กรณีดรามารอยสัก “พญานาค” เมียช่างโจ้ ออกมาตอบคำถามชาวเน็ต อุปกรณ์สกปรกเป็นของช่างคนเก่า เสียความรู้สึกไปแก้ให้ฟรี แต่กลับโดนวิจารณ์ เผย เบื้องต้นได้ปรึกษาทนาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โจมตี ฐานหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมฯ แล้ว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวลงในกลุ่ม “ประเทศคอน” โพสต์ภาพและข้อความระบายความในใจ หลังตนได้ไปสักลายรูปพญานาคสีเขียว ลักษณะลำตัวขดงอ และชูคอสง่า แต่รูปที่ได้กลับไม่ตรงตามแบบ โดยผู้โพสต์ระบุว่า “คุณสักให้เราไม่ตรงปก แล้วคุณยังมาว่าด่าเราอีก นี่หรือคือ จรรยาบรรณของช่าง ฝากกลุ่มประเทศคอน เป็นสื่อกลางด้วยนะคะ เพราะไม่อยากให้คนที่คิดจะสักต้องเจอแบบ เราเพราะร้านสักก็อยู่ในเมืองนคร”
ต่อมา “ช่างโจ้” ประธานชมรมผู้รักอาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย เจ้าของร้านสัก “ร่มไม้ แทททู” อาสาแก้ลายสักให้สวยงาม โดยใช้เวลาสักแก้งานตั้งแต่ 13.00 น. จนถึง 05.00 น. จึงได้ภาพพญานาคที่สง่างาม และดูน่าเกรงขาม มียอดแชร์ถึง 8,300 ครั้ง และมีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมฝีมือของช่างโจ้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีการแฉว่าประธานชมรมผู้รักอาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย ผู้แก้รอยสัก “พญานาค” ไม่ตรงปก จนเป็นข่าวดังว่า ขณะแก้รอยสักนั้น มีการดื่มเบียร์ไปพร้อมกัน อุปกรณ์ก็ไม่สะอาด ไม่มีความเป็นมืออาชีพ สุดท้ายทำหลังผู้สักอักเสบ รอยสักลอก วอนช่างสักทั่วประเทศเก่งแค่ไหน แต่ความสะอาดต้องมาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ต.ค. มีรายงานว่า ภรรยาของ “ช่างโจ้” ประธานชมรมผู้รักอาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ สามีเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดความเครียดสะสม พักผ่อนน้อย หลังจากเดินทางกลับมาจากการแก้รอยสักที่นครศรีธรรมราช และเริ่มมีกระแสดรามา ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ ร่างกายทรุดตัวลง จนหายเงียบไป เพราะต้องรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพจิตใจ
นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงประเด็นดรามาในโลกโซเชียลที่ถูกตำหนิเกี่ยวกับการแก้รอยสัก โดยได้เผยว่า หลังสักเสร็จมีการปรับแสงให้ดูสดใส เนื่องจากสถานที่สักเป็นบ้านของเจ้าของรอยสัก ที่แสงสว่างน้อย และมีเพียงแสงสว่างจากโคมไฟเท่านั้น ปกติหลังสักเสร็จ ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่ารอยสักจะลอกหมด แต่นี่ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน มันยังลอกไม่หมด โดยหลังสักจะต้องดูแลรอยสักไม่ให้ถูกน้ำ สบู่ แชมพู หรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม รวมถึงต้องทาออยล์ให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ ซึ่งตนมีรอยสักจำนวนมากที่เป็นฝีมือสามี ก็ไม่เคยเกิดปัญหาเพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
และเมื่อพูดถึงประเด็นที่ถูกโจมตีอย่างหนักนั้นคือเรื่องของความสะอาดของอุปกรณ์การสัก ภรรยาของช่างโจ้ ได้ระบุว่า เป็นของช่างคนแรก ทางฝั่งของช่างโจ้ไม่ได้เป็นผู่เตรียมไปมีเพียงเครื่องสักและเข็มสักเท่านั้น
สุดท้าย เมื่อสักแก้ให้เสร็จ ทางสาวเจ้าของรอยสักก็มีท่าทีพอใจและไม่เคยติดต่อมาถามอะไรเลย ตนจึงสงสัยว่า หากมีปัญหาหรืออยากได้คำแนะนำ ทำไมไม่ถามเราที่เป็นช่างที่สักให้ แต่กลับนำภาพที่ดูไม่ดี ไปส่งให้เพจโจมตีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนยังไม่สามารถบอกสามีได้ กังวลว่าอาการจะทรุดหนักกว่าเดิม เพราะที่ไปเราตั้งใจไปทำให้ ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเลย แต่กลับถูกโจมตี เบื้องต้นได้ปรึกษาทนาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โจมตี ฐานหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมฯ