นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ เผยการควบคุมโรคโควิด-19 รอบ 2 ยากกว่ารอบแรกมาก เนื่องจากสถานการณ์เชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ G ติดต่อกันง่ายขึ้น แนะประชาชนต้องช่วยกันระมัดระวังตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีทุกคนเวลาออกนอกบ้าน
วันนี้ (11 ม.ค.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นหัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความถึงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 จะควบคุมยากกว่ารอบแรก โดยระบุข้อความว่า “การควบคุมโรคโควิด-19 รอบ 2 ยากกว่ารอบแรกมาก เนื่องจากสถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อเดือนมีนาคมอย่างมาก
รอบแรกคนไทยติดเชื้อจากต่างประเทศเดินทางกลับประเทศโดยไม่ผ่านการกักตัว แพร่เชื้อให้กับคนไทย และแพร่ต่อในสนามมวย ผับและบาร์ ต่อมาแพร่กระจายในวงกว้างจากคนเล่นการพนันทุกชนิด เนื่องจากเรารู้เร็ว และครั้งนั้นใช้มาตรการเข้มงวดมาก ทำให้สามารถยุติการระบาดรอบแรกใน 2 เดือน
สถานการณ์ขณะนี้แย่กว่าเดิมอย่างชัดเจน จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด (ดูกราฟ) สาเหตุครั้งนี้เกิดจากแรงงานชาวเมียนมาติดเชื้อจากประเทศของเขา ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยไม่มีการกักตัว แพร่เชื้อให้คนเมียนมาในจังหวัดสมุทรสาครอย่างเงียบๆ นานเป็นเดือน ต่อมาแพร่เชื้อให้คนไทย กว่าเราจะรู้ก็ช้าไปแล้ว หลังจากพบแม่ค้าในตลาดกลางกุ้งป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมปีที่แล้ว ต่อมาแพร่กระจายในวงกว้างไปจังหวัดต่างๆ ผ่านคนเล่นการพนันเหมือนครั้งที่แล้ว นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโควิดที่แพร่ระบาดรอบนี้ก็แตกต่างจากเมื่อระบาดรอบแรก เป็นเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ G ติดต่อกันง่ายขึ้น
ปัญหาใหญ่ครั้งนี้คือเรามีแหล่งเพาะเชื้อขนาดใหญ่ในแรงงานต่างชาติในประเทศ ถ้าถอดบทเรียนของประเทศสิงคโปร์ แรงงานต่างชาติในสิงคโปร์ 3 แสนคน ทยอยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 5 หมื่นคน จากการตรวจรหัสพันธุกรรม PCR ในเวลา 3-4 เดือน และเมื่อตรวจเลือดหาแอนติบอดี พบว่า ติดเชื้อไวรัสโควิดมากถึงร้อยละ 50 แรงงานต่างชาติในสิงคโปร์ส่วนใหญ่ป่วยน้อยมาก เสียชีวิตแค่ 1-2 คนเท่านั้น ประเทศไทยมีแรงงานชาวเมียนมาอย่างน้อย 3 แสนคน คงกำลังทยอยติดเชื้อต่อเนื่องในขณะนี้
ขณะนี้บางโรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าของโรงงานยอมออกค่าใช้จ่ายเอง ตรวจคนงานเชิงรุกโดยไม่รอภาครัฐ รัฐควรตรวจเชิงรุกรหัสพันธุกรรม PCR และตรวจเลือดแรงงานต่างชาติทุกคน แรงงานคนไทยในโรงงานและสถานประกอบการทุกแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดที่มีการระบาดต่อเนื่องว่า มีการติดเชื้อไวรัสหรือไม่โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เมื่อตรวจพบต้องแยกคนติดเชื้อจากคนปกติเป็นเวลา 10-14 วัน ด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย การตรวจไม่ใช่ครั้งเดียว อาจต้องตรวจหลายครั้ง รัฐต้องยอมเสียงบประมาณมหาศาล แต่ถ้าไม่ทำจำนวนคนติดเชื้อในแรงงานต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะแพร่เชื้อให้คนไทยต่อไปไม่สิ้นสุด
ขณะนี้เศรษฐกิจไทยแย่กว่าเดิม การออกคำสั่งล็อกดาวน์ปิดประเทศเหมือนครั้งแรก คงทำไม่ได้ ประชาชนต้องช่วยกันระมัดระวังตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีทุกคนเวลาออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือ และอย่าอยู่ใกล้ชิดคนอื่น เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร”