xs
xsm
sm
md
lg

ใครเป็นคนทำ? เจอมือบอนป่วน เปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญ หวั่นทำนักท่องเที่ยวสับสน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชาวเน็ตรายหนึ่งเผยภาพหลังพบคนมือบอน แก้ไขเปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญของไทย รวมถึงวัดต่างๆ ใน Google Maps โดยเติมคำว่า “ลึงพรหม” เข้าไปในชื่อสถานที่นั้น หวั่นทำให้เกิดความเสียหายและสับสนกับนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Wongsarut Wanabunyanon” โพสต์ภาพหลังคนมือบอน แก้ไขเปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญของไทย รวมถึงวัดต่างๆ ใน Google Maps โดยเติมคำว่า “ลึงพรหม” เข้าไปในชื่อสถานที่นั้น หวั่นสร้างความสับสนให้กับนักท่องเที่ยวได้ โดยผู้โพสต์ระบุว่า “เหตุเกิดใน Google Maps ในประเทศไทย นับว่าเป็น #เรื่องสำคัญ อย่างยิ่ง มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่ต่างๆ ที่เป็นโบราณสถานภายในประเทศไทยเกิดขึ้น โดยผู้เขียนได้รับข้อมูลนับแต่ได้เดินทางไปเที่ยวกลุ่มปราสาทหินทางอีสานใต้ ซึ่งในครั้งแรกคิดว่าเกิดขึ้นเฉพาะปราสาทหินศิลปะขอมในประเทศไทยเท่านั้น แต่ขณะนี้ ได้มีการเปลี่ยนชื่อโบราณสถานต่างๆ ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อีกด้วย

การเปลี่ยนชื่อโบราณสถาน โดยมีการเติมคำว่า “ลึงพรหม” เข้าไป ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ด้วยการกำหนดชื่อโบราณสถานต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางไปตาม Google Maps ได้อย่างถูกต้อง แต่เนื่องด้วยมีบุคคลผู้ไม่หวังดี ทำการแก้ไขชื่อโบราณสถาน ทำให้เกิดความเสียหายและสับสน รวมทั้งบางสถานที่อยู่ในเขตแดนของไทย แต่กลับย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนเขมร และมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ทั้งหมด เช่น ที่ปราสาทตาเมือนธม (ภาพสุดท้าย) เป็นปราสาทดำเร็ยครบ ทำให้เกิดความผิดพลาดและสับสน ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นยังคงไม่ได้ข้อสรุปกันทั้งสองฝ่าย

ด้วยเหตุนี้ตัวผู้เขียนได้พยายามเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนชื่อให้กลับมาเป็นเช่นเดิม ให้ตรงกับชื่อที่ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ แต่บางสถานที่ยังคงแก้ไขไม่ได้ เนื่องจาก Google Maps ยังไม่อนุญาต ซึ่งผู้เขียนอยากให้ผู้ที่มีความสามารถในเรื่องนี้ช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้องครับ ขอบคุณสำหรับผู้ที่ช่วยเหลือ และหากใครอยู่ใกล้บริเวณโบราณสถานแห่งไหน ที่ถูกเปลี่ยนชื่อดังกล่าวแล้ว โปรดช่วยกันแก้ไขโดยการใส่รูปถ่าย และแก้ไขชื่อให้กลับมาดังเดิมครับ”

..... เหตุเกิดใน Google Maps ในประเทศไทย นับว่าเป็น #เรื่องสำคัญ อย่างยิ่ง มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่ต่างๆ...โพสต์โดย Wongsarut Wanabunyanon เมื่อ วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2020



















กำลังโหลดความคิดเห็น