ปิดอีกราย! รร.ดาราเทวี เชียงใหม่ ยุติกิจการ หลังขาดสภาพคล่องต่อเนื่องปัดไม่จ่าย พนง. จ่อฟ้องใครด่าโรงแรมเถื่อน

โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ออกประกาศเลิกจ้างพนักงาน อ้างปัญหาโควิด-19 ลั่นจะไม่จ่ายเงินให้ลูกจ้างที่ไปให้ข่าวกล่าวหาโรงแรมเป็น “โรงแรมเถื่อน” จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำ

จากกรณีโรงแรมดาราเทวี ที่เคยตกเป็นข่าวจากพนักงานโรงแรมนับร้อยคนเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าผู้บริหารโรงแรมเลื่อนการเปิดกิจการ ทำให้ค้างเงินเดือนพนักงานหลายเดือน เกิดข้อพิพาทระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง จนหลายหน่วยงานต้องรีบเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาให้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโรงแรมดาราเทวีที่ทำให้โรงแรมต้องเดินเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า โรงแรมดาราเทวี จ.เชียงใหม่ ได้มีหนังสือบอกเลิกจ้างถึงพนักงานโรงแรม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหนังสือดังกล่าวระบุทำนองว่าปัจจุบันเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังไม่ทราบว่าโรคนี้จะหยุดแพร่ระบาดลงเมื่อใด ทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจและกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างรุนแรง ทางบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน เงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องตลอดมาเป็นระยะเวลาหลายปี จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามปกติ อันถือเป็นเหตุสุดวิสัย ทางบริษัทฯ จำต้องหยุดประกอบกิจการโรงแรมชั่วคราวตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับบริษัท จึงมีความจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานจำนวนหนึ่ง จากเหตุผลดังกล่าวบริษัทจึงบอกเลิกจ้าง โดยมีผลในวันที่ 25 ธ.ค. 63 เป็นต้นไป

อนึ่ง เนื่องจากมีพนักงานของบริษัทฯ กระทำผิดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานและความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไปให้ข่าวแก่สื่อมวลชนโดยอ้างว่า โรงแรมดาราเทวีเป็น “โรงแรมเถื่อน” ไม่สามารถเปิดกิจการได้และปิดกิจการแบบถาวรโดยไม่จ่ายเงินเดือน อันเป็นความเท็จ สร้างความเสียหายให้แก่เจ้าของหรือนายจ้าง การกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้าง เป็นการยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความไม่สงบ นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมาย ซึ่งทางบริษัทจะได้ฟ้องร้องต่อพนักงานดังกล่าวเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป