รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดป่าในเมืองพังงาและกระบี่ “อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล” ร่วมงานนับพันคน ย้ำ “ป่า” และ “เมือง” อยู่ด้วยกันอย่างพึ่งพากันตามวิถีธรรมชาติ
วันนี้ (1 พ.ย.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวภายหลังการเป็นประธานเปิดงานโครงการป่าชายเลนในเมือง สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย จ.กระบี่ และ จ.พังงา ว่า จากรายงานล่าสุด ภาพรวมพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 203,000 ไร่ รวมมีพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพถึง 1.73 ล้านไร่ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม เราก็ยังต้องการให้พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลได้ยึดแนวคิดในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาจนนำไปสู่ความยั่งยืน อีกทั้ง การสนับสนุนให้คนอยู่กับป่าอย่างพึ่งพาอาศัยกัน โดยในวันนี้ตนได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์และการทำงานของหน่วยงานด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ จ.กระบี่ และ จ.พังงา พร้อมทั้งได้เปิดโครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนแนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับป่าชายเลน
“ป่าชายเลนในเมือง เป็นสิ่งสะท้อนถึงความกลมกลืนระหว่าง “เมือง” กับ “ป่า” ป่าช่วยดูแลเมือง และ ชุมชนเมืองช่วยดูแลป่า การพึ่งซึ่งกันและกัน คือ วิถีแห่งธรรมชาตินิเวศบริการของป่าชายเลนมีมากกว่าป่าบก เมื่อป่าชายเลนคงอยู่ ประโยชน์นานัปการย่อมเกิดขึ้นกับชุมชนอย่าปล่อยให้ป่าดูแลเราอย่างเดียว เราต้องช่วยกันดูแลป่าตอบแทนด้วย”
นอกจากนี้ ตนได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลในพื้นที่ ทุกคนคือกำลังสำคัญของการดูแลผืนป่าชายเลนใน จ.กระบี่ และ จ.พังงา และพร้อมที่จะเป็นกำลังสนับสนุนการทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไป พร้อมนี้ ได้พูดคุยและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญในพื้นที่ในการลาดตระเวนและขับเคลื่อนการดำเนินงาน และได้เปิดสำนักงานที่ทำการของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา) ที่จะเป็นหน่วยประสานงานกับพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด และดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในระดับพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแก่ทุกฝ่ายในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่กับประเทศชาติตลอดไป
ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวเสริมว่า จ.พังงา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าชายเลนมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 240,000 ไร่ ซึ่งเป็นผืนป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และที่สำคัญ ผืนป่าชายเลน จ.กระบี่ เป็นป่าที่สมบูรณ์และได้รับการยอมรับในระดับโลกให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติ สำหรับพื้นที่ป่าในเมือง จ.พังงา ต.ท้ายช้าง อ.เมือง มีเนื้อที่ 700 ไร่ และป่าชายเลนในเมือง จ.กระบี่ มีเนื้อที่กว่า 3,649 ไร่ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าชุมชนรอบป่าในเมืองทั้ง 2 แห่ง จะช่วยกันป้องกันดูแลให้ผืนป่ายังคงสมบูรณ์เช่นนี้ตลอดไป อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมป่าไม้ ในการประกาศพื้นที่ป่าชายเลนในเมืองและป่าชุมชน ซึ่งสนับสนุนให้ชุมชนได้มีโอกาสดูแลและจัดการพื้นที่ป่าซึ่งเป็นสมบัติของชุมชนนั้นๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ต่อไป
สำหรับรายละเอียดและความสำคัญในการจัดงานโครงการป่าชายเลนในเมือง นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การจัดงานโครงการป่าชายเลนในเมือง สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย ในพื้นที่ จ.กระบี่และ จ.พังงา ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล