ชาวเน็ตแห่วิจารณ์สนั่น พฤติกรรมกระบะซิ่งเร่งเครื่องปล่อยควันดำใส่จักรยานยนต์พ่วงข้างที่มาต่อท้ายเข้าเต็มหน้า วอนมีจิตสำนึกแก่เพื่อนร่วมเส้นทาง เผยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. เพจ “ติดตาม จราจร หัวโปก” เผยคลิปวิดีโอความยาว 13 วินาที ที่กำลังโดนวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดียอย่างมากมายในขณะนี้ โดยเผยให้เห็นจักรยานยนต์พ่วงข้างคันหนึ่งเข้ามาจอดต่อหลังรถกระบะของกลุ่มแก๊งแต่งรถซิ่งขณะจอดติดไฟสัญญาณจราจร แต่เมื่อได้สัญญาณไฟเขียว รถกระบะได้ออกตัวเร่งเครื่องยนต์พ่นควันดำใส่คนขับรถพ่วงข้างโดยไม่สนว่าจะรู้สึกอย่างไร ก่อนที่จะซิ่งหายไปกับควันดำ พฤติกรรมดังกล่าวนอกจากสร้างมลพิษแล้วยังทำให้คนอื่นที่ต้องใช้ถนนร่วมกันต้องมาเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุจากควันดำที่บดบังเส้นทาง
สำหรับการแต่งเครื่องยนต์ให้มีควันดำนั้น สามารถทำโดยการเพิ่มปริมาณการจ่ายน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ ในรถรุ่นเก่าที่ใช้ปั๊มแบบกลไกมักจะโมดิฟายที่ตัวปั๊มจ่ายน้ำมัน-โมดิฟายด์หัวฉีด แต่สำหรับรถรุ่นใหม่ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลจะใช้วิธีการจูนกล่องอีซียูเดิม (รีแมป) หรือไม่ก็เปลี่ยนกล่องอีซียูใหม่ ซึ่งมีการเซตค่าการจ่ายน้ำมันให้มากกว่าเดิมหรือฉีดเกิน โดยหลอกสัญญาณ, ยืดเวลาการยกของหัวฉีด เพิ่มแรงดันในรางหัวฉีด เป็นต้น ซึ่งจะมีคำพูดที่ติดปากของกลุ่มคนแต่งรถว่า “ดันราง-ยกหัวฉีด” จนทำให้เกิดควันดำพวยพุ่งออกมาจากการเผาไหม้ไม่หมดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การแต่งรถยนต์ในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องทำให้ถูกและอยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย ที่สำคัญต้องไม่สร้างความเดือดร้อนหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษ ควันดำ ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย มีโทษปรับตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ข้อหานำรถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ได้มาตรฐานก่อให้เกิดมลพิษมาใช้ในทางวิ่ง มีโทษปรับสูงสุด 500 บาท ขณะที่รถบรรทุกปรับไม่เกิน 5,000 บาท
รถยนต์ที่ปล่อยควันดำเกินร้อยละ 50 ด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบกระดาษกรอง หรือเกินร้อยละ 45 ด้วยเครื่องมือระบบวัดความทึบแสง จะถูกติดสติกเกอร์ “ห้ามใช้ชั่วคราว” เพื่อให้นำรถไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ภายใน 30 วัน หากพ้น 30 วันแล้วแต่ยังไม่มีการแก้ไขปรับปรุง จะถูกสั่ง “ห้ามใช้เด็ดขาด” โดยจะสามารถเคลื่อนย้ายรถได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น
