นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความแนะวิธีจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยให้ดูวิธีของประเทศจีนเป็นแนวทาง พร้อมยืนยันมีกลุ่มหนุนคอยแทรกแซงมาจากต่างประเทศ
วันนี้ (11 ก.ย. ) เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ออกมาระบุข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง หลังกลุ่มนักเรียนนักศึกษาออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดย ดร.นิว เผยว่า มีกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการปั่นกระแสหนุนม็อบแทรกแซงประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้แนะรัฐบาลให้ใช้วิธีจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมเช่นเดียวกับประเทศจีนใช้จัดการกับประเทศฮ่องกง ทั้งนี้ “ดร.นิว” ได้ระบุข้อความว่า
“ใครอยู่เบื้องหลังปั่นกระแสหนุนม็อบแทรกแซงประเทศไทย
งานวิจัยปี 2017 ชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ชี้ให้เห็นว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา มีกองทัพไซเบอร์ที่มีความหนาแน่นที่สุดในโลก และยังมีอีกหลายประเทศในขณะนั้นที่มีกองทัพไซเบอร์ขนาดใหญ่
สอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้นของซูเปอร์โพล ในปัจจุบันเป็นอย่างดี ว่า กระแสโซเชียลเกี่ยวกับม็อบที่กำลังเคลื่อนไหว มีการปั่นกระแสจากต่างประเทศร่วมด้วย ล่าสุด ทั้ง #ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส และ #สู้เป็นไทถอยเป็นทาส มาจากต่างประเทศถึงเกือบ 90% อันสะท้อนให้เห็นถึงการมีอยู่จริงของขบวนการแทรกแซงที่ทันสมัยของต่างชาติ และความร่วมมือในการปั่นกระแสปลุกม็อบระหว่างคนไทยกับต่างประเทศ
เราคงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเครือข่ายของนายกโซเชียลกับกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NED ของสหรัฐอเมริกาถึงเติบโต และสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในโลกโซเชียลที่มีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนได้อย่างรวดเร็ว
เบื้องหลังของม็อบที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในขณะนี้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการแทรกแซงประเทศไทย โดยมีประเทศมหาอำนาจอยู่เบื้องหลัง ที่ได้สนับสนุนทั้งเงินทุน ทรัพยากรทางเทคโนโลยี และโนว์ฮาว หรือวิทยาการความรู้ในการปลุกระดม โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของท่านนายกโซเชียล หรือลุงสุรชัยก็ตาม สุดท้ายแล้วมวลชนของทั้งสองกลุ่มก็มาบรรจบกันที่ม็อบเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ดี เพราะมีต่างชาติกลุ่มเดียวกันอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรหันมาตระหนัก และใส่ใจถึงพิษภัยของขบวนการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธ หรือ Weaponization of Social Media ในการปั่นกระแสปลุกระดม ยัดเยียดข้อมูลบิดเบือน หลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง
แม้ว่าทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จะออกมาปฏิเสธการสนับสนุนม็อบ แต่ก็ไม่อาจที่ปฏิเสธได้ว่ามีองค์กรอย่าง NED เป็นต้น ที่รับเงินจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแล้วให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มอิงการเมืองต่างๆ ที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับม็อบ
อีกทั้ง นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนปัจจุบัน ได้ย้ายมาจากฮ่องกงในช่วงปลายเดือน ก.ค. 62 หลังจากที่ประเทศจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญรึเปล่า? หลังจากที่เขาอาศัยอยู่ในฮ่องกง เป็นเวลานานกว่า 20 ปี และมีบทบาทสำคัญในฐานะนายหน้าคนสำคัญของสหรัฐอเมริกาที่มีอิทธิพลในภูมิภาคนี้
ก็ไม่รู้ว่าการเข้ามาพำนักในประเทศไทยของ นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และความรุนแรง ตลอดจนสงครามกลางเมืองอย่างที่เกิดขึ้นในฮ่องกงหรือไม่?
แต่อย่างไรก็ดี ถ้ามีสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ขอแนะนำให้รัฐบาลไทยลองพิจารณาการแก้ไขปัญหาของประเทศจีนเป็นแนวทาง เผื่อมีใครบางคนร้อนตัวแล้วรีบแจ้นออกไปบ้างก็เป็นได้”