“ฉาย บุนนาค” ประธานเครือเนชั่น แจงสองพิธีกร “สันติสุข-อัญชะลี” ย้ายช่องไปนิว 18 ไม่กระทบผู้ชม เปรียบเหมือนสโมสรฟุตบอล มีคนเข้าออกเรื่องธรรมดา ปฏิเสธขัดแย้งกัน เชื่อไม่กระทบเรตติ้ง ยังคงทำงานถึงวันสุดท้าย ด้าน “ประชาไท” คัมแบ็กจัดรายการวิเคราะห์ข่าว 5 ทุ่ม หลังไม่ลงรอยกับ “เจ๊ปอง”
อ่านประกอบ : สะพัด! “สันติสุข-อัญชะลี” ไขก๊อกเนชั่นซบ “นิว 18” หลังปั้นเรตติ้งมากว่า 2 ปี
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ถึงกรณีที่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก หรือ ปอง และ นายสันติสุข มะโรงศรี สองผู้ดำเนินรายการที่มีเรตติ้งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ตัดสินใจที่จะยุติการทำรายการ เพื่อย้ายไปทำรายการข่าวใหม่ทางสถานีโทรทัศน์นิว 18 พร้อมทีมงาน 6-7 คน ว่า เนชั่นเป็นองค์กรข่าวที่เก่าแก่ยาวนาน และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 เราเป็นสถาบันข่าว ดังนั้น เส้นทางอายุของเนชั่นที่ผ่านมา ย่อมมีทั้งคนเข้าคนออกเป็นเรื่องปกติ
“เราไม่ได้ขายดารา หรือขายผู้ดำเนินรายการ แต่เราขายความน่าเชื่อถือ ขายรับผิดชอบต่อสังคม ขายเนื้อหาสาระข่าว การเป็นองค์กรก็เหมือนสโมสรฟุตบอล และที่สำคัญนักบอลไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสร แต่ก็อวยพรอวยชัยคนที่ไปขอให้โชคดี และเขาก็ทำหน้าที่เพื่อองค์กรจนถึงวันสุดท้าย” นายฉาย กล่าว
เมื่อถามว่า มีปัญหาขัดความขัดแย้งในองค์กรจนทำให้ผู้ดำเนินรายการตัดสินใจยุติบทบาทหรือไม่ นายฉาย กล่าวว่า “ผมไม่มีความขัดแย้งกับใครเลย จนวันนี้ก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม และยืนยันว่า อุดมการณ์เนชั่นก็เหมือนเดิม เราไม่เปลี่ยนจุดยืนเดิม คือ การนำเสนอข่าวสาร ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของชาติ โดยเฉพาะการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เราไม่เอาแนวคิดในการนำเสนอการปลุกปั่น หรือสร้างความแตกแยก”
“การลาออกไปของทั้งพี่อัญชะลี และพี่สันติสุขจะไม่กระทบต่อยอดผู้รับชม เพราะเราก็ต้องปรับแผนธุรกิจ เนชั่นเป็นสถาบันมันเหมือนต้นไม่ใหญ่ ก็มีนกมาเกาะ ทำรังอยู่ได้ยาวนานบ้าง หรือบินออกไปบ้าง เพราะทำรังชั่วคราว ก็บินไปบ้าง แน่นอนว่าพี่ปองและพี่สันติสุขเป็นคนมีความสามารถ จึงอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของทุกอย่างเสมอไป ออกไปได้ ก็อาจมีวันกลับมาได้เป็นเรื่องธรรมดา"
นายฉาย ยังกล่าวถึงการปรับแผนและรูปแบบรายการทดแทนว่า “ก็จะมีการปรับ โดยต้องจัดส่วนผสมระหว่างผู้ประกาศ-ผู้จัดรายการทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เพราะเนชั่นมีอยู่เกือบ 30 คน ต่อไปก็จะต้องมีพื้นที่ให้ผู้ประกาศเด็กๆ ได้เติบโตบ้าง และยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ในด้านธุรกิจนั้นไม่ส่งผลกระทบ เพราะเนชั่นมีฐานะการเงินและโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่เข้มแข้ง องค์กรคงไม่พังเพราะเรื่องเหล่านี้”
ในวันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีได้เปิดตัวรายการ “เนชั่นกรองข่าว” เวลา 23.10 น. หลังรายการถามสุดซอย ดำเนินรายการโดย นายประชาไท ธนณรงค์ ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์ข่าวความยาว 10 นาที ซึ่งก่อนหน้านี้ นายประชาไท เคยดำเนินรายการ เนชั่นทันข่าวเที่ยง คู่กับ น.ส.อัญชะลี เมื่อวันที่ 21 ก.ย. แต่พบว่าจัดรายการได้แค่ 3-4 วันกลับไม่ลงรอยกัน สุดท้าย น.ส.อัญชะลี ได้ตัดสินใจเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการมาเป็น นายกิตติดิษฐ์ ฐนดิษฐ์สุวรรณ หรือ ปิง จากโต๊ะข่าวต่างประเทศมาแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.อัญชะลี ไม่ได้มาจัดรายการเนชั่นทันข่าวเที่ยง เนื่องจากติดภารกิจ โดยให้ น.ส.ศุภวรรณ โต๋ห์ ดำเนินรายการแทน ซึ่ง น.ส.อัญชะลี ยังคงลงเสียงโปรยข่าวเอาไว้ก่อนเข้ารายการ แต่วันอังคารที่ 3 พ.ย. น.ส.อัญชะลี กลับมาจัดรายการตามปกติ ก่อนที่จะมีข่าวจากสำนักข่าวอิศรา ถึงการตัดสินใจยุติการทำรายการกับสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี