เมื่อกลุ่มดาวพิณทั้ง 6 ได้โคจรมาพบกันเป็นกลุ่มก้อน ผลลัพธ์ทางสไตล์แนวเพลงไทยป็อป (T-POP) นาม “ไลร่า” (LYRA) จึงบังเกิดขึ้น และด้วยสมาชิกจากวง "บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต" (BNK48) ที่ได้แก่ "เนย-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล", "เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ", "ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร", "ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา", "นิว-ชัญญาภัค นุ่มประสพ" และ "นิกี้-วรินทรัตน์ ยลประสงค์" ที่พร้อมแล้วในการฉายแสงให้กับวงการเพลงไทยด้วยซิงเกิลแรกในชื่อเดียวกับวง ‘LYRA’ ก็จะได้มาให้ทำความรู้จักกับพวกเธอแล้วในตอนนี้
ถามถึงโปรเจกต์ครั้งนี้ที่เป็นการร่วมมือกัน ระหว่าง Universal Thailand กับทาง iAM ในการฝึกฝนครั้งนี้ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
เนย : อย่างแรกเลย ถ้าในเรื่องเข้าแคมป์ หนูรู้สึกว่าในเรื่องการเต้นของเรามันชัดมาก เพราะว่ามันจะเปลี่ยนแนวการเต้น คือแข็งแรงขึ้น คืออย่างหนูปกติจะเต้นเพลงแนวสไตล์ผู้หญิง แขนจะอ่อนมาก แต่พอมาเป็น LYRA ต้องฝึกให้แข็งแรง มีการออกกำลังกาย หรือในเรื่องการร้อง ปกติเวลาการร้องมันจะมีเสียงคอรัสหนุน แต่ครางนี้ เขาอยากให้เราโชว์ศักยภาพมากขึ้นโดยการให้ร้องสดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็ต้องฝึกให้เยอะมากเหมือนกัน ให้เสียงดี ก็ได้อะไรจากตรงนี้เยอะมาก
ฟ้อนด์ : จริงๆ แล้ว ได้ประสบการณ์ใหม่มากๆ เลยค่ะ พอเราได้มาเป็นส่วนหนึ่งของไลร่า เราได้ทำอะไรแปลกใหม่ที่ไม่เคยลองทำมาเยอะมากเหมือนกัน ก็เลยรู้สึกว่าโชคดี และก็ดีใจมากๆ เพราะได้เพิ่มทักษะตัวเองไปอีกขั้นด้วย
นอกจากทักษะการร้องการเต้น เราได้ฝึกอะไรอีกบ้าง เช่น เรื่องความอดทน
เจนนิษฐ์ : จริงๆ ก็มีส่วนนะคะ เพราะว่าเราเข้าไปฝึกด้วยกัน และเราต้องตื่นเช้าทุกวัน มีตารางการฝึกที่ชัดเจน เรียกว่าวางตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลย เป็นชีวิตที่ใช้ประโยชน์แบบคุ้มค่าจริงๆ
นิกี้ : ใช่ค่ะ นอกจากตารางการเต้นและฝึกร้องแล้ว เหมือนสานสัมพันธ์พี่น้องไปในตัวด้วย (หัวเราะทั้งวง)
ปัญ : อย่างที่พี่เนยบอกว่า ยังมีการเต้นอ่อนช้อย ก็ต้องเต้นให้แข็งแรงขึ้น อย่างหนู พอเต้นแข็งแรง ก็ต้องเต้นให้อ่อนลงมา คือทุกคนจะต้องเพิ่มความเป็นตัวเองลงไป แต่ความเป็นตัวเองของแต่ละคนนั้น ก็ต้องเข้ากันด้วยเหมือนกัน เรารู้สึกว่าได้เรียนรู้ตรงนี้เยอะด้วยเหมือนกัน
มาที่ “LYRA” ที่มาที่ไปทั้งชื่อวงและชื่อเพลงแรกของวง มันเริ่มมาจากอะไร
ปัญ : จริงๆ ทุกๆ ฝ่ายเขาอยากให้ วงนี้เกิดขึ้นมาจากพวกเราจริงๆ เราก็เลยมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการเลย รวมถึงในเรื่องของการตั้งชื่อด้วย ทุกคนก็มาคุยกันในกลุ่มค่ะว่า เอาชื่อไหนดี พวกเราก็อยากให้มันเป็นชื่อที่เกี่ยวกับผู้หญิง และ 6 คน แล้วหนูก็จะชอบเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาว และเรื่องดวง หนูก็เลยไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดาวที่มี 6 ดวง ดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า แฟนคลับก็สามารถเห็นได้ตลอดเวลา และมีแสงสว่างในตัวเอง เลยมาเจอคำว่า LYRA ทุกคนก็ชอบชื่อนี้กัน จนมาเป็นชื่อนี้ค่ะ
เพลงนี้ทราบมาว่ามีการผสมผสานกันกับเสียงแคนและพิณด้วย
นิกี้ : มันเป็นแนวป็อป-แดนซ์ ที่มีความผสมผสานกับแนวอิเลคโทรนิกส์ และดนตรีไทยด้วยเสียงพิณและเสียงแคน
พอเพลงถูกปล่อยออกมาในช่องทางต่างๆ มีความรู้สึกยังไงบ้าง
นิว : รู้สึกดีใจค่ะ เพราะหนูเห็นแฟนๆ คอยติดตาม ก็แอบไปส่องในทวิตเตอร์ด้วย มีการทำกิจกรรมเกี่ยวกับเพลงด้วย ก็รู้สึกขอบคุณมากค่ะ
ฟ้อนด์ : แล้วก็เรื่องของคลิปทีเซอร์ด้วย ปล่อยมาครั้งแรกก็รู้สึกว้าวเลย ตอนแรกก็ไม่ได้คาดคิดและคาดหวังด้วยว่า ยอดวิวจะเยอะขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเสียงแคนกับเสียงพิณมาใส่ในเพลงแรกของเรา
นิกี้ : ต้องยกให้พี่ๆ ทีมโปรดิวเซอร์ ทั้งพี่เจ-มณฑล จิรา และ พี่ Richard Krager ค่ะ
มันเป็นการบ่งบอกทั้งความเป็นทีป็อปและวงเราด้วยมั้ย
เจนนิษฐ์: หนูว่ามันเด่นพอสมควรเลยนะคะ เสียงดนตรีไทย แค่ได้ยินในทีเซอร์ มันก็รู้สึกถึงความแตกต่าง ถามว่าจะเพลงต่อไปจะเป็นแบบนี้มั้ย ก็ต้องเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ (หัวเราะทั้งวง)
ปัญ : ก่อนจะได้มาเป็นเพลงนี้ มันมีหลายเพลงมากเลยที่คลิกกัน 100 เปอร์เซ็นต์ จนมาที่เพลงนี้ มันมีความรู้สึกว่า มีความผสมผสานทั้งความเป็นอินเตอร์และความเป็นไทย อย่างตอนที่ให้โจทย์มา เขาก็ถามว่าพวกเราต้องการอะไร เราก็ตอบไม่ได้ แต่พอเป็นซิงเกิลนี้มา มันเหมือนกับคำตอบที่พวกเราตามหา (ทำเสียงตื่นเต้นทั้งวง) คือเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเราอยากได้เพลงแนวไหน เป็นอะไรยังไง แต่พอได้ยินเพลงนี้ มันเคาะเลย
ขณะเดียวกัน "ปัญ" ก็มีส่วนร่วมในการแต่งท่อนแร็ปในเพลงนี้ด้วย อยากให้ช่วยเล่าถึงตรงนี้หน่อย
ปัญ : จริงๆ เพลงนี้ก็มาจากที่การรวบรวมไอเดียต่างๆ จากพวกเรา อยากให้เพลงนี้เป็นแนวไหน
นิกี้ : เพราะว่าตอนแรกเราได้ยินแค่บีทเพลงมาเฉยๆ ยังไม่ได้ยินคำอะไรเลย เราก็ปรึกษากันว่า
ปัญ : อยากจะให้เป็นเนื้อหาประมาณไหน ทุกคนก็บอกไป รวมถึงท่อนแร็ปด้วย ว่าอยากเล่าอะไรกัน หนูเลยไปนั่งอ่านที่เพื่อนๆ เขียนกันมา รวมถึงอ่านของตัวเองด้วยว่า เราอยากจะสื่อถึงอะไร รวมแล้ว หนูก็อยากจะสื่อถึงเรื่องของดวงดาว ความรัก และพวกเรา LYRA ทุกคน ให้เป็นเรื่องราวเดียวกัน จนเกิดเป็นท่อนแร็ป
นอกจาก "ปัญ" แล้ว คนอื่นๆ มีส่วนร่วมกับเพลงนี้มากน้อยแค่ไหน
ฟ้อนด์ : เหมือนตอนแรก เขาจะเปิดแค่บีทจังหวะเพลงให้เราฟังก่อน หลังจากนั้น เขาจะให้พูดทีละคนเลยว่า มองเห็นภาพอะไรแล้วรู้สึกยังไง ให้เล่าสิ่งที่ต้องการออกมา แล้วเขาก็จะเอาไอเดียของพวกเราทั้ง 6 คน มาเป็นเพลงและเนื้อเพลง
จากคอนเซปต์ของมิวสิควิดีโอ (MV) เรามีส่วนร่วมยังไงบ้าง
เนย : มีค่ะ ความจริงเหมือนพี่ๆ เขาจะมีการออกแบบให้ก่อนว่า เป็นคอนเซปต์ยังไง เพื่อเข้ากับเอ็มวีหรือเข้ากับเพลง แต่พวกเราก็จะมีส่วนเลือกในเรื่องของชุด ที่มันมี 2 แบบ เราจะได้เลือกว่า เราชอบแบบไหน หรือถ้าไม่ชอบแบบหนึ่ง สามารถเอามาผสมกับแบบที่ 2 ได้มั้ย เรามีส่วนเต็มที่เลย หรือว่าถ้าตรงนี้ไม่ชอบ แขนเสื้อจะสั้นหรือยาว บอกได้หมดเลย
นิกี้ : เรื่องสีผมก็ด้วย
เจนนิษฐ์ : เขาให้เราเสนอสิ่งที่เราอยากทำ แล้วค่อยๆ ปรับกันไป
ในเพลงนี้ แต่ละคนชอบเพลงไหนกันบ้าง
ทั้งวง : (ทำเสียงตื่นเต้น)
เนย : ชอบท่อนแร็ป (ร้องเพลง)
นิว : ชอบท่อนหลัง
นิกี้ : I’am Lyra ค่ะ
ปัญ : ขอเล่าตอนที่แต่งท่อนแร็ปให้ฟังนิดนึงค่ะ หนูรู้สึกว่า ในช่วงแรกจะมีการตีกรอบนิดนึงว่า วงนี้จะออกมาเป็นยังไง หนูก็เลยอยากให้เป็นแบบว่า ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ในชีวิต ก็แค่ลองไปก่อน เราจะมาสร้างกฎด้วยกันว่า นี่คือไลร่า ไม่อยากให้มีการตีกรอบ
ในเรื่องท่าเต้น มีการฝึกซ้อมมากน้อยแค่ไหน
เจนนิษฐ์ : ทุกครั้งที่ว่างจากตารางงานอื่น เราก็เอาเวลาตรงนี้มาซ้อมเต้นทั้งหมดเลยค่ะ เพราะค่อนข้าบงที่จ้ะเวลาที่จะจดจำท่าเต้นยากๆ อยู่ ก็ต้องฝึกด้วยกันอีกค่ะ
รวมๆ ฝึกมาเป็นเวลาเท่าไหร่
ปัญ : ก็เป็นเวลาปีเหมือนกัน ด้วยความที่เราอยู่ BNK48 พอจะมีพื้นฐานมา แล้วก็คือมีการฝึกซ้อมมาตลอด พอมาอยู่วงนี้ ก็มีการฝึกซ้อมเพิ่มขึ้น จนมาฝึกหนักกันมากขึ้น ตอนที่ได้เพลงไลร่ามา คือมีช่วงเวลาที่สั้นมากเลยนะคะ แต่ซ้อมหนักมาก
คอนเซปต์ของเพลงและวง
ฟ้อนด์ : จะเป็นแบบสองโลกค่ะ มีอีกตัวตนหนึ่งที่เราไม่ค้นพบว่าตัวเองเป็นยังไง พอไปเจอตัวเราอีกโลกหนึ่ง ก็รู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่ฉันรัก และเราก็จะแสดงสิ่งนั้นออกมา
เนย : เหมือนคอนเซปต์เอ็มวี พวกเราก็มีส่วนช่วยด้วย พี่เขาก็ถามว่าอยากให้เอ็มวีเป็นยังไง แต่ละคนก็ให้พูดทีละคนเลยค่ะ แต่โดยส่วนมาก ด้วยความที่เป็นเพลงแรกที่มันเป็นชื่อวงด้วย เลยอยากให้เน้นที่พวกเรา เรื่องราวอาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ให้เป็นตัวของพวกเราในแต่ละคนให้ชัดที่สุดในเอ็มวี
อย่าง "ฟ้อนด์" , "นิว" และ "นิกี้" ที่เป็นสมาชิก BNK48 รุ่น 2 พอมาร่วมวงกับรุ่น 1 มีความท้าทายตัวเองยังไงบ้าง
ฟ้อนด์ : หนูรู้สึกว่า มันไม่ใช่การท้าทายขนาดนั้นค่ะ แต่ว่าเป็นโอกาสที่ดีมากกว่า เพราะว่า จริงๆ ตอนอยู่ BNK48 ก็มีความน่ารักเอ็นดูเวลาอยู่ในวงด้วยกัน แต่ว่าเราก็ไม่ได้มีโอกาสที่ได้คุยกันขนาดนั้น หนูรู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะว่าพอได้สัมผัสพี่ๆ เขาจริงๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก เข้าใจเลยว่า ทำไมทุกคนรักกันขนาดนี้ จนหนูรู้สึกว่าภูมิใจจริงๆ เพราะว่าหนูชอบคนเยอะๆ อยู่แล้ว แล้วมาเจอคนใหม่ๆ ก็รู้สึกว่า เราก็มีคนเพิ่มขึ้นที่สามารถสนิทใจที่คุยได้หลายๆ เรื่อง
มันเหมือนกับสามารถดึงทักษะและพัฒนาหลายๆ เรื่องด้วย
ฟ้อนด์ : ใช่ค่ะ ก็ได้อะไรจากพี่ๆ เยอะเหมือนกัน
นิกี้ : ส่วนของหนู หนูบอกตรงๆ ว่าเป็นคนที่ยังไม่สนิท จะยังไม่กล้าเข้าหา แต่ก็มีความรู้สึกว่า พี่ๆ เขาเป็นกันเอง ดูฟรนด์ลี่ อยากเขาหาอยู่มากๆ หนูก็เปิดใจยอมรับ ตอนนี้ก็สนิทกันแล้ว
ปัญ : แต่นิกี้เราได้เห็นพัฒนาการ ตอนแรกจะยังเงียบๆ ก่อน แต่ซักพักก็เริ่มมาทีละนิด
อย่าง "ปัญ" เป็นรุ่นพี่ เราให้คำแนะนำน้องยังไงบ้าง
ปัญ : จริงๆ เราก็ไม่เชิงว่าเป็นรุ่นพี่ให้คำแนะนำ เอาจริงๆ ทุกคนเก่งคนละด้าน และน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งมที่เป็น 6 คนนี้ อย่างส่วนของหนู อาจจะไม่ได้เป็นคนที่ร้องเพลงเก่งมาก อย่างตอนทำกิจกรรมทื่ได้จับคู่กับนิว นิวก็สอนหนูร้องเพลง หรือเรื่องอะไรต่างๆ หนูรู้สึกว่าพวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใครเก่งด้านนี้ ก็มาช่วยเหลือกันไปเรื่อยๆ พวกเรา 6 คน อยู่ด้วยกันแล้วส่งเสริมกันดีเนอะ (หัวเราะทั้งวง)
ก่อนที่จะมาเป็นซิงเกิลนี้ มันหนักประมาณไหน สำหรับวงเรา
เนย : จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าหนักขนาดนั้นค่ะ แต่ละคนก็จะมีโมเม้นต์ที่บางครั้งแบบ ความรู้สึกที่ไม่ได้คุยกัน แต่ละคนก็จะมีความรู้สึกที่จัดการกับตัวเองได้ แต่สำหรับตัวหนูเอง หนูรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายค่ะ และมันเป็นโอกาสที่ไม่ได้รับมาง่ายๆ เพราะฉะนั้นการที่จะมาเป็นวงนี้ เราก็ต้องทำตรงนี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะให้แฟนๆ แต่ละคนฟังผลงานของพวกเรา และอย่างน้อยก็ติดตามผลงานของพวกเราต่อไปด้วย เพราะฉะนั้นรู้สึกว่าไม่ได้กดดันหรือเครียดขนาดนั้นค่ะ พวกเราก็แฮปปี้ เนอะ (หันไปถามทุกคนในวงแล้วยิ้ม)
ฟ้อนด์ : อย่างนิว หนูรู้สึกชื่นชมนะคะ จะรียกว่าเป็นไอดอลสำหรับหนูก็ได้ เพราะนิวจะให้กำลังใจด้วยคำพูด เหมือนเราดูคลิปแนวนี้ แบบ วิธีกำจัดความคิดตัวเอง หรือ วิธีคิดบวก จนเรารู้สึกว่า เป็นคนคิดดี
ปัญ : จะไม่ค่อยได้ยินคำว่า ‘ทำไม่ได้’ จากเมมเบอร์ จะได้ยินแต่คำว่า สู้ๆ อันนี้คือ โพสต์อวยนิว (หัวเราะทั้งวง)
เปิดตัวซิงเกิลแรก เราคาดหวังอะไรบ้าง
เนย : เอาจริงๆ ก็อยากให้ทุกคนชอบค่ะ เหมือนทุกอย่างที่ออกมา พวกเราก็ตังใจเลือก ตั้งใจออกมาให้เป็นเราที่สุด แล้วมันก็นานแล้ว ที่โปรเจกต์ออกมาเป็นปี ในที่สุดเพลงแรกออกมาซะที อยากให้ทุกคนชอบ และก็มีความสุขกับเพลง เอาจริงๆ แค่นี้ หนูว่าก็ประสบความสำเร็จในขั้นแรกแล้ว
เจนนิษฐ์ : ส่วนหนู ถ้าเกิดว่าไปได้ไกลมากกว่านี้ อยากให้คนที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อนเปิดใจได้มาฟัง แล้วก็อยากให้วงการเพลงทีป็อปกลับมาครึกครื้น มีคนมาสนใจประเทศไทยด้วยเสียงเพลงต่างๆ
สำหรับแต่ละคนที่เปลี่ยนลุคด้วยเสื้อผ้า แต่ละคนรู้สึกยังไงบ้าง
ทั้งวง : หัวเราะ
ปัญ : จริงๆ ชุดของปัญ ไม่ค่อยได้เปลี่ยนมากค่ะ ด้วยความที่เราชอบแต่งตัวอยู่แล้ว แล้วพี่เขาจะศึกษาเราจากไอจีที่เราลงรูป เขาก็จะพอรู้ว่า เราชอบอะไรยังไง ประมาณไหน อย่างเราชอบกางเกงขายาว หรืออะไรก็ตามแต่ หนูรู้สึกว่า มันเป็นการเปลี่ยบลุคที่เรารู้สึกปลอดภัย แล้วมันก็ออกมาจากคอมฟอร์ต โซนของเราเหมือนกัน ก็เลยรู้สึกว่า ชอบที่ได้ใช้
เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแนวไปเลยมั้ย
เนย : คือความจริงมันมีชุด 2 แบบ แต่ใจก็อยากจะได้อีกชุดหนึ่ง เพราะว่านานๆ ทีจะได้ใส่ชุดนั้น เราก้แกล้งถามเพทื่อนว่าเอาชุดไหนดี ทุกคนก็ให้ความเห็นว่าเอาชุดนี้ แต่เหมือนชุดนี้ก็เป็นคาแรกเตอร์อีกมุมหนึ่งของเรา ก็เลยเลือกชุดนี้ค่ะ
นิกี้ : แล้วก็เรื่องทรงผม ถ้าในวง BNK48 ส่วนมากก็จะเป็นผมลอนแต่ก็เรียบๆ ไว้ เพื่อให้เข้ากับชุด แต่ทรงนี้ก้เป็นตัวเองมาก เป็นสิงโต (หัวเราะ) ชอบความหัวฟู
อย่างเรียลลิตี้ที่ปล่อยในช่วงโควิด-19 กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง
เจนนิษฐ์ : หนูชอบนะคะ ที่สื่อเรื่องราวของเรา ตอนแรกเขาก็จะชอบแค่คนนี้ แต่พอดูรายการปุ๊บ เขารู้สึกว่า เขารักและชอบทั้ง 6 คนเลยค่ะ
แล้วในปลายปีนี้เราจะมีเซอร์ไพรส์อะไรมั้ย
เจนนิษฐ์ : ก็จะมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้นะคะ ถ้าใกล้ๆ ก่อน ภายในสิ้นเดือนนี้ ก็จะมีการไป collape กับศิลปินต่างประเทศท่านอื่นที่เรายังไม่เปิดเผยในตอนนี้ แต่ถือว่าโปรเจกต์ที่ดีแน่นอน
ฟ้อนด์: ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ก็จะมีการพรีออเดอร์ซีดี
เนย : ภายในสิ้นปีนี้ ก็จะมีอีก 1 ซิงเกิลค่ะ แต่ว่าจะเป็นเป็นเพลงแนวไหน ก็รอติดตามเลยค่ะ พวกเราค่อยๆ ก้าวทีละก้าวค่ะ
สามารถติดตามได้ที่ช่องทางไหนบ้าง
นิว: ก็จะมีทาง Instagram : lylaofficial tik-tok ทวิตเตอร์ ยูทูป ก็อย่าลืมติดตามกันได้ค่ะ
เรียบเรียง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
