xs
xsm
sm
md
lg

นายก ส.นักประดิษฐ์ เตือนการสร้างความแตกแยกระหว่างครู-เยาวชนนักเรียน อันตราย ไม่ใช่นวัตกรรมเพื่ออนาคต แต่เป็นการทำลาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงปัญหาการแสดงออกทางการเมืองของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ล้ำเส้นไปถึงความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัวที่มีมาแต่เดิมว่า ตนไม่สบายใจที่ขณะนี้การเรียกร้องทางการเมือง สร้างปัญหาความแตกแยกไปจนถึงระดับครอบครัว โดยใช้คำว่าสิทธิเสรีภาพมากจนเกินขอบเขต จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างลำเลิกบุญคุณต่อกัน จนเกิดขัดแย้งปรากฏการณ์ที่น่าเป็นห่วงในสังคมไทยขณะนี้ คำว่าสิทธิเสรีภาพ คือการเคารพ สิทธิและเสรีภาพของตนเองและผู้อื่น ก่อนอื่นเยาวชนต้องเคารพคูรอาจารย์ และอาจารย์ต้องเคารพความคิดเห็นของเด็ก หากเยาวชนคิดผิดระเบียบแบบแผนหรือแนวทางการประพฤติปฏิบัติที่สืบทอดกันมาช้านานและเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม ซึ่งแต่เดิมนั้นกฎหมายก็มีที่มาหรือได้รับแนวทางจากจารีตประเพณีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่จารีตประเพณีที่จะนำมาอุดช่องว่างของกฎหมาย เยาวชนก็ต้องขอทบทวน เพราะครูอาจารย์ คือเป็นผู้ชี้แนะและอบรมสั่งสอน ให้ เยาวชนเป็นคนดีของสังคมไม่ใช่ สอนให้เยาวชนก้าวร้าว ต่อสังคม เยาวชนไทยจะต้องมี สติและปัญญา อย่าฝากไว้กับ “โชคชะตาที่มองไม่เห็น”

“สิ่งที่เยาวชนไทยควรมอง คือ เริ่มต้นจากอดีต และจะมองเห็นอนาคต หากเยาวชนทำลายอดีตคุณจะไม่เห็นอนาคตเลยทั้งชีวิต เพราะอดีตคือ เข็มทิศที่นำทางไปสู่อนาคตที่รุ่งเรื่องมีชีวิตที่มีแบบแผน การเยาวชน ก้าวร้าว ต่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูและส่งลูกไปโรงเรียน และกร้าวร้าวต่อครูบาอาจารย์ เป็นสิ่งที่ดับอนาคตของตัวเอง สิ่งที่ได้ตามมาคือ ลูกกลายเป็นเด็กที่ต่อต้านคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดู เมื่อลูกเกิดขึ้นมา สิ่งแรกที่ลูกต้องรู้ก่อนสิ่งอื่นก็คือพระคุณของพ่อแลแม่ที่ให้กำเนิดขึ้นมา เพียงเท่านี้พระคุณของพ่อแม่ก็ท่วมท้นเสียแล้ว พ่อแม่จึงเปรียบเหมือนเจ้าของชีวิตของลูก โดยพ่อแม่จะกำหนดให้ลูกเกิดหรือไม่ก็ได้ ลูกทุกคนจึงควรสำนึกพระคุณข้อนี้เป็นข้อแรก เมื่อลูกเกิดขึ้นมาก็ได้พ่อแม่เป็นผู้เลี้ยงดูมาโดยตลอด ตั้งแต่แม่ให้ลูกกินนมที่มาจากเลือดในอกของแม่กลั่นมาเป็นน้ำนมให้ลูกกิน เมื่อโตขึ้นพอกินอาหารได้ พ่อแม่ก็จะสรรหาอาหารที่ดีที่สุดมาให้ลูกกิน แม้บางครั้งพ่อแม่จะต้องอดก็ตาม แต่พ่อแม่ก็ทำได้เพื่อลูก ซึ่งเมื่อลูกโตขึ้นพ่อแม่ก็ยังคอยดูแลลูกอยู่เสมอ พ่อแม่จะให้ทุกอย่างแก่ลูก ทั้งของเล่น ทั้งของกิน ทั้งของใช้ และความรู้เท่าที่พ่อแม่จะสามารถหาได้ เมื่อลูกโตถึงวัยที่จะมีคู่ครอง แม้สมัยนี้พ่อแม่จะเลือกคู่ครองให้แก่ลูกไม่ได้ แต่พ่อแม่ก็พยายามสอนให้ลูกรู้จักเลือกคู่ครองที่ดีเสมอ และแม้ลูกจะมีครอบครัวไปแล้วพ่อแม่ก็ยังเป็นห่วงลูกอยู่เสมอจนกว่าชีวิตของพ่อแม่จะจากไป นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของพระคุณพ่อและแม่ที่มีต่อลูก ที่ลูกควรรู้เพราะมันคือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่ต้องอาศัยพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนกว่าลูกจะโตและดูแลตนเองได้ แม้ว่าพ่อแม่จะทำไปตามสัญชาตญาณของสิ่งที่มีชีวิตเหมือนสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายของโลกก็ตาม” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

นายภณวัชร์นันท์กล่าวต่อว่า เยาวชนที่ดีควรจะเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม กล่าวคือจะต้องมีธรรมะในการดำเนินชีวิต ได้แก่ เยาวชนได้รับการปลูกฝังให้เป็นเยาวชนที่ดีแล้วก็จะเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคต และถ้าประเทศชาติมีพลเมืองที่ดี มีความรับผิดชอบปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกาของสังคม และนำหลักประชาธิปไตยมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดบทบาทและหน้าที่ของตนก็ย่อมทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างสงบสุข เมื่อสังคมมีเยาวชนที่ดีและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ย่อมเป็นพื้นฐานทำให้เกิดพลเมืองดีในอนาคต และเมื่อสังคมมีพลเมืองที่ดีย่อมนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างรวดเร็ว เยาวชนกับการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว เยาวชนในสถานภาพของการเป็นบุตรควรมีบทบาทหน้าที่ต้องทำ คือ เคารพเชื่อฟังบิดามารดาช่วยเหลือบิดามารดาในทุกโอกาสที่ทำได้ใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย มีความรักใคร่ปรองดองในหมู่พี่น้อง ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ประพฤติตนให้สมกับเป็นผู้ดำรงวงศ์ตระกูล ทั้งนี้ เยาวชนกับการเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน เยาวชนในฐานะนักเรียนควรมีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ รับผิดชอบในหน้าที่ของนักเรียน คือ ตั้งใจเล่าเรียน ประพฤติตนเป็นคนดีเชื่อฟังคำสั่งสอนอบรมของครูอาจารย์ กตัญญูรู้คุณของครูอาจารย์ รักใคร่ปองดองกันในหมู่เพื่อนนักเรียน ส่งเสริมเพื่อนในทางที่ถูกที่ควร” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

นายภณวัชร์นันท์กล่าวต่อว่า การจะแก้ปัญหาอนาคตของสังคมจะต้องเริ่มจากอัตลักษณ์ความเป็นชาติไทยที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สังคมจะแก้ไขจะต้องใช้เวลาเปลี่ยนแปลง การใช้เวลาระยะสั้นๆ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้นอกจากจะทำให้สังคมเกิดความขัดแย้ง การแก้ไขที่ดีที่สุดเมื่อเราเติบใหญ่มีสติปัญญา เรียนรู้ระบบวัฒนธรรมของชาติและการปกครอง ก็สมัครเป็น ส.ส.เข้าไปแก้ไขกฎหมาย เปลี่ยนแปลงให้ทันต่อยุคและสมัย ทำแบบนี้บ้านเมืองจะไม่เกิดการแตกแยก สังคมของเราจะพัฒนาไปถูกที่ถูกทางซึ่งเป็นการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์อย่างผู้มีปัญญาทำกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น