เผยเรื่องราวสะเทือนใจของครูสาวข้ามเพศ ซึ่งเป็นข้าราชการ ที่แฟนหนุ่มของตนป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย แต่ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เพียงเพราะไม่สามารถจดทะเบียนสมรสกัน เนื่องจากเป็นเพศเดียวกัน ด้านชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Mikky Billsons” ซึ่งผู้โพสต์เป็นคุณครูสาวข้ามเพศและเป็นข้าราชการ ซึ่งตนได้เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับแฟนหนุ่มของตนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ค่ายารักษาต่อเดือนถึง 1 แสนกว่าบาท แต่ตนในฐานะข้าราชการ กลับใช้สิทธิข้าราชการไม่ได้ เนื่องจากตนและแฟนหนุ่มไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เพราะเป็นเพศเดียวกัน โดยผู้โพสต์เล่าว่า
“สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ก่อนอื่นเราไม่เคยโพสต์มาก่อน ขอแนะนำตัวนะคะ เราชื่อมิกกี้ อาชีพรับราชการครู เรากับแฟนเรา คบมากันได้ 5 ปีกว่า สร้างบ้าน แต่งงาน ด้วยกัน ชีวิตเหมือนจะมีความสุขมากๆ แต่เมื่อต้นเดือน สามีตรวจพบมะเร็งตับ คุณหมอบอกว่าเป็นระยะสุดท้าย อยู่ได้แค่ 6-8 เดือน มิกกี้ใจสลายมาก จากนั้นน้ำหนักของแฟนเริ่มลดลงอย่างน่าสงสาร จาก 63 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 51 กิโลกรัม ทำทุกวิถีทางที่จะให้มะเร็งมันหาย คุณหมอบอกว่า ตอนนี้หมดทางรักษาแล้ว ตอนนี้แผนการรักษาก็คือการประคับประคองให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
แต่มันพอจะมีทางเป็นไปได้ คือ ยามุ่งเป้า ซึ่งยาชนิดนี้จะช่วยไม่ให้มะเร็งมันลุกลามไปมากกว่านี้ และอยู่แบบเชื้อสงบ แต่ราคาของยาคือต้องทานทุกวัน วันละ 4,000 ต่อเดือนคือ 120,000 บาท แต่ถ้าได้สิทธิ์ข้าราชการจ่ายตรง แฟนก็จะได้ยาฟรีโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว
ปัญหาคือ ดิฉันเป็นข้าราชการจริง แต่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เพราะติดตรงที่เป็นเพศเดียวกัน ในฐานะหัวอกที่รู้ว่าแฟนกำลังจะตาย แต่ยังมีโอกาสยื้อชีวิต แต่เรากลับทำไม่ได้ เพราะโดนตีกรอบจากสังคมว่า เพศเดียวกัน สมรสกันไม่ได้ทำให้ต้องมานอนดูใจกันแบบที่จะไม่สามารถทำอะไรได้ ทำไมสังคมต้องมาตีกรอบ ความเป็นคนอยู่แค่นี้
ปล. ใครอ่านแล้วพอจะมีทางด้วยอะไรได้บ้างไหมคะ
ปล. ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ชีวิตมันมืดไปหมด
ปล. ตอนที่แฟนทราบว่าอยู่ได้แค่ 8 เดือน เขาเอามือมาลูบหัวแล้วบอกว่า เสียดายเนาะ เราอยู่ด้วยกันยังไม่คุ้มเลย”