นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึง 2 องค์กร ฮิวแมนไรท์วอตช์ กับแอมเนสตี้ ว่าเป็นองค์กรจอมปลอม ไม่เคยช่วยเหลือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนโดยตรง เผยเป็นแค่เครื่องมือแทรกแซงทางการเมืองของมหาอำนาจตะวันตก
วันนี้ (1 ก.ย.) เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ออกมาระบุข้อความถึง 2 องค์กรอย่าง ฮิวแมนไรท์วอตช์ และ แอมเนสตี้ ถึงความจอมปลอม ว่าองค์กรทั้งสองนี้ไม่เคยออกมาช่วยเหลือสังคมในเรื่องที่มีความจำเป็นและเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนโดยตรง นอกจากนี้ “ดร.นิว” ได้ระบุอีกว่า ฮิวแมนไรท์วอตช์กับแอมเนสตี้ควรกลับไปดูแลปัญหาสิทธิมนุษยชนในบ้านของตัวเองให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะมาวุ่นวายเรื่องของชาวบ้าน
ทั้งนี้ “ดร.นิว” ได้ระบุข้อความว่า "เราแทบจะไม่ค่อยได้เห็นฮิวแมนไรท์วอตช์กับแอมเนสตี้ ออกมาช่วยเหลือสังคมในเรื่องที่มีความจำเป็นและเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนโดยตรง หรือช่วยเหลือผู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคมไทย ก็เพราะทั้งสององค์กรต่างก็เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงทางการเมืองของมหาอำนาจตะวันตก ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสององค์กรเอาแต่เคลื่อนไหวในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยใช้คำว่า “สิทธิมนุษยชน” เป็นข้ออ้างในการแทรกแซงประเทศไทยอย่างชัดเจน ทั้งหมดก็เพื่อกดดันและตักตวงผลประโยชน์ทางการเมืองจากประเทศไทยทั้งสิ้น
ถ้า ฮิวแมนไรท์วอตช์ กับแอมเนสตี้ มีความเจริญทางประชาธิปไตยและจรรยาบรรณในการทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง ก็ควรที่จะเคารพกฎหมายของไทย และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติในข้อ 2 (7) ที่จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น แล้วหยุดแอบอ้างคำว่า “สิทธิมนุษยชน” เพื่อแทรกแซงทางกิจการทางการเมืองในบ้านของคนอื่น ทั้งๆ ที่สิทธิมนุษยชนในบ้านของตัวเองยังมีปัญหาอยู่เลย
- ฮิวแมนไรท์วอตช์เป็นของสหรัฐอเมริกามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก แต่รู้หรือไม่ว่า นครนิวยอร์กกลับเป็นเมืองที่มีจำนวนคนไร้บ้านสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา เกือบแปดหมื่นคน รวมกันทั้งประเทศก็มีจำนวนเกินครึ่งล้าน
- แอมเนสตี้เป็นของอังกฤษมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน แต่รู้หรือไม่ว่า ทุกวันนี้ประเทศอังกฤษกำลังประสบกับปัญหาทาสสมัยใหม่ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จนล่าสุดน่าจะมีจำนวนสูงเกินกว่าหนึ่งหมื่นคนแล้ว
ดังนั้น ฮิวแมนไรท์วอตช์กับแอมเนสตี้จึงควรกลับไปดูแลปัญหาสิทธิมนุษชนในบ้านของตัวเองให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะมาวุ่นวายเรื่องของชาวบ้าน แล้วแทรกแซงด้วยการแอบอ้างคำว่า “สิทธิมนุษยชน” และฝากไปถึงบรรดาคนที่รับเศษเงินจากฝรั่งมาทำงานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของต่างชาติมากกว่าชาติของตัวเอง พวกคุณมีเคยมีส่วนช่วยทำให้สังคมดีขึ้นบ้างหรือไม่? เคยลงมือช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสจำนวนมากในสังคมกันบ้างหรือเปล่า? หรือดีแต่เป็นเครื่องมือของต่างชาติในการแทรกแซงความมั่นคงภายในชาติของตัวเอง”