พิษณุโลก - พ่อเห็นคลิปลูกมีเพศสัมพันธ์ว่อนโซเซียล หลั่งน้ำตาพาขอความช่วยเหลือ พมจ. แจ้งตำรวจชายโฉดหลอกลูกไม่พอยังขายภาพ และคลิปสวิงกิ้งผ่านไลน์ แอปพลิเคชันทวิตเตอร์ พบแอบบวชเป็นพระวัดที่พิจิตรหวังหนีคดีซ้ำ
วันนี้ (13 ต.ค.) พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และนางเอื้องดอย กีรติบริบูรณ์ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก กรณีจับกุม ADMIN จัดสวิงกิ้ง หารายได้จากการขายคลิปในโลกออนไลน์
การจับกุมมีขึ้นหลังพ่อของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ชาว จ.พิจิตร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าลูกสาวถูกนายพี (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ชาว ต.วังสำโรง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ผู้ต้องหา ข่มขืน กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และพา น.ส.บี ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเราในลักษณะกลุ่ม (สวิงกิ้ง)
โดยนายพี ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวขณะที่ น.ส.บี ถูกกระทำชำเราไว้ จากนั้นได้นำภาพและภาพเคลื่อนไหวไปเผยแพร่และโฆษณาในแอปพลิเคชันทวิตตอร์ และกลุ่มไลน์ที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อหารายได้ และเชิญชวนให้บุคคลต่างๆ ที่สนใจ จ่ายเงิน 600 บาท เป็นค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม และสามารถข้าไปชมภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวที่นายพี บันทึกไว้ขณะที่ น.ส.บี ถูกกระทำชำเรา
อีกทั้งนายพี ได้พา น.ส.บี ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเราในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งต่างท้องที่ ทั้ง จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ทำให้ น ส.บี ได้รับความเสียหาย เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและเป็นการนำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีอำนาจหน้าที่สืบสวน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต และชุดปฏิบัติงานศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ภาค 6 ชุดปฏิบัติการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
กระทั่งขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ.248/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ในฐานความผิด "เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อลวงไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม" และเป็นความผิดฐาน "ผลิตมีไว้หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร เพื่อการค้า และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ ที่มีลักษณะลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้"
ก่อนสืบสวนจับกุม นายพี ผู้ต้องหาได้ที่ จ.พิจิตร และขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพิจิตร ที่ ค.ดด7/563 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติค้ามนุษย์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า นายพี ผู้ต้องหา นอกจากมีความผิดที่ปรากฏตามหมายจับแล้ว ยังทำเป็นธุระจัดหา จัดให้มีการค้าประเวณีจากการสวิงกิ้ง และเป็นผู้ถ่ายภาพผลิตสื่อลามกด้วยตนเอง โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์รายได้จากการนำภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งในโลกกลุ่มไลน์ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นฐานความผิด "ค้ามนุษย์"
ผู้ต้องหานั้นได้ใช้วิธีการคบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหายก่อน โดยคบกันได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นได้ตั้งกล้องแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย ก่อนนำคลิปนั้นมาข่มขู่ บังคับ ขืนใจให้ตัวผู้เสียหายต้องยอมไปมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้งใน 3 จังหวัด คือ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก รวมทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกด้วย เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพยานแน่นหนา สามารถดำเนินคดีเอาผิดได้
นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการ พมจ.พิจิตร กล่าวว่า พ่อของ น.ส.บี ได้เห็นภาพลูกสาวที่กลุ่มไลน์ของเพื่อนนำมาให้ดูว่าเป็นลูกสาวตัวเองหรือไม่ ซึ่งเมื่อเห็นก็ทั้งตกใจและถึงกับหลั่งน้ำตา จึงพาลูกสาวมาขอความเป็นธรรมและร้องเรียนต่อ พมจ.พิจิตร จากนั้นทาง พมจ.พิจิตร ได้ประสานกับชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต หรือ TICAC ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อดำเนินคดีต่อนายพี
กระทั่งทราบว่า นายพี พาแฟนสาวมาจัดฉากสวิงกิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่งในที่พื้นที่ จ.พิษณุโลก จึงเริ่มหาข้อมูลและหลักฐานในการออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเชื่อว่านายพี ก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่หลายจังหวัด ทั้ง จ.นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก