ในช่วงนี้ประชาชนหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน และอาจถูกสัตว์มีพิษกัด ต่อมาเพจหมอ โพสต์เตือนประชาชนหากถูกงูกัดห้ามทำ 4 ข้อนี้ ห้ามดูด-ห้ามกรีด-ห้ามพอก-ห้ามขัน พร้อมแนะให้ส่งโรงพยาบาลให้ไวที่สุด
จากสถานการณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคอีสานเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ถนนหลายสายถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว และเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ปิดเส้นทาง อย่างไรก็ตามได้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังสัตว์ที่มีพิษที่มาในช่วงน้ำท่วม
วันนี้ (4 ส.ค.) เพจ “หมอเมย์-แม่บ้านมีเลข ว” โพสต์ข้อความเตือนประชาชนหากถูกงูกัด ห้ามทำ 4 ข้อนี้ ระบุว่า “
1. ห้ามดูด ห้ามใช้ปากดูดพิษออกจากแผล นอกจากไม่ช่วยแล้ว คนที่ดูดอาจเป็นอันตรายไปด้วย
2. ห้ามกรีด เพื่อระบายพิษ ระบายเลือด จะยิ่งทำให้แผลสกปรกยิ่งขึ้น
3. ห้ามพอก ห้ามเอาใบไม้ หญ้า หรือโคลน มาพอกแผล รวมถึงห้ามเอาบุหรี่จี้ เพราะจะทำให้แผลสกปรก เสี่ยงแผลติดเน่า แผลติดเชื้อมากขึ้น
4. ห้ามขัน ห้ามขันชะเนาะ หรือรัดเชือกแน่นเหนือแผล เพราะเสียงอวัยวะขาดเลือด ต้องตัดทิ้ง
สำหรับ การปฐมพยาบาลที่ ถูกต้อง หากถูกงูกัด ตั้งสติ งูที่กัด อาจไม่ใช่งูพิษเสมอไป ควรจำลักษณะงู สี หรือลาย ถ้าถ่ายรูปมาได้ก็ดีค่ะ
(แต่อย่าเข้าไปใกล้นะคะ เดี๋ยวมีคนไข้เพิ่มอีกคน)
- ถ้าตีได้ ตีมาให้หมอด้วย (แต่ต้องตีให้ตายก่อนนะ หมอก็กลัว )
- ถ้างูหนีไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปตามจับมานะคะ
ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด เคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยให้อวัยวะนั้น เคลื่อนไหวน้อยที่สุด อาจใช้ไม้ หรือวัตถุแข็งๆ ดามอวัยวะนั้นไว้ขณะเคลื่อนย้าย หรือ นำผู้ป่วย ส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ หากงูกัด ไม่จำเป็นต้องรับเซรุ่มทุกคนเพราะงูบางชนิด ไม่ใช่งูพิษ แต่ควรนำผู้ป่วยส่ง รพ. ให้เร็ว เพื่อให้แพทย์เป็นผู้ประเมินอาการ ว่าจำเป็นต้องรับเซรุ่มหรือไม่ค่ะ
ช่วงนี้ชาวเหนือเจอน้ำท่วม หนักเลย นอกจากใช้ชีวิตลำบาก ทรัพย์สินเสียหายแล้ว ปัญหาที่จะตามมาก็คือ พวกสัตว์มีพิษต่างๆ หนีน้ำเข้าบ้านนี่แหละ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบอุทกภัย ทุกคน เมฝากแชร์บทความนี้ให้กับพี่ๆ น้องๆ ทางภาคเหนือ ได้ดูแลตัวเองและคนใกล้ตัวอย่างถูกวิธีด้วยนะคะ”