว้างจะช่วยตัดตอนหรือลดการระบาดได้ โดยเฉพาะร่วมกับมาตรการอื่น อย่างใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ฯลฯ ใช้มาตรการร่วมกันก็จะสามารถหยุดการระบาดได้
ข้อมูลเฟส 3 ของทั้ง 3 บริษัท ไฟเซอร์, โมเดอร์นา และแอสตราเซเนกา เป็นชุดข้อมูลแรก ไม่ใช่ข้อมูลสุดท้าย แต่ทำไมไม่รอก่อน เพราะโควิดระบาดระดับโลก สำคัญมาก คงไม่รอจนได้ข้อมูลครบถ้วน จึงต้องวิเคราะห์ข้อมูลเป็นชุดๆ ช่วงๆ การศึกษายังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ข้อมูลเยอะขึ้นประสิทธิภาพอาจลดลงก็ได้
นพ.มานพกล่าวอีกว่า วัคซีนซิโนแวค ในแง่ความปลอดภัยอาจไม่ใช่ประเด็น เพราะมาถึงเฟส 3 ได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนประสิทธิภาพตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ มีแค่ข้อมูลจากประเทศต่างๆ แต่อยากให้อดใจรอรายละเอียดหน่อย
การที่ไทยได้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนกา คิดว่าถูกทางที่สุดแล้ว เพราะไม่ได้มีโอกาสที่ดีอย่างนี้มากนักที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาแทบจะเป็นสูตรสำเร็จ แล้วต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังไม่มีบริษัทไหนพร้อมเท่าบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เท่าที่ทราบจากผู้บริหาร บริษัทมีกำลังการผลิตเกิน 200 ล้านโดสต่อปี หากผลิตเต็มที่จริง วัคซีนยี่ห้อเดียวก็เพียงพอกับคนทั้งประเทศ
วัคซีนแอสตราเซนเนกาล็อตใหญ่ จะเข้ากลางปี 26 ล้านโดส ฟังดูเหมือนน้อย แต่เราต้องระดมคนฉีดให้ได้สัปดาห์ละ 1 ล้านโดส เป็นงานช้างเลย
นพ.มานพกล่าวด้วยว่า ไวรัสกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ แล้วถึงจุดหนึ่งวัคซีนสูตรเดิมจะไม่ได้ผล เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ไวรัสโควิดนี้กลายพันธุ์ช้า แม้กระทั่งที่กังวลกันที่มาจากอังกฤษ อินเดีย ฯลฯ การทดสอบเบื้องต้น วัคซีนที่ใช้อยู่ ภูมิที่เกิดจากวัคซีนยังป้องกันได้อยู่ ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เร็วหรือเช้า วัคซีนเดิมจะเริ่มไม่ได้ผล แต่ไม่ต้องกังวล ผู้พัฒนาวัคซีนคอยติดตามพัฒนาเรื่อยอยู่แล้ว เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่ต้องฉีดทุกปี
เมื่อถามว่าควรฉีดวัคซีนไหม นพ.มานพกล่าวว่า วิธีหยุดการระบาด คนส่วนใหญ่ต้องมีภูมิคุ้มกัน วิธีที่ดีที่สุดคือฉีดวัคซีน ซึ่งเราได้รับวัคซีนกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก ของพวกนี้ผ่านการพัฒนา ผ่านการพิสูจน์ ไม่ต้องกังวล แต่ตัวนี้ยังใหม่ กังวลกันได้เป็นเรื่องปกติ ช่วงต้นของวัคซีน ยังไม่เยอะพอที่จะได้ฉีดกันหมด ที่กลัวคือไม่พอมากกว่า ในคนที่รอได้ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง รอได้ไม่เป็นไร