เรือนจำกลางชลบุรี จัดการฝึกซ้อมแผนป้องกันการระงับเหตุภายในเรือนจำ เพื่อเตรียมความพร้อมในการควบคุม และแก้ไขสถานการณ์ในกรณีฉุกเฉินได้ หากเกิดเหตุการณ์จริง
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่เรือนจํากลางชลบุรี ณ ลานอเนกประสงค์ อาคารรัตนมงคล นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดโครงการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายภายในเรือนจํากลางชลบุรี ครั้งที่ 2/2563 โดยมี นายชาญ วชิรเดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์
ตามที่กรมราชทัณฑ์ได้กําหนดให้เรือนจํา ทัณฑสถาน ดําเนินการซักซ้อมแผนป้องกันการระงับเหตุ ซึ่งมีการระงับเหตุร้ายภายในเรือนจําเป็นประจํา ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในเรือนจํา ทัณฑสถานต่างๆ มีความพร้อมและเกิดทักษะ สามารถปฏิบัติตนตามวิธีการและแนวทางการแก้ไข ปัญหาเมื่อเกิดเหตุร้ายต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที และไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน มีทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เรือนจํากลางชลบุรีได้จัด โครงการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายภายในเรือนจํากลางชลบุรีขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เป็นการจําลองสถานการณ์ กรณีผู้ต้องขังก่อเหตุจลาจล นั้น
เนื่องจากเรือนจํากลางชลบุรีเป็นเรือนจําความมั่นคงสูง มีอํานาจการควบคุมผู้ต้องขัง กําหนดโทษจําคุก 15 ปี ถึงตลอดชีวิต ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ต้องขังทั้งสิ้น ประมาณ 7,000 คน ปัญหาความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจํา รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ( COVID-19) ในปัจจุบัน ทําให้เรือนจํามีการกําหนดมาตรการต่างๆ ออกมาบังคับใช้มากมาย เช่น การเยี่ยมญาติมีการกําหนดจํานวนญาติที่เข้าเยี่ยมในแต่ละวัน ทําให้คิดมากเนื่องจากญาติไม่มาเยี่ยมบ้าง ญาติไม่ได้ฝากเงินให้ไม่มีเงินใช้จ่าย ทําให้ผู้ต้องขังส่วนใหญ่เกิดความเครียดสะสม และมีผู้ต้องขังกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-10 คน ผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ปลุกปั่นผู้ต้องขังภายในแดน 4 ให้ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งเจ้าหน้าที่ และไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจํา ซึ่งทําให้มีผู้ต้องขังที่ก่อความวุ่นวายในครั้งนี้ ประมาณ 100 คน ทั้งส่งเสียงดังโวยวาย และขว้างปาสิ่งของ ใช้กําลังทําร้าย ผู้ช่วยงาน มีการจุดไฟเผา จนเกิดเป็นเหตุจลาจล ขึ้น
ฉะนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจํากลางชลบุรี มีความพร้อมมีทักษะสามารถ เผชิญเหตุการณ์ และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เมื่อเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติ การเข้าเผชิญเหตุ และการระงับเหตุจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้กําหนดจัดโครงการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับ เหตุร้ายภายในเรือนจํากลางชลบุรี ครั้งที่ 2 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขึ้น โดยเป็นการซักซ้อมร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่มีความสําคัญหากเกิดเหตุร้ายขึ้น ได้แก่ อําเภอบ้านบึง โรงพยาบาลบ้านบึง สถานีตํารวจภูธรคลองกิ่ว เทศบาลตําบลหัวกุญแจ องค์การบริหารส่วนตําบล คลองกิ่ว ประปา ไฟฟ้า ในพื้นที่ และอีกหลายหน่วยงาน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวเปิดงานว่า ผมต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่ให้เกียรติผมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการซักซ้อม แผนป้องกันและระงับเหตุร้ายภายในเรือนจํากลางชลบุรี ครั้งที่ 2 ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในครั้งนี้ ซึ่งกําหนดให้เป็นกรณีการเกิดเหตุผู้ต้องขังก่อจลาจลในเรือนจํากลางชลบุรี ซึ่งการซักซ้อม แผนป้องกันและระงับเหตุร้ายฯ มีความจําเป็นและสําคัญอย่างยิ่ง เราจะต้องมีการทบทวนการปฏิบัติ การเตรียมความพร้อมวัสดุ/อุปกรณ์ในการเข้าระงับเหตุฯ รวมถึงการกําหนดมาตรการในการป้องกันด้านต่างๆไว้ เพื่อหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง หรือทําให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ในการซักซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายฯ ในครั้งนี้ จะทําให้เจ้าหน้าที่มีความรู้และทักษะ และนําไปใช้ในการควบคุมแก้ไขสถานการณ์ในกรณีฉุกเฉินได้ มีความพร้อมในการป้องกันภัยหรือระงับเหตุร้ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งเกิดทักษะและความชํานาญในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพอันดีในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกเรือนจํา อันนํามาซึ่งความสามัคคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร