ต่างฝ่ายต่างวิจารณ์ กรณี “บอส อยู่วิทยา” รอดคดีขับรถชนคนตาย “แหม่มโพธิ์ดำ” อึ้ง! ใหญ่แค่ไหนถามใจเธอดู “พระกิตติศักดิ์” ชี้เกิดขึ้นแก้ไม่ได้ “ทิชา ณ นคร” คาดต้องมีคนได้ประโยชน์มหาศาล “เดียร์ วทันยา” ชี้ถ้าไม่มีคำตอบชัดเจนมีปัญหาแน่นอน “โรม” ชี้ตอกย้ำกังขาสังคมไทยถึงกระบวนการยุติธรรม “วัฒนา” จวกยับ โยงน้องชาย “ประวิตร” รับลูกยื่นถึงอัยการสูงสุด ชี้ความยุติธรรมประเทศนี้ซื้อได้ ขึ้นอยู่กับ “เป็นพวกของใคร?”
วันนี้ (25 ก.ค.) จากกรณีที่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแหล่งข่าวจาก พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.สน.ทองหล่อ ระบุว่า ได้รับทราบจากอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่ามีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเจ้าของธุรกิจกระทิงแดง ผู้ต้องหาในคดีขับรถหรูเฟอร์รารีชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิตแล้วหลบหนี เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555 โดยได้แจ้งไปทางนายวรยุทธแล้ว และยกเลิกหมายจับแล้วเช่นกัน ทำเอาผู้คนในสังคมไม่พอใจอย่างกว้างขวาง และวิจารณ์ถึงกระบวนการยุติธรรมว่า คุกมีไว้ขังคนจน
เฟซบุ๊กชื่อดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” โพสต์ข้อความระบุว่า “ฟังตำรวจแถลงจบแล้ว ได้แต่บอกว่าเศร้าใจฉิบหาย กับมหากาพย์เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ทายาทกระทิงแดง ชนตำรวจตายแล้วหนี” ประชาชนตามติดมาแปดปี แล้วอัยการก็หักอกชาวไทย ด้วยการสั่งไม่ฟ้อง เรื่องยืดมาถึงขนาดนี้ได้ไง เป็นตาสีตาสา ป่านนี้ไปนอนในคุกเรียบร้อยแล้ว ขนาดตำรวจยังไม่ Save ตำรวจเลย แล้วใครจะมา Save พวกเรา
นี่นั่งรอตั้งแต่เมื่อคืนจนแถลง กะว่าตำรวจจะแถลงแบบเป็นเรื่องเข้าใจผิด CNN รับเงินมาใส่ร้ายประเทศไทย #สรุปเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่หมกเม็ด อย่างที่บอกเมื่อคืน สั่งไม่ฟ้อง 18 มิถุนายน คนไทยมารู้เรื่องนี้จากสื่อนอก 23 กรกฎาคม ใหญ่แค่ไหนถามใจดู อย่าแปลกใจถ้าประชาชนจะคิดว่าตาชั่งแข็งแค่ไหนก็ง้างได้ด้วยแบงก์พัน “ยินดีต้อนรับกลับไทยนะบอส จนวันตาย ทั้งโลกก็ไม่มีวันลืมสิ่งที่...ทำหรอก"
พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Phra Kittisak Kittisobhano ว่า "เรื่องตำรวจ-อัยการ แทรกแซงคดี มิใช่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นแล้วแก้ไขไม่ได้ต่างหาก ไม่ต้องโหวกเหวกโวยวายไปดอก เดี๋ยวคนไทยก็ลืม”
นางทิชา ณ นคร นักสิทธิเด็กเยาวชนและสตรี อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Thicha Nanakorn ระบุว่า “อยากรู้ อยากปลื้มใครในกลไกยุติธรรม ตั้งแต่ รมต. ปลัด อธิบดี กล้าค้านคดีลูกกระทิงแดง” ต่อมาโพสต์ว่า “เฮ้ย! ตลก ต้องรู้ ต้องยอมรับ ต้องเชื่อ ต้องเข้าใจ ใช่มั้ย ว่านั่นคืออัยการคนเดียว ที่ทำลายเสาหลักแห่งธรรม” ถัดมาโพสต์ว่า “ฉันกล่าวเอง? การสั่งไม่ฟ้อง คดีลูกกระทิงแดง ต้องมีคนได้ผลประโยชน์มหาศาล” และโพสต์ว่า “น่าทำพิธีกรรมสาปแช่ง คนทำเสาหลักแห่งธรรม พัง เสื่อม สูญเสียศรัทธา “อัยการ ณ อยู่วิทยา”
ส่วนทวิตเตอร์ @dearwatanya ของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความระบุว่า “เคสบอส อยู่วิทยา สร้างความกังขาให้หลายๆ คน เดียร์เชื่อว่าถ้าไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจอปัญหาแน่นอน”
ทวิตเตอร์ @RangsimanRome ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า “เคสบอส อยู่วิทยา เป็นตัวอย่างชัดๆ ที่ตอกย้ำข้อกังขาที่สังคมไทยมีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศมาโดยตลอด ไม่มีทางเลยที่คนจนคนชั้นกลางส่วนใหญ่ในประเทศจะลอยนวลหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศสบายๆ ได้กว่า 8 ปี แล้วลงเอยด้วยไม่ถูกฟ้องทุกกรณี”
สุดท้าย นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก สาระสำคัญระบุว่า คดีนี้ผู้กระทำความผิดมีการวางแผนสู้คดีอย่างเป็นระบบ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เริ่มจากมีการนำเอาตัวพ่อบ้านมาเป็นผู้ต้องหาแทนแต่ถูกจับได้จึงไม่สำเร็จ ส่วนพนักงานสอบสวนก็มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลย ปล่อยให้บางคดีขาดอายุความ สำหรับคดีประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พบว่าอัยการสูงสุดกลับคำสั่งของตัวเอง เป็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่คัดค้าน จึงทำให้คดีนี้ถึงที่สุดเว้นแต่มีพยานหลักฐานใหม่
"สาเหตุที่อัยการหยิบยกคดีที่มีหลักฐานสมบูรณ์พอฟ้องแล้วมาทบทวนใหม่ เนื่องจากมีผู้ร้องไปยังคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมี พล.ร.อ.ดิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมาธิการให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ ต่อมาคณะกรรมาธิการดังกล่าวได้สอบหาข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ได้กระทำความผิด จึงทำเรื่องขอความเป็นธรรมถึงอัยการสูงสุด โดยอัยการเด้งรับมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบข้อเท็จจริงเพิ่ม จากนั้นกลับคำสั่งเดิมเป็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาเพราะหลักฐานไม่พอฟ้อง" นายวัฒนา กล่าว
นายวัฒนา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจรวม 11 คน แล้วส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. แต่มีมติชี้มูลว่า มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดี หรือความก้าวหน้าแก่ราชการ เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ซึ่งประธาน ป.ป.ช. คืออดีตนายตำรวจที่เคยเป็นเลขาฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ชายของ พล.ร.อ.ดิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมาธิการฯ ที่ส่งเรื่องร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการสูงสุดกลับคำสั่งเดิม
"เอากันให้เต็มที่รัฐบาลและองค์กรอิสระทั้งหลาย วันนี้มีโอกาสแล้วเพราะมีนายกฯ ที่มาจากเผด็จการช่วยกันเหยียบหัวประชาชนต่อไป ความยุติธรรมของประเทศนี้ซื้อได้ และขึ้นอยู่กับเป็นพวกของใคร ส่วนคนไทยความอดทนสูง" นายวัฒนา กล่าว
