ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด 1,455 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 87 ราย เร่งตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” สนามกีฬากลาง เปิดได้ 200 เตียง ในวันจันทร์ 28 ธ.ค.นี้ ก่อนเปิดเพิ่มเป็น 500 เตียง วันพฤหัสฯ วอนคนพื้นที่อย่ากลัวจังหวัดตัวเอง
วันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.05 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จัดรายการ “ไม่แพ้ แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” โดยถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Covid 19-สมุทรสาคร โดยได้เปิดเผยถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาครล่าสุด ว่า จากการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี SWAB ซึ่งเมื่อวานหยุดพัก จึงยังคงตัวเลขที่ 12,962 ราย แต่ได้รับผลกลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 10,411 ราย เป็นผู้ติดเชื้อ 1,455 ราย (เพิ่มขึ้น 87 รายจากเมื่อวานที่มี 1,368 ราย) อัตราการพบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 12.84 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเมื่อวานที่มี 14.7 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าดีขึ้น โดยในจำนวนนี้เป็นต่างด้าวประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ คนไทย 5 เปอร์เซ็นต์
ส่วนผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลมีทั้งหมด 193 คน เป็นคนไทย 171 คน ต่างด้าว 22 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อที่เป็นคนไทยเข้าสถานพยาบาลทั้งหมด
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องตรวจเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวนมากกว่าคนไทย ก็เพราะต้องรีบหาต้นตอของเชื้อ เพื่อนำมาอยู่ในพื้นที่ควบคุมให้ได้ ส่วนคนไทยก็สามารถตรวจฟรีที่โรงพยาบาลได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องผ่านการสอบสวนโรคก่อนว่าสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือไม่
สำหรับวันนี้ จังหวัดสมุทรสาครได้เริ่มต้นไปตรวจตามที่ต่างๆ ได้แก่ ที่ตลาดมหาชัยแม่พ่วง, ซอยศรีเมือง, วัดบางปิ้ง, ชุมชนพันธุวงศ์, อบต.บ้านเกาะ ซึ่งเป็นการไปตรวจโดยเน้นหนักคนไทยเป็นหลัก คาดว่า จะตรวจได้ประมาณ 1,000 ราย ยอมรับว่า การออกไปตรวจค่อนข้างฉุกละหุก เป็นการค้นหาเชิงรุก ในแต่ละที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา จึงข้อให้ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ผลักภาระให้ใคร
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในครั้งนี้จะถือโอกาสปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานไม่ให้แออัดจนเกิน เพราะไม่ได้มีแค่แรงงานต่างด้าว มีคนไทยด้วย ที่อยู่ปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 3,000 คน จะลดลงเหลือ 1,500 ได้หรือไม่ เผื่อในอนาคตถ้ามีโรคระบาดรุนแรงขึ้นมา หากยังอยู่เหมือนเดิมก็ทำให้การติดต่อโรคเป็นไปได้ง่าย
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร กล่าวถึงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื้่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ได้มีการจัดตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาคร ที่สนามกีฬากลางขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งขณะนี้กำลังประกอบ วางพื้นที่ กางเต็นท์ คาดว่า จะใช้ได้ในวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค.จำนวน 200 เตียง โดยวางเป้าหมายว่าจะเปิดให้ได้ 500 เตียง วันพฤหัสฯที่ 31 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีเพราะวันนี้ ผู้ติดเชื้อ 1,455 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 193 ราย แต่ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อยู่ในสถานที่พิเศษเลย เพราะเราไม่มี เรามีแต่ Local quarantine ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ รับได้ประมาณ 20 กว่าคน ที่สถานปฏิบัติธรรมสะพานดำ ที่กระทุ่มแบน รับได้ 30 กว่าคน มีเท่านี้เอง
“ที่เราสร้าง รพ.สนาม ไว้ที่ท่าฉลอม เดิมทีเราคิดว่าตัวเลขเท่าที่เป็นมา 50 เตียงพอรับไหว แต่ตัวเลขตอนนี้มีเป็นพัน แล้วยังตรวจไม่ครบ ยังตรวจไปแค่ 1 หมื่นกว่า ได้มาพันกว่า เป้าหมายที่เราจะตรวจอาจจะถึง 2 หมื่น ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเป็นเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องหาศัยความร่วมมือกัน”
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า รพ.สนามที่ท่าฉลอม ซึ่งมีอุปกรณ์ครบเครื่องนั้นเราจะเตรียมไว้สำหรับคนไทย ส่วนที่เราเรียกว่า “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” เป็นศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค เราไม่เรียกว่า รพ.สนาม เพราะเป็นสถานที่ที่เราเอาคนติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงหรืออยู่ในการเฝ้าระวัง ไม่เจ็บป่วยมากนักมาอยู่ แต่ถ้าเจ็บป่วยมากต้องส่งเข้า รพ. เราจึงไม่เรียกศูนย์นี้ว่าเป็น รพ.สนาม เราหวังว่าคนที่เข้ามาอยู่ อาจจะประมาณ 10 วัน ถ้ามีภูมิต้านทานหรือแอนตี้บอดี้ ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่นได้อีก เราก็จะให้ออกไปได้
นายวีระศักดิ์ การตั้งศูนย์ฯ ถูกคัดค้านมาหลายที่ เดิมทีจะตั้งสวนน้ำ ซึ่งเอกชนที่เป็นเจ้าของก็ยินดี แต่ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ คัดค้าน จึงได้ไปทำความเข้าใจ จนชาวบ้านยินดีให้ตั้ง แต่พอไปคุยกับผู้บริหารของสวนน้ำกลับไม่ยินยอม หลังจากนั้น จะไปตั้งที่มหาวิทยาลัยการกีฬา ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ยินดี แต่ชาวบ้านคัดค้าน จึงย้ายมาที่สนามกีฬากลาง ซึ่งอยู่หน้าจวนผู้ว่าฯ จึงหวังว่าจะไม่มีใครมาคัดค้านอีก เพราะผู้ว่าฯ รับผิดชอบเอง ถ้าเชื้อหลุดรอดออกมาผู้ว่าฯ ต้องรับก่อน อย่างไรก็ตาม มีคนให้กำลังใจเข้ามาจำนวนมาก แม้จะถูกกดดันจากหลายๆ ฝ่ายที่มองด้วยความไม่เข้าใจ ซึ่งตนปฏิเสธไม่ได้ในฐานะผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบ และมีคนให้กำลังใจพร้อมเป็นกองหนุนให้จัดตั้งศูนย์ฯ ให้ได้ นอกจากนี้ ยังได้ออกคำสั่งในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งคนที่ฝ่าฝืนจะมีโทษ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือคนสมุทรสาครถ้ายังกลัวจังหวัดตัวเองอยู่ แล้วจะมีใครกล้ามาเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร