นพ.ธีระวัฒน์ เชื่อโควิดรอบนี้หนักแน่ จี้รัฐตรวจเชิงรุกให้ได้มากที่สุด อย่าสนใจตัวเลขพุ่ง ชี้ ไวรัสกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ ไทยเคยเจอมาหมดแล้ว ตั้งแต่ มี.ค.- เม.ย. 2563 แต่ก็รอดมาได้ ขอแค่ป้องกันตัวเองสูงสุด ห่วงไทยผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ด้วยภาวะคับขันอาจทดลองซ้ำในคนไทยได้ไม่มากพอ ซึ่งต้องติดตามอย่างเข้มงวดว่าได้ผล หรือมีผลแทรกซ้อนหรือไม่
วันที่ 4 ม.ค. 2564 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “โควิดรอบใหม่เอาอยู่ ?”
โดย นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า รอบนี้หนักกว่ารอบแรกแน่ๆ การควบคุมยากพอสมควร เพราะมีการแพร่แบบเงียบๆ ไม่มีอาการ มีรายงานล่าสุด พบคนในไม่ได้ออกนอก กทม.เลย แต่ติดเชื้อ และไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้ ปัจจุบันการตรวจหาเชื้อฟรี ระบุว่าต้องมีอาการก่อน, ไปในพื้นที่เสี่ยง, มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ ตรงนี้อาจทำให้ตกสำรวจไปได้ เพราะตอนนี้เราไม่ทราบว่าใครเป็นคนเสี่ยง อยากให้ขยายขอบเขตให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจได้มากกว่านี้
ตัวเลขจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าตรวจเชิงรุกจริงๆ แต่ต้องไม่ตกใจในจำนวน ยิ่งรู้ว่ามีใครติดเชื้อมากเท่าไหร่ จะได้กันตัวออกจากคนไม่ป่วยได้ เราต้องไม่จิตตก การที่เรารู้ตัวเลขเยอะ แสดงว่าเราเก่ง เราตรวจเชิงรุกได้มาก ต้องเปลี่ยนความคิดนี้ใหม่หมดเลย แล้วนี่คือความสง่างามของการปฏิบัติของทางการ
การตรวจเชิงรุกนั้น ต้องพิจารณาถึงวิธีการตรวจที่ง่าย รวดเร็ว ประหยัด และไม่เพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ตรวจ ที่สำคัญ คนติดเชื้อที่มาตรวจต้องไม่หลุดเลย เพื่อแยกคนได้ผลบวกออกไปก่อน อย่างชุดตรวจของใบยา ซึ่งตนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า ไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์ในอังกฤษ B.1.1.7 เมื่อนำมาทดสอบในหลอดทดลอง สามารถเพิ่มปริมาณได้มากกว่าปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตั้งแต่ ก.พ.- มี.ค. 2563 ไวรัสจากอู่ฮั่นก็มีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง แพร่พันธุ์เร็วเช่นเดียวกับอังกฤษ
ประเทศไทยมีสายพันธุ์ที่ว่ามาจากท่าขี้เหล็ก ทั้งหลายแหล่ มาตั้งแต่ มี.ค.- เม.ย. 2563 มีมาหมดแล้ว แต่เรารอดมาได้ ไม่ว่าจะ GH GR GV ดังนั้นการป้องกันตัวเองสูงสุด ไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ตาม ไม่สามารถเล็ดลอดมาหาเราได้
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวด้วยว่า อาการไม่ว่าสายพันธุ์ไหน เป็นได้ทุกส่วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็ตาม รหัสพันธุกรรม ออกแบบมาให้หลบหลีกกระบวนการต่อสู้ของร่างกาย ไปกดกระบวนการต่อสู้ หลอกล่อให้สร้างการอักเสบมากเกินจำเป็นอีกหลายเท่า ซึ่งไวรัสอื่นไม่มีความสามารถนี้ ทำให้นานวันไวรัสนี้ไม่อ่อนกำลังลง มีแต่เก่งกาจขึ้น คงอยากเอาชนะมนุษย์มากกว่า
ส่วนวัคซีนที่กำลังจะผลิตในไทย ของแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีหลายคนถามว่าโครงสร้างจะเหมือนที่ผลิตในอังกฤษหรือไม่ ชีววัตถุคล้ายคลึง นำกระบวนการผลิตให้เหมือนทุกอย่าง แต่กระบวนการทำไม่ง่าย มันซับซ้อน จำเป็นต้องตรวจระดับความปลอดภัย และประสิทธิภาพ อย่างรวดเร็วซ้ำในคนไทยหรือไม่ เนื่องจากภาวะคับขันอาจมีการอนุโลม ซึ่งต้องติดตามอย่างเข้มงวดว่าได้ผล หรือมีผลแทรกซ้อนหรือไม่
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า รอบนี้หนักแน่ แต่เราเอาอยู่ในระดับบุคคล คือ มีวินัย รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ กระบวนการอื่นนั้นนอกเหนือที่บุคคลทำได้ คือ การคัดกรองเชิงรุก ตนหวังว่าทางการจะตกผลึกในเร็ววันนี้