นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุข้อความหลังมีโอกาสเห็นม็อบ 3 นิ้ว ที่แยกราชประสงค์ เผย หากแกนนำโดนจับ ก็จะมีชุดใหม่โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมขู่นายกฯ ถึงเวลาลงจากอำนาจก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป
วันนี้ (16 ต.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “สมชัย ศรีสุทธิยากร” แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์รวมตัวกันขับไล่รัฐบาลและปฏิรูปสถาบันของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยนายสมชัย เผยว่า การที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง การรวบตัวผู้นำการชุมนุมจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย ต้องบอกว่าคิดผิด นอกจากนี้ ยังแนะนำให้รัฐบาลเจรจาหาข้อยุติ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ทั้งนี้ นายสมชัย ได้ระบุข้อความว่า
“ตายสิบ เกิดแสน เมื่อเด็กเขามีความคิดแบบนี้ สิ่งที่ดีคือต้องเปิดใจกว้างและคุยกันด้วยเหตุผล เพื่ออยู่ร่วมกันแบบสันติ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นวันที่ผมไปเซ็นทรัลเวิลด์สองรอบ รอบแรกตอนเที่ยงไปหาซื้อผักผลไม้ อาหารสดเก็บไว้ทำกับข้าว เห็นรถตู้ รถปิกอัพตราตำรวจจากต่างจังหวัดนับสิบคัน ขึ้นมาจอดในลานจอดรถ มีตำรวจใส่ชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ตามจุดต่างๆ เมื่อซื้อของเสร็จประมาณบ่ายโมง ผมขับรถออกมาทางแยกราชประสงค์ เห็นรถผู้สื่อข่าวจำนวนมากจอดรถถนน ผู้สื่อข่าวเริ่มตั้งกล้อง นั่งจับกลุ่มบริเวณฟุตปาทหัวมุมห้าง
เวลาเลิกงานคนเริ่มมาชุมนุมมากขึ้น แบบมาทุกทิศทาง แถวตำรวจที่ตั้งล้อมพื้นที่จึงกลายเป็นแซนด์วิชท่ามกลางวงล้อมของผู้ชุมนุมและต้องยอมสลายไปในที่สุด
สองทุ่ม หลังจากเดินออกกำลังกายในบ้านได้สิบนาที แทนที่จะเดินสายพานต่อ ผมก็เดินออกจากที่พักที่ไม่ไกลจากที่ชุมนุม นับก้าวได้ประมาณ 2,000 ก้าว ก็ถึงแยกประตูน้ำ เดินข้ามสะพานเฉลิมโลก มีคิวมอเตอร์ไซค์มากมายจอดรอบริการบนพื้นผิวถนนราชดำริที่ถูกปิดการจราจรแล้ว
บรรยากาศเหมือนงานเคานต์ดาวน์ ที่คนลงไปเดินบนถนนได้ สองข้างมีแผงขายอาหารแบบสตรีทฟู้ดกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย มีแผงวางกับพื้นขายเสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ของที่ระลึก ทั้งออกแบบใหม่ตามแนวคิดประชาชนปลดแอก และ ของเหลือจากการชุมนุมของ นปช. เช่น เสื้อ และ มือตบ ราคาไม่แพง แต่ไม่มีแบบและข้อความที่โดน เลยไม่ได้ตังค์จากผม
คนชุมนุมล้ำมาถึงด้านหน้า The Market เลย Big C หรือครึ่งถนนราชดำริ ทุกคนนั่งกับพื้นเรียบร้อย เสียงคนปราศรัยดังมาถึง แม้ว่าจะไม่ชัดเจนนัก ผมยืนฟังเพียงครู่เดียว แต่สังเกตคนที่มา ส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว มีคนทำงานบ้าง บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเป็นคู่ ทุกคนตั้งใจฟังเวที และตอบสนองด้วยการตบมือ ชูนิ้ว ตะโกนเสียงทุกครั้งที่มีการเรียกร้อง
ผมไม่เห็นผู้ปราศรัยว่าเป็นใคร เพราะอยู่ไกล แต่คงไม่ใช่แกนนำชุดแรกที่ถูกจับกุมไป แต่ฟังดูแล้วปราศรัยได้ดี มีจังหวะจะโคน มีจิตวิทยา ควบคุมฝูงชนได้ดี มีเนื้อหา ไม่ก้าวร้าว โดยรวมๆ ผมว่าดีกว่าผู้นำชุดแรก เสียอีก ประมาณสองทุ่มเศษ ผมเดินออกมาทางเดิม ยังเห็นคนเดินสวนเข้ามาไม่หยุด คาดว่า ยิ่งดึกคนยิ่งแน่น แต่ก็งงว่าเขาอยู่กันอย่างไร อาหารมีขาย แต่ห้องน้ำห้องท่าจะเข้าที่ไหน เพราะห้างปิดตั้งแต่หกโมงเย็น สี่ทุ่มเศษ เขาประกาศสลายการชุมนุมในจังหวะที่ดีที่สุด คือไม่ดึกไปจนเป็นอันตราย สามารถมีรถไฟฟ้ากลับได้ และนัดชุมนุมใหม่วันศุกร์ 17.00 น. ซึ่งผมคาดว่าน่าจะมีมากกว่าเดิม
ผู้ปกครองประเทศที่ถูกขับไล่ หากคิดว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง การรวบตัวผู้นำการชุมนุม จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย ต้องบอกว่าท่านคิดผิด วันนี้ เปลี่ยนความคิดเด็กและคนรุ่นใหม่ไม่ได้ เขาต้องการประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีผู้นำประเทศที่มีความสามารถ ปกครองด้วยความรู้ไม่ใช่อำนาจ หาทางคุยกัน และหาข้อตกลงที่ยุติ คุณประยุทธ์ปกครองบ้านเมืองมานาน ถึงเวลาต้องลงจากอำนาจแล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปครับ”
ตายสิบ เกิดแสน
เมื่อเด็กเขามีความคิดแบบนี้ ...โพสต์โดย สมชัย ศรีสุทธิยากร เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2020