วันนี้ (17 ต.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า วันนี้เห็นม็อบผู้ชุมนุมมีการจัดดาวกระจายไปหลายจุดซึ่งไม่แปลกใจ รวมทั้งมีเยาวชนออกมาเรียกร้องเพราะมีแนวความคิดตามแฟนคลับที่ให้ข้อมูลเท็จอย่างต่อเนื่อง โดยแฟนคลับก็คือพรรคอนาคตใหม่ และเหตุการณ์ที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบส่งผลให้นักเรียนนักศึกษาออกมาเรียกร้องในสิ่งที่ต้องการ โดยมีคนอยู่เบื้องหลังอย่างชัดเจน แต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา ตนรู้สึกสะเทือนใจมากกับม็อบบางกลุ่มบางพวกได้แสดงกิริยามิบังควรอย่างมาก เพราะเกิดมาตั้งแต่เด็กยันโตก็ไม่เคยพบการกระทำเยี่ยงนี้กับรถขบวนเสด็จฯ ซึ่งมีคลิปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลฯ มากมาย ตนมองว่าเป็นการกระทำเหยียบหัวใจคนไทย แต่ศาลก็มีการได้ออกหมายจับบุคคลผู้กระทำการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นายสามารถกล่าวอีกว่า ตนเห็นภาพในอดีตเวลามีขบวนเสด็จฯ จะมีชาวบ้านรอรับเสด็จจะมีแต่ส่งเสียง “ทรงพระเจริญ” แต่ม็อบวันที่ 14 ต.ค.นั้น คนบางคนทำการกระทำที่หยาบช้า ทำลายหัวใจคนไทยทั้งประเทศ หลังจากนั้นม็อบก็ไปชุมนุมปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล และพูดจาปราศรัยต่ออีก ตนฟังแล้วรับไมได้ คิดว่าคนไทยทั้งประเทศส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการกระทำของม็อบ นอกจากนี้ อยากจะฝากเตือนไปยังบุคคลผู้ที่อยู่หลังม็อบหรือคนชักนำให้เด็กเยาวชนเข้าใจผิดในข้อมูลซึ่งพวกเขาจะเป็นกำลังหลักของชาติในอนาคต
“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้นรับฟังปัญหาของประชาชนทุกมิติ หากต้องการแก้รัฐธรรมนูญควรใช้กลไกในรัฐสภา ไม่ใช่มาเดินบนท้องถนนเช่นนี้ เพราะสุดท้ายแกนนำต้องถูกดำเนินคดี เหตุการณ์ในอดีตสะท้อนให้เห็นอยู่หลายครั้งจึงอยากให้น้องๆ เยาวชนรับฟังข้อมูลรอบด้านเพื่อจะได้ตกผลึกทางความคิดทำให้ประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง”
นายสามารถกล่าวต่อว่า ขณะนี้ม็อบเรียกร้องแต่เสรีภาพ แต่ยังไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง ตนจึงขอยกรัฐธรรมนูญ หมวด 4 มาตรา 50 ระบุว่า บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอหยิบยกมาให้เห็นซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องปฏิบัติ ฉะนั้น การกระทำของม็อบในวันที่ 14 ต.ค.เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญและไม่เข้าใจหน้าที่ของพลเมือง อย่าลืมว่าเสรีภาพจะต้องมาด้วยหน้าที่ อีกทั้งเสรีภาพต้องไม่ไปรบกวนลิดรอนเสรีภาพของคนอื่นด้วย
ประเทศไทยเป็นของทุกคน แต่จะต้องวางรากฐานให้ถูกต้อง โดยรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอยู่แล้ว จึงอยากให้พ่อแม่พี่น้องเยาวชนที่เรียกร้องนั้นส่งปัญหาของตัวเองมายังผู้แทนราษฏรเพราะระบบประชาธิปไตยของประเทศไทยเป็นระบบตัวแทนก็อยากให้ประชาชนสะท้อนปัญหาให้ผู้แทนมาหารือกันในสภา อย่างไรก็ตาม หากทุกคนหันหน้าคุยกันบนหลักการที่เป็นประชาธิปไตย เช่น แบบสหรัฐอเมริกาให้ทุกคนเคารพสิทธิและเสรีภาพ เคารพกติกาว่าการเลือกตั้งทุกครั้งทุกพรรคมีแฟนคลับในใจ แต่แพ้ก็คือแพ้ ต้องให้ครบกำหนดแล้วดำเนินการจัดเลือกตั้งใหม่ ประชาชนก็มาใช้สิทธิของตัวเองใหม่ ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วก็ไปใช้สิทธิลงบนถนนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย และประชาชนคนตรงกลางที่ไม่มีส่วนได้เสียต้องได้รับผลกระทบไปด้วย จึงอยากให้น้องๆ นึกถึงคนกลุ่มนี้ด้วย
ท้ายสุดนี้ตนได้รับโทรศัพท์และข้อความมามากมายจากชาวบ้านจำนวนมากให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้อดทนและอย่ายอมแพ้ ทั้งนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ชื่นชมและให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้อดทนอย่ายอมแพ้ เพราะเลือกตั้งที่ผ่านมามีคนสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ 8.4 ล้านคน จึงอยากให้อย่าทิ้งพวกเราไป