MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 27 ก.ย. - 3 ต.ค. 2563)
อันดับ 1 : โรคระบาดไม่เลือกชนชั้น! ทรัมป์-เมียติดโควิด-19 ทั่วโลกพุ่ง 35 ล้านราย
หลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 35 ล้านราย คร่าชีวิตกว่า 1 ล้านคน มาคราวนี้ถึงคิวระดับผู้นำสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 74 ปี โพสต์ทวิตเตอร์ว่า ตนและนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา ติดเชื้อโควิด-19 และจะเริ่มกักตัวทันที พร้อมกล่าวว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม หัวหน้าคณะแพทย์ประจำตัวของทรัมป์ยืนยันว่าอาการไม่รุนแรง พร้อมส่งตัวเข้ารับการรักษาในศูนย์การแพทย์ทหารวอลเตอร์รีด
ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า น.ส.โฮป ฮิกส์ ที่ปรึกษาคนสนิทของประธานาธิบดีทรัมป์วัย 31 ปี ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังนั่งเครื่องบินแอร์ฟอร์ชวันพร้อมกับทรัมป์ ร่วมสังเกตการณ์การประชันวิสัยทัศน์ระหว่างทรัมป์กับนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่รัฐโอไฮโอ และไปช่วยหาเสียงที่รัฐมินเนโซตา โดยเริ่มแสดงอาการระหว่างเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทั้งนี้ เป็นที่วิจารณ์ว่า ที่ผ่านมาทรัมป์แสดงจุดยืนไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่รักษาระยะห่างทางสังคม
อันดับ 2 : ครูหรือปีศาจ? “สารสาสน์” โรงเรียนดังฉาว ผู้ปกครองรับไม่ได้ทำร้ายเด็กบ่อยครั้ง
ความรุนแรงในโรงเรียนเครือสารสาสน์ ซึ่งเป็นของเอกชน ค่าเทอมปีหนึ่งนับแสนบาท แต่ต้องมาเจอพฤติกรรมโหดของครูจนผู้ปกครองรับไม่ได้ เริ่มต้นขึ้นที่โรงเรียนสารศาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ผู้ปกครองหลายรายแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือครูจุ๋ม ครูประจำชั้นอนุบาล 1 หลังพบภาพวงจรปิดตบตีอย่างรุนแรง เด็กบางคนถูกเหวี่ยงกระเด็นลงกับพื้นทำให้นักเรียนหลายคนหวาดผวา เป็นที่เวทนาแก่ผู้พบเห็นคลิป แม้โรงเรียนจะไล่ออกครูจุ๋ม แต่ผู้ปกครองแห่ทยอยพาเด็กลาออก
ขณะเดียวกัน ยังพบนายมาวิน ลิวานัก โอเรโฮล่า ครูสอนภาษาชาวฟิลิปปินส์ทำร้ายร่างกายเด็ก และไม่มีใบอนุญาตทำงาน ทำให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบพร้อมแจ้งความเอาผิดทุกข้อหา นอกจากนี้ ยังมีครูอีกหลายคนทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งผู้ปกครองต่างทยอยแจ้งความแล้ว ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ระบุว่า โรงเรียนเครือสารสาสน์ 34 แห่ง มีปัญหาการบูลลี่ ทำร้ายร่างกาย จัดการเรียนการสอนและเก็บค่าเทอมแพงเกินจริง
อันดับ 3 : “เฌอเอม” หลุดมง! แชตกลุ่มพี่เลี้ยงโผล่ ถูกตัดสิทธิ์-ดับฝันมิสยูนิเวิร์ส
จากเวทีขาอ่อนสู่เวทีดรามาเมื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 กองประกวดตัดสิทธิ์ “เฌอเอม” ชญาธนุส ศรทัตต์ ที่ก่อนหน้านี้โชว์ศักยภาพการตอบคำถาม ถูกมองว่าเป็นตัวเก็งครั้งนี้ เหตุเพราะมีพี่เลี้ยงแฝงตัวเข้ามาเป็นทีมงานในกองประกวด คือ “เคน” สิทธิชัย เร็ววิโรจน์ หนึ่งในทีมผู้ดูแลสปอนเซอร์ กระทั่งเฌอเอมและเคน พร้อมทนายความแถลงข่าว ยืนยันว่าเคนไม่ใช่พี่เลี้ยงและผู้จัดการส่วนตัว เป็นเพียงโบรกเกอร์ขายงานให้ แต่ไม่มีเจตนาปกปิด และไม่เคยรับรู้หรือเห็นข้อมูลคำถามมาก่อนอีกด้วย
ด้านฝั่งกองประกวดแถลงข่าวโต้กลับ พร้อมตัดสิทธิ์เฌอเอมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ระบุว่า พบเคนเข้าประชุมกับกองประกวดหลายครั้ง ไปร้องขอให้เฌอเอมเดินรอบไฟนอล มีความพยายามดันเฌอเอมกับสื่อตลอด อีกทั้งเคนไม่ส่งเอกสารสัญญารักษาความลับกับกองประกวด สำทับด้วยแชตหลุดกลุ่มพี่เลี้ยงหนา 79 หน้า พูดคุยเรื่องปั่นกระแส พาดพิงนางงามคนอื่นด้วย ภายหลังเฌอเอมเปิดใจว่า คงต้องเรียกเคนเป็นผู้จัดการส่วนตัวได้อย่างเต็มปาก จากนี้จะไม่ลงประกวดนางงามเวทีไหนอีก
อันดับ 4 : สลด! ยิง ผอ.องค์การสวนสัตว์ดับ ก่อนยิงตัวตาย ปมเก้งเผือกพันธุ์พระราชทานหายไป
เหตุสลดในสวนสัตว์สงขลาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกนายภูวดล สุวรรณะ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัย และสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์สงขลา ใช้อาวุธปืนยิง 19 นัด เสียชีวิตภายในห้องทำงานผู้อำนวยการสวนสัตว์ ก่อนหนีไปที่บ้านพักแล้วยิงตัวตาย หลังนายสุริยาลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีลูกเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หายไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับกรณีดังกล่าว คณะกรรมการสอบสวนภายในตั้งไว้ 3 เรื่อง คือ 1. ถูกสัตว์อื่นทำร้าย 2. หลุดออกไปจากส่วนจัดแสดง 3. ถูกขโมยออกไป ก่อนได้ข้อสรุปว่าน่าจะถูกขโมย แต่นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา ชี้แจงว่าถูกงูเหลือมกินเข้าไป สัตวแพทย์พิสูจน์แล้ว อย่างไรก็ตาม นายสุริยาได้มีคำสั่งย้ายนายเฉลิมวุฒิและเจ้าหน้าที่อีก 3 คน หนึ่งในนั้นคือนายภูวดล ไปปฏิบัติหน้าที่สวนสัตว์ดุสิต มีผลตั้งแต่ 5 ต.ค. เป็นต้นไป ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเกิดเหตุสลดดังกล่าว
อันดับ 5 : "หญิงอ้อ" สลายขั้ว "หญิงหน่อย" คุมเพื่อไทย - "ประยุทธ์" ไม่เอาด้วยรัฐบาลแห่งชาติ
ความเคลื่อนไหวการเมืองในรอบสัปดาห์นี้ ที่พูดถึงมากที่สุดคือกระแสข่าวว่าจะมีรัฐบาลแห่งชาติ หนึ่งในนั้นคือคำทำนายของนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าของฉายาโหร คมช. อ้างว่าจะมีการจับมือกันคล้ายกับรัฐบาลแห่งชาติ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่างออกมาปฏิเสธ ไม่เคยเจรจาดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาล รวมทั้งกระแสข่าว 2 ป. มอบหมายให้ตั้งพรรคการเมืองสำรองนั้น ก็ไม่เป็นความจริง
ขณะที่การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะบทบาทของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จะเข้ามาดูแลปรับการบริหารจัดการภายในพรรคใหม่ พบว่าที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. มีมติเลือกนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าพรรคอีกสมัย และมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นเลขาธิการพรรค แต่พบว่ากรรมการบริหารชุดใหม่ สลายกลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ออกไป เหลือเพียง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ คนเดียว ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดตระกูลชินวัตรทั้งสิ้น
อันดับ 6 : "น้องชมพู่" ยังเป็นปริศนา "บิ๊กปั๊ด" ผบ.ตร.ป้ายแดงพาอึ้ง ไม่มีหลักฐาน แต่ยังไม่เลิก
หลังคดีการเสียชีวิตน้องชมพู่ หรือ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ขวบ อย่างปริศนากลางป่าภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ผ่านไปกว่า 4 เดือน วันที่ 2 ต.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าว ระบุว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอออกหมายจับ หรือดำเนินคดีกับใครได้ แต่คดีมีอายุความ 20 ปี เชื่อว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นภูเขาไปเอง อาจถูกใครบางคน กระทำด้วยวิธีการใดๆ ไม่ว่าเป็นทางตรงหรือทางอ้อมทำให้เกิดการเสียชีวิต
ส่วนกรณีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานพอตั้งข้อหาใคร แต่ที่ลุงพลตกเป็นจำเลยสังคม ใครเป็นคนเอาตำแหน่งนั้นให้ ต้องไปถามผู้มอบตำแหน่ง ตำรวจคงตอบไม่ได้ พร้อมฝากถึงคนร้ายว่า ขอให้นอนเครียดต่อไป เรายังไม่เลิก ขณะที่ลุงพลพร้อมภรรยามาดูการแถลงข่าว ระบุแค่อยากถามสั้นๆ ถึงผลการตรวจดีเอ็นเอตรงกับผู้หญิงฝ่ายแม่เท่านั้น แต่ไม่เปิดโอกาสให้ถามอะไรมาก ขณะที่พ่อแม่น้องชมพู่พอใจการแถลงข่าว ที่ไม่สามารถระบุบุคคลต้องสงสัยได้อย่างชัดเจนนั้น ไม่อยากกดดันการทำงานตำรวจ
อันดับ 7 : ใจแลกใจ "คาเฟ่ อเมซอน" ถอนตัวร้านกาแฟ หลังผู้พิการดรามา พ่ายทุนใหญ่-ไม่มีที่ไป
ดรามาร้านกาแฟผู้พิการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ระบุว่า ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภายในคณะนิติศาสตร์ จะปิดตัวลงในวันที่ 10 พ.ย. เนื่องจากเจ้าของสถานที่ได้มอบสัมปทานให้ร้านกาแฟอื่นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้คนพิการหลายคนต้องตกงาน ขาดรายได้ และรำพึงรำพันว่าพ่ายแพ้ต่อระบบนายทุนใหญ่ พร้อมขอให้ช่วยแชร์เป็นกระบอกเสียงให้ร้านกาแฟกลับมาเหมือนเดิม ทำเอาโลกโซเชียลแห่แชร์พร้อมทวงถามไปถึงเจ้าของพื้นที่ต้นสังกัด
ด้านคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้แจงว่า การคัดเลือกร้านกาแฟโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย ใช้วิธีการแบบเดียวกับที่ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ได้ไปเมื่อปี 2561 ซึ่งพบว่าร้านคาเฟ่ อเมซอน ได้คะแนนสูงกว่า และตอบรับที่จะว่าจ้างลูกจ้างที่เป็นคนพิการต่อไป แต่คณบดียังไม่ได้ให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกอย่างใด อย่างไรก็ตาม บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ประกาศถอนตัวไปแล้ว และยืนยันว่าให้ความสำคัญกับผู้พิการมาตลอด โดยเฉพาะการเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน เพื่อการสร้างโอกาส 9 สาขา
