นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก“สมชัย ศรีสุทธิยากร”ระบุว่า 'ตายสิบ เกิดแสน'เมื่อเด็กเขามีความคิดแบบนี้ สิ่งที่ดีคือต้องเปิดใจกว้างและคุยกันด้วยเหตุผลเพื่ออยู่ร่วมกันแบบสันติ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นวันที่ผมไปเซ็นทรัลเวิลด์สองรอบ รอบแรกตอนเที่ยงไปหาซื้อผักผลไม้ อาหารสดเก็บไว้ทำกับข้าว เห็นรถตู้ รถปิ้กอัพตราตำรวจจากต่างจังหวัดนับสิบคัน ขึ้นมาจอดในลานจอดรถ มีตำรวจใส่ชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ตามจุดต่างๆ เมื่อซื้อของเสร็จประมาณบ่ายโมง ผมขับรถออกมาทางแยกราชประสงค์ เห็นรถผู้สื่อข่าวจำนวนมากจอดรถถนน ผู้สื่อข่าวเริ่มตั้งกล้อง นั่งจับกลุ่มบริเวณฟุตบาทหัวมุมห้าง
เวลาเลิกงานคนเริ่มมาชุมนุมมากขึ้น แบบมาทุกทิศทาง แถวตำรวจที่ตั้งล้อมพื้นที่จึงกลายเป็นแซนวิชท่ามกลางวงล้อมของผู้ชุมนุมและต้องยอมสลายไปในที่สุด
สองทุ่ม หลังจากเดินออกกำลังกายในบ้านได้สิบนาที แทนที่จะเดินสายพานต่อ ผมก็เดินออกจากที่พักที่ไม่ไกลจากที่ชุมนุม นับก้าวได้ประมาณ 2,000 ก้าว ก็ถึงแยกประตูน้ำ เดินข้ามสะพานเฉลิมโลก มีคิวมอเตอร์ไซค์มากมายจอดรอบริการบนพื้นผิวถนนราชดำริที่ถูกปิดการจราจรแล้ว
บรรยากาศเหมือนงานเคาท์ดาวน์ ที่คนลงไปเดินบนถนนได้ สองข้างมีแผงขายอาหารแบบสตรีทฟู้ดกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย มีแผงวางกับพื้นขายเสื้อ หมวก ผ้าพันคอ ของที่ระลึก ทั้งออกแบบใหม่ตามแนวคิดประชาชนปลดแอก และ ของเหลือจากการชุมนุมของ นปช. เช่น เสื้อ และ มือตบ ราคาไม่แพง แต่ไม่มีแบบและข้อความที่โดน เลยไม่ได้ตังค์จากผม
คนชุมนุมล้ำมาถึงด้านหน้า The Market เลย Big C หรือครึ่งถนนราชดำริ ทุกคนนั่งกับพื้นเรียบร้อย เสียงคนปราศรัยดังมาถึง แม้ว่าจะไม่ชัดเจนนัก ผมยืนฟังเพียงครู่เดียว แต่สังเกตคนที่มา ส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว มีคนทำงานบ้าง บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเป็นคู่ ทุกคนตั้งใจฟังเวที และตอบสนองด้วยการตบมือ ชูนิ้ว ตะโกนเสียงทุกครั้งที่มีการเรียกร้อง
ผมไม่เห็นผู้ปราศรัยว่าเป็นใคร เพราะอยู่ไกล แต่คงไม่ใช่แกนนำชุดแรกที่ถูกจับกุมไป แต่ฟังดูแล้วปราศรัยได้ดี มีจังหวะจะโคน มีจิตวิทยา ควบคุมฝูงชนได้ดี มีเนื้อหา ไม่ก้าวร้าว โดยรวมๆผมว่าดีกว่า ผู้นำชุดแรก เสียอีก
ประมาณสองทุ่มเศษ ผมเดินออกมาทางเดิม ยังเห็นคนเดินสวนเข้ามาไม่หยุด คาดว่ายิ่งดึกคนยิ่งแน่น แต่ก็งงว่าเขาอยู่กันอย่างไร อาหารมีขายแต่ห้องน้ำห้องท่าจะเข้าที่ไหน เพราะห้างปิดตั้งแต่หกโมงเย็น
สี่ทุ่มเศษ เขาประกาศสลายการชุมนุมในจังหวะที่ดีที่สุด คือไม่ดึกไปจนเป็นอันตราย สามารถมีรถไฟฟ้ากลับได้ และนัดชุมนุมใหม่วันศุกร์ 17.00 น. ซึ่งผมคาดว่าน่าจะมีมากกว่าเดิม
ผู้ปกครองประเทศที่ถูกขับไล่ หากคิดว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง การรวบตัวผู้นำการชุมนุม จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย ต้องบอกว่าท่านคิดผิด วันนี้ เปลี่ยนความคิดเด็กและคนรุ่นใหม่ไม่ได้ เขาต้องการประเทศที่เป็นประชาธิปไตย มีผู้นำประเทศที่มีความสามารถ ปกครองด้วยความความรู้ไม่ใช่อำนาจ
หาทางคุยกัน และหาข้อตกลงที่ยุติ คุณประยุทธ์ปกครองบ้านเมืองมานาน ถึงเวลาต้องลงจากอำนาจแล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปครับ