ลูกหนุนปลดแอก-พ่อเชียร์บิ๊กตู่ “อ.วีระ” แนะเอาบ้านไปฝากออมสิน ดีกว่าตัดพ่อตัดลูก

“วีระ ธีรภัทร” แนะทางออกพ่อเชียร์บิ๊กตู่ ลูกเชียร์ฝ่ายตรงข้าม แล้วทะเลาะกันถึงขั้นตัดลูกตัดพ่อ แนะถ้ามีบ้านปลอดจำนอง เอาบ้านไปจำนองธนาคารออมสิน แล้วเอาเงินไปใช้ซะ เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ เป็นของธนาคารหรือของลูกก็มีค่าเท่ากัน

วันนี้ (10 ส.ค.) ในรายการคุยได้คุยดี ดำเนินรายการโดย นายวีระ ธีรภัทรานนท์ และ นายณัฐพงษ์ ธีระภัทรานนท์ ทางสถานีวิทยุคลื่นความคิด เอฟ.เอ็ม. 96 เมกะเฮิรตซ์ ได้มีสายจากทางบ้านรายหนึ่ง ขอคำปรึกษาปัญหาครอบครัว ระบุว่า มีปัญหากับลูกชายวัย 30 ปี เรื่องความเห็นต่างทางการเมือง โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. เป็นวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 ตนและลูกอีก 2 ไปลงคะแนน ส.ส. กลับมาต่างคนต่างไม่บอกว่าลงคะแนนให้ใคร เมื่อฟังผลการเลือกตั้ง (นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้ง) ปรากฏว่า ลูกชายด่าตนว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ตนเสียใจมากถึงขั้นตัดลูกตัดพ่อ จึงขอคำปรึกษาว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะว่าบางครั้งลูกชายก็ไม่ให้ตนดูทีวี กินข้าวด้วยกันไม่ได้ เพราะลูกชายมักจะบ่นเรื่องการเมือง

นายวีระ กล่าวว่า เรื่องนี้จะตัดลูกตัดพ่อไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งคือการไปเลือกใครเป็น ส.ส. แนะว่าให้ทำตัวเป็นปกติ เราก็ว่าของเราไป ส่วนเรื่องดูทีวีไม่ได้ก็ไปหาทางดู ถ้ามีห้องเป็นของตัวเองให้ซื้อโทรทัศน์มาดูที่ห้องตัวเองคนเดียว อย่าไปยุ่ง ส่วนถ้ากินข้าวด้วยกันไม่ได้ก็ไม่ต้องกินชั่วคราว ถ้าลูกชายบ่นก็อย่าไปฟัง ไปกินที่อื่น ให้ใช้วิธีนานาสังวาส ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกัน เราไม่เปลี่ยนเขา เขาก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรา ต่างคนต่างคิด อย่ามาล่วงล้ำก้ำเกินกัน เมื่อถามว่า ลูกชายอายุเท่าไหร่ มีครอบครัวหรือไม่ ปลายสายก็ตอบไปว่า อายุ 30 ปี ยังไม่มีครอบครัว อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อถามว่าในชีวิตเคยให้เงินบ้างไหม ปลายสายตอบว่า ไม่เคย จึงแนะให้บอกลูกชายว่า แน่จริงให้ไปหาบ้านอยู่ กูจะอยู่บ้านกู

สายจากทางบ้านดังกล่าว ยังถามถึงโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) เอาบ้านไปฝากธนาคารออมสินแล้วเอาเงินมาใช้ นายวีระ แนะนำว่าให้ทำ เพราะเราตายไปก็เป็นเรื่องของเราแล้ว ไม่เกี่ยวกัน เราเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เราจะทำยังไงกับทรัพย์สินก่อนตายก็เรื่องของเรา เมื่อรู้วิธีการแก้เผ็ดก็ดำเนินการเลย

หลังวางสาย นายวีระ กล่าวติดตลกว่า ตนว่าวงการมรดกลูกหลาน เรื่องบ้านและที่ดินคงปั่นป่วน เพราะทรัพย์สินของเรา ไม่ต้องรอให้ตาย เรารู้อยู่แล้วว่าเอาไปไม่ได้ตอนตาย แต่ระหว่างนี้เราจะใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน เราไม่อยากขาย เราจะอยู่ แต่จะอยู่แบบไม่เช่า อยู่แบบบ้านของตนในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อตายไปแล้วมีค่าเท่ากัน จะเป็นของเจ้าหนี้ ของลูกหรือของใครก็เป็นเรื่องของเขา แต่ระหว่างทางเรามีความสุขแล้ว บ้านมูลค่า 3 ล้านบาท อาจจะได้เงิน 20,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 15 ปี บวกลบคูณหารใกล้ตายพอดี แต่ระหว่างนี้เรามีความสุข คนที่ไม่มีบำนาญ ก็ต้องหาทางบำนาญปลอมดีกว่า

สำหรับ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) ธนาคารออมสิน เป็นสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยใช้ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ซึ่งปลอดภาระหนี้เพียงแห่งเดียวเป็นหลักประกัน โดยต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลักของผู้กู้และคู่สมรส (ผู้กู้ร่วม) และต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตลอดอายุสัญญากู้เงิน กรณีหลักประกันเป็นห้องชุด ต้องเป็นห้องชุดในอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุด และต้องมีราคาประเมินไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ต้องตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ มีสภาพคล่องสูง อยู่ในแหล่งชุมชนที่มีความเจริญ มีสาธารณูปโภคที่จำเป็น มีทางสาธารณประโยชน์ ซึ่งรถยนต์ผ่านเข้า-ออกได้สะดวก ทั้งนี้ หลักประกันต้องไม่เป็นที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นที่สวน ที่ไร่ ที่นา

โดยธนาคารให้กู้สำหรับบุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี และต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ และต้องสามารถรับภาระค่าใช้จ่าย หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ โดยให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 60-70 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ ขึ้นอยู่กับประเภทอสังหาริมทรัพย์และทำเล ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 25 ปี โดยให้ระยะเวลาจ่ายเงินกู้เท่ากับ 85 ลบด้วยอายุผู้กู้ ยกเว้นกรณีผู้กู้ร่วมมีอายุต่ำกว่า 60 ปี ให้ระยะเวลาจ่ายเงินกู้เท่ากับ 25 ปี เท่านั้น

ทั้งนี้ สามารถเลือกจ่ายเงินกู้เป็นรายเดือน หรือจ่ายเงินงวดแรกเท่ากับร้อยละ 10 ของวงเงินกู้ จากนั้นจ่ายเงินกู้เป็นงวดรายเดือน กรณีจ่ายครบแล้วผู้กู้ยังมีชีวิตอยู่ ธนาคารจะหยุดจ่ายและคิดดอกเบี้ยกับผู้กู้ต่อไปจนกว่าธนาคารจะได้รับชำระหนี้ปิดบัญชี ผู้สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ที่ ธนาคารออมสินสาขาที่หลักประกันตั้งอยู่

ปัจจุบันมีธนาคารที่ให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากธนาคารออมสินแล้ว ยังมี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กำหนดพื้นที่นำร่องหลักประกันต้องตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล