xs
xsm
sm
md
lg

“วราวุธ” ลุย จ.สงขลา ติดตามสถานการณ์กัดเซาะชายฝั่งทะเล ย้ำต้องเข้าใจธรรมชาติในการแก้ไขปัญหาชายฝั่งอย่างยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (29 พ.ย.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวภายหลังจากการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จ.สงขลา ว่า ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ตนรู้สึกกังวลและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนโดยตรง ซึ่งตนได้มีโอกาสลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และพยายามแก้ไขปัญหาในหลายพื้นที่ โดยในวันนี้ได้นำทีมนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณแหลมสมิหลา และ หาดชลาทัศน์ จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งภาพรวมบริเวณหาดสมิหลา เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ในช่วงเดือน พ.ย.- ก.พ. คลื่นและลมมรสุมจะพัดตะกอนจากพื้นที่ไปทับถมบริเวณอื่น และจะเคลื่อนตัวกลับคืนมาในช่วงหลังฤดูมรสุม สำหรับพื้นที่ชายหาดชลาทัศน์ มีปัญหากัดเซาะชายฝั่งค่อนข้างมาก สาเหตุจากการก่อสร้างบ่อสูบน้ำเสียเมื่อราวปี 2544 ซึ่งปัจจุบันได้มีการก่อสร้างเขื่อนหินทิ้งและวางกระสอบทรายเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายเททรายเพื่อบรรเทาปัญหาและเร่งการสะสมและการทับถมของทรายบริเวณชายหาด

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับตนคิดว่าการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งตามฤดูกาล ไม่นับเป็นปัญหาที่มนุษย์ต้องเข้าไปดำเนินการใดๆ เพราะธรรมชาติสามารถรักษาสมดุลได้เอง แต่กิจกรรมมนุษย์ที่สร้างความรบกวนต่อแนวคลื่น หรือการแก้ไขปัญหาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง กลับเป็นสิ่งที่น่ากังวลและต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ

“การแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ต้องเข้าใจบริบททางธรรมชาติ คิดให้รอบคอบ ศึกษาให้ละเอียดพื้นที่ใดที่เกิดปัญหาจากธรรมชาติๆ จะรักษาสมดุลด้วยตัวเอง พื้นที่ใดเกิดปัญหาจากกิจกรรมของมนุษย์ๆ ต้องรับผิดชอบ หากมีการปกป้องพื้นที่หนึ่งแต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับพื้นที่อื่น นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน” นายวราวุธ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) หาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และต้องให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงเร่งรัดดำเนินการตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศมิให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งทะเล ต่อไป

ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวเสริมว่า จากรายงานสถานการณ์พื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยช่วงปี 2562 มีระยะทางรวม 91.69 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 2.9 ของความยาวชายฝั่งทั้งประเทศ 3,151.13 กิโลเมตร สำหรับพื้นที่ จ.สงขลา มีความยาวชายฝั่งยาวประมาณ 153 กิโลเมตร มีพื้นที่กัดเซาะที่ยังไม่ดำเนินการแก้ไขประมาณ 11 กิโลเมตร ส่วนการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ต้องแก้ไขอย่างเป็นระบบและบูรณาการร่วมกันเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน โดยอิงจากหลักทางวิชาการและแนวคิดระบบกลุ่มหาด แนวทางการดำเนินงานคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ประกอบการจัดทำแผนงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 63 และอยู่ระหว่างการนำเรียนคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบ

นายจตุพร เผยอีกว่า นอกจากนี้ หน่วยงานที่มีโครงการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จะต้องเสนอผ่านมายังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อกลั่นกรองและนำเข้าเสนอคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พิจารณาให้ความเห็นประกอบ ก่อนเสนอขอสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณหรือจากแหล่งงบประมาณอื่นๆ ต่อไป

“ผมได้กำชับ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการติดตามสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และให้ประสานหน่วยงานที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างทางวิศวกรรม หรือกิจกรรมป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กล่าวไว้อย่างเคร่งคัด” นายจตุพร กล่าวยืนยัน










กำลังโหลดความคิดเห็น