สำนักข่าวออนไลน์ลาวเผยข้อกฎหมาย ติดแฮชแท็กผ่านสื่อสังคมออนไลน์ยุยงประชาชนต่อต้านรัฐ มีความผิดตามกฎหมายต่อต้านอาชญกรรมทางคอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 3 เดือน ถึง 3 ปี ปรับตั้งแต่ 4 ล้านถึง 10 ล้านกีบ
วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.49 น. ในทวิตเตอร์ “แคน สาริกา” (@can_nw) ของนายบัณฑิต จันทศรีคำ คอลัมนิสต์เครือเดอะเนชั่น ได้มีการโพสต์ข้อความว่า สำนักข่าวออนไลน์ลาวแจงข้อกฎหมายว่าด้วยการติดแฮชแท็กผ่านสื่อโซเชียลเพื่อยุยงส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐมีความผิด พร้อมกับโพสต์ภาพรายละเอียดจากสื่อออนไลน์ของลาว ระบุว่า
“ท่านรู้แล้วหรือไม่ว่า การสร้าง #Hastage ทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อยุยงและส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐบาลนั้นผิดทางกฎหมาย
มาตรา 13 การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์
การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์แสดงออกด้วยการกระทำดังนี้
1. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะใสร้ายป้ายสี, หมิ่นประมาท, ใช้คำศัพท์ไม่สุภาพเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
2. การนำข้อมูลที่มีลักษณะใช้ความรุนแรง, ข้อมูลเท็จ, ข้อมูลหลอกลวง, ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
3. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ, ความสงบ, ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม วัฒนธรรม และจารีตประเพณีอันดีงามของชาติ
4. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะชวนเชื่อ ยุยง และส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐบาลหรือแบ่งแยกความสามัคคี
5. การโฆษณาค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม อาวุธเคมี ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ค้าโสเภณี และสิ่งที่ผิดกฎหมาย
6. การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามที่ได้กำหนดไว้ในมาตรา 11 และ14 ของกฎหมายฉบับนี้รวมทั้งข้อ 1, 2, 3, 4 และ 5 ของมาตรานี้
มาตรา 168 การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์
บุคคลใดหากสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จะถูกลงโทษตัดอิสรภาพ ตั้งแต่สามเดือนถึงสามปี และจะถูกปรับไหมตั้งแต่ 4,000,000 ถึง 10,000,000 กีบ
อ้างอิง:
กฎหมายว่าด้วยการต่อต้าน การสกัดกั้น อาชญากรรมทางระบบคอมพิวเตอร์
ประมวลกฎหมายอาญา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ทวีตข้อความติดแฮชแท็กเป็นภาษาลาวว่า #ຖ້າການເມືອງລາວດີ (ถ้าการเมืองลาวดี) และมีผู้สนับสนุนกลุ่ม “คณะราษฎร” ในประเทศไทยรีทวิตต่อเป็นจำนวนมาก โดย นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และอดีตประธานสภานิสิตจุฬาฯ ได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์บัญชี @NetiwitC แสดงความรู้สึกดีใจที่ได้เห็นแฮชแท็กดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาสังคมและระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศลาว หลังจากเหตุการประท้วงของชาวไทย นอกจากนี้ ยังมีคนเข้าไปตอบนายเนติวิทย์ ระบุว่า อยากเห็น “อาเซียนสปริง” (ASEAN Spring) หรือ คลื่นการปฏิวัติในอาเซียน ดังเช่นที่เคยเกิด “อาหรับสปริง” ในโลกอาหรับเมื่อหลายปีก่อน
(อ่าน อยากให้ลาวเป็นประชาธิปไตย! “ม็อบชู 3 นิ้ว” ปั่น #ทวิตเตอร์ จุ้น “การเมืองลาว” ต่อ)
ทั้งนี้ กฎหมายอาญาของลาวนอกจากมีบทลงโทษกรณีการสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์แล้ว กรณีการยุยงส่งเสริมหรือการเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายต่อต้านอำนาจรัฐยังอาจมีความผิดฐานทรยศต่อชาติ ตามมาตรา 110 และฐานกบฏ ตามมาตรา 111 ซึ่งมีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
(อ่าน อย่าหาเฮ็ด! ยุคนลาวก่อม็อบ ผิดฐานกบฏ โทษถึงประหาร)
*อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน 1,000 กีบ เท่ากับ 3.38 บาท